ไบค์เกอร์บิ๊กไบค์ สายรถสปอร์ต นอกจากความเท่ ความแรง ของรถแล้ว การเลือก “ยาง” เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะช่วยให้สามารถรีดประสิทธิภาพรถออกมาได้ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นสายถนน หรือสายสนาม วันนี้จะพามาดูยาง Bridgestone ตั้งแต่สายถนน ยันตัวท๊อปสายสนามกันดีกว่า

ยางสำหรับรถสปอร์ตตั้งแต่สายถนน ยันตัวท๊อปสนามของ Bridgestone มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ดังนี้

รุ่นแรก Bridgestone Battlax Hypersport

เริ่มต้นที่ Bridgestone Battlax Hypersport S21 และ Hypersport S22 เป็นยางสปอร์ตสายถนนที่ยึดเกาะดีเยี่ยมจากเทคโนโลยี Ultimate Eye ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น S20 EVO การเข้าโค้งเนียนและนิ่งกว่าเดิม และอายุการใช้งานไม่ต้องพูดถึงทนทานอย่างแน่นอน

ยางหน้าใช้เทคโนโลยี 3LC ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเนื้อยาง 3 โซน 2 คอมปาวน์ เน้นเนื้อยางริ่มบริเวณขอบทั้งสองข้างเน้นการยึดเกาะเวลาเข้าโค้ง ส่วนตรงกลางจะเป็นเนื้อยางที่แข็งขึ้นเพื่อเพิ่มความทนทานเวลาขับขี่ในทางตรง สำหรับยางหลังใช้เทคโนโลยี 5LC เนื้อยาง 5 โซน 3 คอมปาวน์ แบ่งเป็นเนื้อยางบริเวณสุดขอบยาง 2 ข้างใช้เนื้อยางนิ่มที่สุด เพิ่มการยึดเกะเวลาเข้าโค้งในองศาแคบ ขยับขึ้นมาอีกนิดใช้เนื้อยางที่นิ่มขึ้น เพื่อช่วยในการออกจากโค้ง และตรงกลางเนื้อยางแข็ง เพื่อความทนทานในทางตรง

MS Belt เทคโนโลยีขดลวดน้ำหนักเบาที่ใช้หุ้มโดยรอบขอบยาง มีน้ำหนักที่เบา สร้างสมดุลขับขี่ได้อย่างมั่นคงเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น รอบรับการขับขี่บนความสูง และยึดเกาะได้ดีแม้ถนนเปียก นอกจากนี้ยังเสริมด้วยเทคโนโลยี HTSPC  ลวดเหล็กที่มีฉนวนยางด้านในที่ช่วยควบคุมอุณภูมิและการระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดภาวะยางระเบิด ไม่เกิดการสะสมความชื้นซึ่งเป็นสาเหตุของการเสื่อมอายุของยาง นอกจากนั้นยังมีส่วนในการรักษารูปทรงและโครงสร้างของยาง ทำให้ขับขี่ได้มั่นคง และยังรองรับแรงกระแทกได้มากขึ้นอีกด้วย

ล่าสุดทาง Bridgestone ได้มีการเปิดตัวยางสปอร์ตสายถนนตัวใหม่ก็คือ Hypersport S23 ที่มีการอัพเกรดยางให้มีความทนทานมาขึ้น ยึดเกาะดีขึ้น อีกทั้งยังได้เพิ่มตัวเลือกขนาดยางให้ครอบคลุมทั้งรถสปอร์ตและเน็คเก็ตไบค์ที่มีอยู่ในตลาดมากขึ้นอีกด้วย

สำหรับยาง Bridgestone Battlax Hypersport S21 และ Hypersport S22 นั้นเหมาะกับไบค์เกอร์สายสปอร์ตที่ชอบขับขี่บนถนน และต้องการการยึดเกาะที่ดี ขณะเดียวกันก็ยังทนทานอีกด้วย

รุ่นที่ 2 Bridegestone Racing Street

Bridgestone Battlax Racing Street RS10 และ Racing Street RS11 ยางรุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาสำหรับการวิ่งบนถนนก็ได้ บนสนามแข่งก็ดี จุดเด่นอยู่ที่ลายยางถูกออกแบบโดยใช้นวัตกรรมแบบ 3D เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้ดอกยาง ซึ่งเน้นหนักไปทางถนนแห้ง

เนื้อยางจะเน้นหนักไปที่ยางหลังเป็นแบบ 3LC เป็นเทคโนโลยีเนื้อยาง 3 โซน 2 คอมปาวน์ เน้นเนื้อยางริ่มบริเวณขอบทั้งสองข้างเน้นการยึดเกาะเวลาเข้าโค้ง ส่วนตรงกลางจะเป็นเนื้อยางที่แข็งขึ้นเพื่อเพิ่มความทนทานเวลาขับขี่ในทางตรง

ความแตกต่างระหว่างยางรุ่น RS10 และ RS11 ก็คือขนาดยางที่มีขาย อย่าง RS10 ยางหน้ามี 2 ขนาด คือ 120/70ZR17 และ 110/70R17 ส่วนยางหลังมี 3 ขนาด คือ 140/70R17, 150/60R17 และ 190/50ZR17 ส่วน RS11 ยางหน้ามีขนาดเดียว คือ 120/70R17 ส่วนยางหลังมี 2 ขนาด คือ 190/55ZR17 และ 200/55ZR17

สำหรับยาง Bridgestone Battlax Racing Street RS10 และ Racing Street RS11 เหมาะสำหรับไบค์เกอร์ที่ชื่นชอบการขับขี่ทั้งบนถนนและในสนามแข่งขันแต่ก็ไม่จริงจังมาก หากไม่อยากเปลี่ยนยางบ่อยเวลาเปลี่ยนสถานที่ขับขี่ต้องตัวนี้เลย

รุ่นที่ 3 Bridgestone Battlax Racing

Bridgestone Battlax Racing R11 เป็นยางที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานในสนามแข่งโดยเฉพาะ ถึงแม้ว่าจะมีดอกยางแต่มีพื้นฐานมาจากยางสลิค ฉะนั้นแล้วมั่นใจได้เลยว่าประสิทธิภาพการยึดเกาะสูงอย่างแน่นอน เหมาะสำหรับไบค์เกอร์สายสนามที่เริ่มอยากลิ้มลองการขับขี่ในสนามแข่งขัน ก่อนจะพัฒนาไปเป็นยางสลิค เทคโนโลยีที่ใส่เข้าว่าไม่ว่าจะเป็น Ultimate Eye ซึ่งพัฒนาขึ้นครั้งแรกในการแข่งขัน F1 และ MotoGP ใช้วัดผลและแสดงข้อมูลอย่างละเอียดของลักษณะการทำงานของยาง และผิวสัมผัสในทุกรูปแบบการขับขี่ในทุกสภาพถนน และยังมีเทคโนโลยี V-MS BELT การดีไซน์ระยะห่างของเส้นลวด MS Belt ที่พันรอบๆ เส้นรอบวงของยาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนอย่างลงตัว จึงเสริมสร้างประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับยาง Bridgestone Battlax Racing R11 เหมาะสำหรับไบค์เกอร์ที่ชื่นชอบการขับขี่ในสนามแข่งขัน แต่ยังไม่ต้องใช้ยางสลิค ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกก่อนที่จะอัพความโหดไปเป็นยางสลิค

รุ่นที่ 4 Bridgestone Battlax V02

และมาถึงยางรุ่นสุดท้ายที่เป็นตัวท๊อปสุดของสายสนาม นั่นก็คือ Bridgestone Battlax V02 ที่สุดของยางสลิคสมรรถนะสูงเพื่อตอบสนองการขับขี่ในสนามแข่ง ยางตัวนี้ความพิเศษคือยาวสลิคที่เป็นแบบมัลติคอมปาวน์ นั่นก็คือ 3LC เป็นการรวมประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน ลดแรงเสียดสีเพื่อทำความเร็ว และยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น มาใช้สำหรับการแข่งขันที่ต้องการยางสมรรถนะสูงสุด เรียกได้ว่านี่คือที่สุดของยางสนามโดยแท้

สำหรับ Bridgestone Battlax V02 เหมาะสำหรับไบค์เกอร์สายกดเวลา ต้องการทำเวลาให้ได้เร็วที่สุดในสนาม การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม เรียกได้ว่านี่คือตัวสุดของสายสนามแล้ว

และนี่ก็เป็นการถอดรหัสยาง Bridgestone เริ่มต้นตั้งแต่สายถนน ยันตัวท๊อปสนาม ไบค์เกอร์คนไหนชื่นชอบแบบไหนก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบให้เหมาะกับตัวเอง และสำหรับไบค์เกอร์คนไหนกำลังมองหายางรถบิ๊กไบค์สายสปอร์ต หรือไบค์เกอร์สายอื่น Bridgestone มียางให้เลือกมากมาย สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่ หรือสอบถามดีลเลอร์ใกล้บ้าน ค้นหาได้ที่นี่

อ่านข่าว General Tips เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Bridgestone เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish