Home  »  Garage Tips   »   Retrospective EV Conversion Kit ชุดแปลงคลาสสิคสกู๊ตเตอร์เป็นรถไฟฟ้าในราคา แสนห้า

Retrospective EV Conversion Kit ชุดแปลงคลาสสิคสกู๊ตเตอร์เป็นรถไฟฟ้าในราคา แสนห้า

Retrospective EV Conversion Kit

นอกจากอะไหล่ส่วนพ่วงต่างๆที่หายากขึ้นทุกวัน ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่มาจากยุค 80’s ลงไป ก็เป็นสิ่งที่หายากขึ้นเรื่อยๆในหมู่ผู้ใช้รถสกู๊ตเตอร์จากช่วงเวลาดังกล่าวที่ยังคงมีมากมายอยู่ ดังนั้นการเปลี่ยนขุมกำลังใหม่ยกลูกจึงอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แม้ว่ามันจะหมายถึงการทำให้กลายเป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปเลยก็ตาม

 

Retrospective สำนักแต่งและอู่ซ่อมรถเจ้าดังจากอังกฤษ ผุดไอเดียทำชุดแปลงขุมกำลังของรถสกู๊ตเตอร์สไตล์คลาสสิค ทั้ง Vespa และ Lambretta ที่นับวันหัวใจ 2 จังหวะของพวกมันต่างก็โรยรา อะไหล่ก็หายากเข้าไปทุกที แถมยังเสี่ยงที่จะถูกกฏหมายในหลายๆรัฐสั่งห้ามใช้งานอีกจากกฏหมายด้านมลพิษ ให้กลายเป็นขุมกำลังพลังงานไฟฟ้าล้วน ซึ่งนอกจากจะทำให้รถกลับมามีชีวิตชีวามากขึ้นแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

Retrospective EV Conversion Kit

โดยชุดแปลงรถสกู๊ตเตอร์คลาสสิค เครื่องยนต์ 2 จังหวะ ให้กลายเป็นรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ว่านี้ ก็เรียกได้ว่าถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ทักษะช่างพื้นฐานเพียงเล็กๆน้อยๆ ก็สามารถดัดแปลงและประกอบรถด้วยตนเองในโรงรถที่บ้านของตนเองด้วยตัวคนเดียวได้ โดยใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์เพียงเท่านั้น

 

ที่สำคัญคือ มันแทบไม่จำเป็นต้องตัดต่อชิ้นส่วนใดๆของตัวรถ เว้นเพียงการเดินสายไฟ ที่อาจต้องปลอกสายไฟเก่าทิ้งไปตามอายุของตัวรถ และถอดชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นต้องใช้เก็บเอาไว้ในห้องเก็บของที่บ้าน เผื่อวันใดวันหนึ่งอยากทำรถกลับเดิม ก็แค่สับชิ้นส่วนกลับคืนก็ทำได้

Retrospective EV Conversion Kit

สำหรับสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับไปหากสั่งซื้อชุดแปลงขุมกำลังใหม่นี้ ก็จะประกอบไปด้วย ชุดสวิงอาร์มเหล็กขาคู่ ที่ถูกออกแบบสัดส่วนมาอย่างดี ให้พอดีกับโครงสร้างและจุดยึดแท่นเครื่องเดิม รวมถึงจุดยึดโช้กเดิมของตัวรถ, ชุดชิ้นส่วนระบบจานเบรกหลัง พร้อมปั๊มกระทุ้ง ซึ่งสามารถเดินสายสลิงเข้ากับแป้นเบรกเท้าของเดิมได้เลย

 

และยังมีชุดมอเตอร์กลางดุมล้อ หรือ Hub Motor ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะเอารุ่นกำลังขับ 3.4 แรงม้า หรือรุ่น 6.1 แรงม้า ซึ่งอาจจะไม่ได้ดูเยอะ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้รถสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดราวๆ 96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้

 

แบตเตอรี่ที่ให้มาสำหรับใช้จ่ายไฟให้กับมอเตอร์ จะเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 72 โวลท์ ความจุตั้งแต่ 31,35,50 แอมป์ชั่วโมง หนักประมาณลูกละไม่เกิน 9 กิโลกรัม สามารถรองรับระยะทางในการใช้งานต่อชาร์จสูงสุดได้ตั้งแต่ 48-113 กิโลเมตร

Retrospective EV Conversion Kit

โดยลูกค้าสามารถเลือกได้ตั้งแต่ จะใช้แบตแค่ลูกเดียวไปจนถึง 3 ลูก และจะติดตั้งไว้บริเวณซุ้มล้อทั้งด้านซ้ายและด้านขวา หรือจะติดตั้งบริเวณถังน้ำมันเดิมก็ได้ ซึ่งทางสำนักก็จะทำถาดวางแบตฯมาให้เสร็จสรรพตามความต้องการและโมเดลรถของลูกค้าที่จะนำไปใช้ และยังสามารถถอดตัวแบตฯแยกไปชาร์จในออฟฟิศ ขณะทำงาน หรือในโรงเก็บรถที่บ้าน แล้วค่อยสลับใช้กับแบตฯลูกอื่นๆที่สามารถซื้อแยกสำรองไว้เพิ่มเติมได้อีก

 

ด้านอีกชิ้นส่วนสำคัญที่จะมีมาให้ด้วยเช่นกัน ก็คือชุดกล่องจัดการระบบไฟ และกล่องประมวลผลข้อมูลต่างๆรวมกับเซนเซอร์คันเร่ง, เซนเซอร์ระดับแบตเตอรี่ และอื่นๆที่จำเป็น โดยการเชื่อมต่อมันเข้ากับส่วนพ่วงอื่นๆ ผู้ใช้ก็ไม่จำเป็นต้องตัดต่อสายไฟเองให้ยุ่งยาก เพราะทางสำนักทำปลั๊กมาให้เชื่อมต่อกันเสร็จสรรพตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

Retrospective EV Conversion Kit

นอกนั้นก็จะมีการให้ชุดจอแสดงผลระดับแบตเตอรี่ กับชุดดวงไฟหน้า LED มาให้ เพื่อให้รับกับระบบไฟของตัวรถที่ถูกเปลี่ยนใหม่ แม้ว่ามันจะยังคงถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานร่วมกับระบบสายไฟเดิมของตัวรถได้อยู่แล้วก็ตาม

 

โดยชุดแปลงขุมกำลังจากสำนัก Retrospective จะถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้กับรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Vespa ตั้งแต่โมเดลแรกๆเมื่อปี 1946 ลากยาวมาจนถึงรถตระกูล PX ที่พึ่งเลิกขายไปเมื่อปี 2017 แม้แต่รถมอเตอร์ไซค์ของแบรนด์ Lambretta ยุคไล่เลี่ยกันก็ยังมีให้เลือก

 

ติดอยู่แค่เพียงอย่างเดียวคือราคาของชุดแปลงนั้นค่อนข้างแพงเอาเรื่อง เพราะมีราคาเริ่มต้นที่ 3,495 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือราวๆ 154,000 บาท นั่นเอง

Source Cr.: Retrospective, Scooterlab.uk

อ่านข่าว Garage Tips เพิ่มที่นี่


 

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish



ห้ามคัดลอกบทความหรือเนื้อหาในเว็บ Motowish