จากข่าวที่ประเทศไทยอาจมีสิทธิ์ได้จัดการแข่งขัน MotoGP ในปี 2017 ที่สนามช้างฯ เซอร์กิตนั้น โดยเรื่องนี้ยังคงมีประเด็นที่ตามมาคือ “ค่าลิขสิทธิ์”

เมื่อสนามแข่งรถที่ได้การรับรองจากสมาพันธ์รถยนต์นานาชาติ และผ่านมาตราฐานระดับโลก FIA Grade 1 , FIM Grade A หนึ่งเดียวของไทยอย่าง สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันโมโตจีพีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขาดเพียงแค่ในส่วนของค่าลิขสิทธิ์ที่ต้องจ่ายให้กับทาง ผู้จัดการแข่งขันโมโตจีพีคือ Dorna Sports (ดอร์น่า สปอร์ต) ด้วยเม็ดเงินจำนวนถึง 300 กว่าล้านบาท เพื่อให้ได้สิทธิ์จัดการแข่งขันโมโตจีพีในประเทศไทย

เนื่องจาก สนามช้างฯ ดำเนินงานและเป็นของเอกชนเต็มรูปแบบ หากจะต้องลงทุนในการซื้อสิทธิ์เพื่อให้มีการแข่งขันโมโตจีพี โดยหวังกำไรจากการขายบัตรและค่าที่พักโรงแรมในเครือ รวมถึงค่าสปอร์เซอร์บางส่วนเพื่อให้คุ้มทุนนั้น บวกลบคูณหารแล้วยังคงห่างไกลจากค่าลิขสิทธิ์อีกมากนัก

ทีนี้เพื่อนๆลองมาคิดกันเล่นๆดูว่า 300 ล้านบาท ใครควรจ่ายเพราะ ???

300 ล้านบาท ที่ต้องจ่ายให้กับทาง ดอร์น่า สปอร์ต แบ่งเป็นสัดส่วนประมาณนี้

150 ล้านบาท หน่วยงานราชการอย่าง

กกท. คือ การกีฬาแห่งประเทศไทย

กก. คือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ททท. คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

อีก 150 ล้านบาท ส่วนของเอกชน

ค่ายผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยและยี่ห้อที่ลงทำการแข่งขันโมโตจีพีไม่ว่าจะเป็น Yamaha Honda Ducati Suzuki KTM, สนามช้างฯ และสปอนเซอร์ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับทางสนาม , สถานีโทรทัศน์ , สายการบิน , อื่นๆ

ประเทศไทยจะได้อะไรจากการจัดการแข่งขันโมโตจีพี 1 สนาม

ในส่วนของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ไล่กันตั้งแต่ทีมงานโมโตจีพีจะมาแข่งก็ต้องจองเครื่องบิน สายการบิน ต่อการแข่งขันหนึ่งเรซก็ต้องพัก โรงแรม อย่างน้อย 5-7 วัน และแน่นอนว่าถ้ามีแข่งระดับโลกแบบนี้ โรงแรมในจังหวัดบุรีรัมย์เต็มทะลักไปยังจังหวัดใกล้เคียงล้านเปอร์เซ็นต์ ทีมงานอาจจะต้องมี เช่ารถ เพื่อเดินทางบ้างบางส่วนไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงในจังหวัดต่างๆ ร้านอาหาร คือแบบคนเยอะจนโต๊ะเต็ม ร้านดังๆไม่ต้องไปพูดถึงถ้าไม่จองไม่ได้กิน บอกเลอออ !!! เป็นต้น

ความจุผู้ชมของ สนามช้างฯ ระดับ 50,000 คน รับประกันได้ว่าเต็มจนต้องยืนบังกันเลยทีเดียว เพราะนี้เป็นการแข่งขันโมโตจีพีครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบสองล้อต้องเดินทางไปดูการแข่งขันยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซียหรือญี่ปุ่น

หน่วยงาน ททท. โฆษณาชวนคนไทยอยู่เสมอว่าเมืองไทยมีอะไรให้เที่ยวอีกเยอะ อยากให้เที่ยวเมืองไทย ไม่อยากให้เงินบาทไหลออกนอกประเทศ โอกาสครั้งนี้มาถึงแล้วและมาถึงในแบบกลับกัน เพราะเงินตราจากต่างประเทศ โซนยุโรป โซนอเมริกา และจากประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกัน จะเดินทางมาดูการแข่งขันโมโตจีพี และพร้อมวางแผนท่องเที่ยวเมืองไทยต่อจากดูการแข่งขันจบ พร้อมจับจ่ายใช้สอยเงินกิน เที่ยว ซื้อของฝาก เม็ดเงินจะสะพัดแบบมหาศาลเฉียดพันล้านบาทแน่นอน

ส่วนตัวทีมงาน MotoWish เองเคยเดินทางไปดูการแข่งขันโมโตจีพีอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นที่ประเทศมาเลเซียหรือที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบอกได้เลยว่าทุกครั้งที่ไปดูได้แต่เพ้อฝันอยู่เสมอว่า น่าจะมีการแข่งขันโมโตจีพีที่ประเทศไทย เพื่อให้คนที่รักในสองล้อได้ดูกีฬาการแข่งขันระดับโลกของที่สุดในสายมอเตอร์ไซค์ทางเรียบบ้าง  และแล้ววันนี้ที่รอคอยมากว่าสิบปีใกล้จะเป็นความจริง

เงินค่าลิขสิทธิ์ที่ต้องจ่ายไป 300 กว่าล้านบาท แค่คิดก็คุ้มแล้ว หากไม่เริ่มครั้งแรก คงได้แต่รอดูความสำเร็จจากประเทศอื่นๆอีกนานแสนนานนน….แล้วเราจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง !!! โปรเจ็คนี้ หน่วยงานราชการและเอกชนต้องร่วมมือกันเพื่อประเทศชาติ เพื่อประเทศไทย !!!

ลองมาฟังบทสัมภาษณ์ คุณตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ถึงความเป็นไปได้ในการจัดโมโตจีพีในประเทศไทยกัน

Source Cr.: FM 97.0 Mhz Blue Fan Radio

Image : รูปการแข่งขัน WSBK 2016

อ่านข่าว News Talk เพิ่มเติมได้ที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish