Home  »  General Tips   »   ส่องยางแข่ง FIM Endurance World Championship ดียังไง ? ถึงวิ่งกันจนจบเรซ

ส่องยางแข่ง FIM Endurance World Championship ดียังไง ? ถึงวิ่งกันจนจบเรซ

F.C.C. TSR Honda France, Bridgestone, Endurance World Championship , Battlax, Bridgestone BATTLAX

หากพูดตัวแปรในการแข่งขัน หลายคนมักนึกถึงรถ ไม่ก็ตัวนักบิด แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงให้ดีไม่แพ้กันคือ “ยาง” โดยเฉพาะกับการแข่งขัน FIM Endurance World Championship ที่ต้องแข่งกันยาวๆ 8-24 ชั่วโมง

 

ในปัจจุบัน การแข่งขัน FIM Endurance World Championship จะมีการจัดสัปดาห์การแข่งขันขึ้นทั้งหมด 4 เรซ หรือ 4 สนามต่อปี และอย่างที่หลายคนพอจะทราบกันว่าการแข่งขันบิดอึดไม่ได้แข่งกันแบบแย่งกันชิงเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่หนึ่งหลังวิ่งในสนามจนครบรอบการแข่งขันตามที่ผู้จัดกำหนดไว้

F.C.C. TSR Honda France, Bridgestone, Endurance World Championship , Battlax, Bridgestone BATTLAX

แต่จะเป็นการวิ่งสะสมระยะทาง หรือรอบการแข่งขันให้มากที่สุด ภายในกรอบเวลาที่กำหนด ซึ่งจะมีตั้งแต่ 8 ชั่วโมง, 12 ชั่วโมง, และ 24 ชั่วโมง แล้วแต่สนาม ซึ่งหากคำนวณคร่าวๆจากตัวเลขจำนวนรอบการวิ่งทั้งหมด ในหลายๆการแข่งขันแตะละสนามที่ผ่านมา เท่ากับว่าระยะทางที่นักแข่งต้องพากันขี่รถจนกว่าจะจบการแข่งขัน อาจมีตั้งแต่หลัก 1,200+ กิโลเมตร ไปจนถึง ราวๆ 4,300 กิโลเมตร

 

ยกตัวอย่างเช่นในการแข่งขัน FIM EWC สนามล่าสุด ซึ่งเป็นการแข่งขัน 8 Hours of Spa Motos 2025 ที่ทีมแข่ง “F.C.C. TSR Honda France” กับรถ Honda CBR1000RR-R SP พึ่งจะสามารถคว้าแชมป์ครั้งแรกในการแข่งขันนี้ไปได้ หลังชวดชัยชนะมาเนิ่นนานตั้งแต่ปลายปี 2023

 

ก็มีการหวดรอบสนามอย่างต่อเนื่องในตลอดระยะเวลา 8 ชั่วโมงไปทั้งหมด 181 รอบสนามด้วยกัน ซึ่งหากคิดเป็นระยะทางก็อยู่ที่ 1,264 กิโลเมตร จากจำนวนการแข่งขัน 181 รอบ

F.C.C. TSR Honda France, Bridgestone, Endurance World Championship , Battlax, Bridgestone BATTLAX

โดยปกติแล้ว ทีมแข่งจะต้องมีการนำรถเข้ามาเซอร์วิสต์เติมน้ำมัน และเปลี่ยนยาง รวมถึงสลับตัวนักบิด เฉลี่ยทุกๆ 45 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ซึ่งเท่ากับว่ายางชุดหนึ่ง ต้องถูกใช้งานไปราวๆ 180 กิโลเมตร ซึ่งอาจจะไม่ได้มากมายนัก แต่เราต้องไม่ลืมว่านี้คือยางสำหรับการแข่งขัน

 

ที่สำคัญคือในการแข่งขันครั้งนี้เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยเรื่องราวดราม่ามากมาย เพราะนอกจากความโหดของตัวสนามที่เต็มไปด้วยโค้งขึ้น-ลง เนินลับตามากมาย เหล่านักบิดยังต้องเจอกับสภาวะอากาศสุดท้าทาย ตั้งแต่ทางแห้ง ไปจนถึงทางเปียก ที่นักบิดต้องพากันขี่รถฝ่าฝนหนักแทบตลอดช่วงกลาง-ท้ายของการแข่งขัน ซึ่งเท่ากับว่ายางต้องรับภาระหนักต่อเนื่องตลอดเวลาเกือบ 1 ชั่วโมงที่มันยังคงประจำการอยู่กับรถ

F.C.C. TSR Honda France, Bridgestone, Endurance World Championship , Battlax, Bridgestone BATTLAX

โดยยางที่ทีมแข่ง “F.C.C. TSR Honda France” กับรถ Honda CBR1000RR-R SP ใช้ในการแข่งขัน FIM EWC ครั้งนี้ ก็คือยางจาก Bridgestone ตระกูล Racing Battlax ได้แก่ Bridgestone RACING BATTLAX V02 และ Bridgestone RACING BATTLAX W01

 

ซึ่งนอกจากทาง F.C.C. TSR Honda France แล้วอันที่จริงก็ยังมีหลายทีมแข่งในศึก FIM EWC เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น BMW Motorrad World Endurance Team, Kawasaki Webike Trickstar, YART – Yamaha, Yoshimuta SERT Motul โดยทีมแข่งเหล่านี้ ล้วนเป็นทีมแข่งระดับแถวหน้า ที่สามารถทำผลงานในการแข่งขันได้ดีมาโดยตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

และพวกเขายังสลับกันคว้าแชมป์สนามไปมาอยู่ตลอด จนในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ไม่มีทีมแข่งที่ใช้ยางจากแบรนด์อื่นเลย ที่สามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันนี้ได้ ซึ่งบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าสมรรถนะของยางแข่งจาก Bridgestone นั้นเหมาะสำหรับการแข่งขันบิดอึดเช่นนี้จริงๆ

โดยยาง Bridgestone RACING BATTLAX V02 และ Bridgestone RACING BATTLAX W01 ก็มีคุณสมบัติที่น่าสนใจและโดดเด่นดังนี้

F.C.C. TSR Honda France, Bridgestone, Endurance World Championship , Battlax, Bridgestone BATTLAX

1. Bridgestone RACING BATTLAX V02

คือยางสลิคสำหรับขี่บนแทร็คแห้ง มาพร้อมกับ 3 เทคโนโลยีเสริม จาก Bridgestone ได้แก่

 

  • V-MS Belt หรือเทคโนโลยีการใช้ขดลวดน้ำหนักเบาเพียงเส้นเดียว วนรอบตัวยางจากแก้มด้านหนึ่งสู่ด้านหนึ่งเป็นเส้นเดียว เพื่อให้โครงยางมีความแข็งแรง แต่น้ำหนักยังคงเบาอยู่ และจะมีการเน้นความถี่ของขดลวดบริเวณตรงกลางหน้ายางเป็นพิเศษ เพื่อเสริมความแข็งแรง ให้ยางผิดรูปขณะถูกเหวี่ยงด้วยรอบการหมุนของล้อสูงๆได้ยากขึ้น ช่วยเพิ่มสเถียรภาพของยางขณะใช้งาน ทั้งบนทางตรงและทางโค้ง

 

  • GP Belt หรือเทคโนโลยีขดลวดชั้นพิเศษ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างหน้ายางให้มากขึ้น รองรับการขี่ใช้งานด้วยความเร็วสูง และในขณะเดียวกัน ก็ยังช่วยให้ยางสามารถกางหน้ายางให้แตะผิวแทร็คได้เต็มที่มากขึ้น และคงที่มากขึ้น ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะได้ดีกว่า และสเถียรกว่าเดิม

 

  • 3LC หรือเทคโนโลยีการแบ่งคอมพาวน์ยางออกเป็น 3 ส่วน คือส่วนด้านซ้าย, กลาง, และ ขวา ซึ่งเนื้อยางตรงกลางจะมีความแข็งกว่า เพื่อลดอัตราการสึกหรอ ยืดอายุการใช้งาน แต่ยังคงสามารถสร้างแรงยึดเกาะได้ดี สามารถถ่ายกำลังเครื่องลงสู่พื้นถนนขณะเร่งออกจากโค้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่เนื้อยางด้านซ้ายและด้านขวา จะอ่อนนุ่มกว่าตรงกลาง เพื่อเพิ่มความสามารถในการยึดเกาะกับผิวแทร็คได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้นักบิดสามารถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ

 

โดยยางรุ่นนี้ มีเนื้อยางให้เลือกทั้งหมด 3 ระดับด้วยกัน ได้แก่ Extra Soft, Soft, และ Medium ขึ้นอยู่กับขนาดหน้ายางที่เลือกซิ้อ เช่นเดียวกับเทคโนโลยีข้างต้น ที่อาจจะไม่ได้ใส่ให้กับยางทุกไซส์ โดยเฉพาะยางหน้า ที่อาจจะได้เทคโนโลยี MS Belt แทน V-MS Belt และไม่มีเทคโนโลยี GP Belt กับ 3LC เนื่องจากไม่ต้องรับภาระหนักขณะใช้งานเท่ายางหลัง

F.C.C. TSR Honda France, Bridgestone, Endurance World Championship , Battlax, Bridgestone BATTLAX

2. BridgestoneRACING BATTLAX W01

คือยางแข่งขันสำหรับขี่บนแทร็คเปียกหรือมีฝน ซึ่งจะมาพร้อมกับ 2 เทคโนโลยีหลัก คือ

 

  • MS Belt เทคโนโลยีขดลวดเสริมความแข็งแรงของโครงยาง ด้วยการใช้ขดลวดน้ำหนักเบาเพียงเส้นเดียว วนรอบตัวยางจากแก้มด้านหนึ่งสู่ด้านหนึ่งเป็นเส้นเดียว เพื่อให้โครงยางมีความแข็งแรง แต่น้ำหนักยังคงเบาอยู่ คล้ายๆกับ V-MS Belt แต่จะมีการม้วนขดลวดด้วยความถี่เท่ากันตลอดหน้ายาง เนื่องจากในการขี่บนทางฝน ภาระของยางที่เกิดขึ้นจากอัตราเร่งของรถจะน้อยกว่าตอนขี่บนทางแห้ง จึงไม่จำเป็นต้องเน้นความแข็งแรงของโครงยางช่วยตรงกลางให้มากเป็นพิเศษแต่อย่างใด
    และจากการที่ความถี่ของขดลวดเท่ากันตลอดหน้ายาง ก็จะทำให้ยางสามารถกางสัมผัสผิวแทร็คได้สม่ำเสมอมากกว่าแทน และยังช่วยให้ยางสามารถกระจายแรงกระแทกจากผิวถนนสู่ตัวยางทั้งเส้นได้ดียิ่งขึ้น ลดโอกาสยางเสียหายเฉพาะจุดได้เป็นอย่างดี

 

  • HTSPC เทคโนโลยีขดลวดหุ้มฉนวนเสริมโครงด้านใน ช่วยให้ยางสามารถคุมอุณหภูมิการทำงานได้สเถียรยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะในตอนที่ฝนตกหนัก หรือทางเริ่มแห้ง และยังช่วยทำให้ยางร้อนเกินไปได้ยากขึ้น ส่งผลให้ยางระเบิดยากกว่าเดิม
F.C.C. TSR Honda France, Bridgestone, Endurance World Championship , Battlax, Bridgestone BATTLAX

ทั้งนี้แม้เทคโนโลยี HTSPC จะทำให้หลายคนสงสัยว่า แล้วถ้ามันทำให้ยางมีอุณหภูมิสะสมน้อยลง ยางจะยังคงสามารถสร้างแรงยึดเกาะบนผิวแทร็คที่เปียกและเย็นได้หรือ ?

 

ก็ต้องบอกว่าตัวเนื้อยาง หรือคอมพาวน์ยางรุ่น W01 นั้นจะถูกออกแบบให้มีความนุ่มมากขึ้นไปอีกขั้นเมื่อเทียบกับยางสลิค ดังนั้น แม้อุณหภูมิยางขณะใช้งานจะไม่สูงเท่ายางสลิค แต่เนื้อยางก็สามารถสร้างแรงยึดเกาะกับผิวแทร็คทีท่มีอุณหภูมิต่ำได้อยู่แล้ว

 

และลวดลายยางที่เห็น ก็เป็นลวดลายยางที่ทาง Bridgestone ระบุว่ามันสามารถรีดน้ำได้เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะเป็นลวดลายยางที่ถูกออกแบบไว้สำหรับตัวแข่งระดับ MotoGP ตั้งแต่ตอนที่แบรนด์ยังรับหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนยางให้กับตัวแข่งเหล่านี้อยู่ ดังนั้นมันจึงสามารถรองรับกับสมรรถนะของรถโปรดักชันไบค์ตั้งแต่สเป็คเดิมๆ ไปจนถึงสเป็คการแข่งขันระดับ Formula Endurance ได้แน่นอน

F.C.C. TSR Honda France, Bridgestone, Endurance World Championship , Battlax, Bridgestone BATTLAX

โดยพวกเราเองก็สามารถสัมผัสยางเกรดการแข่งขันระดับโลกนี้ได้ เพราะทั้ง Bridgestone RACING BATTLAX V02 และ Bridgestone RACING BATTLAX W01 ต่างก็เป็นยางที่ Bridgestone ทำขายให้ลูกค้าสายซิ่งในสนามได้ซื้อใช้กันจริงๆ และในไทยเราเองก็มีการนำเข้ามาวางจำหน่ายด้วยเช่นกัน และเชื่อว่าหลายคนที่เคยสัมผัสยางทั้ง 2 รุ่นนี้ ต่างก็ประทับใจในสมรรถนะของยางเช่นเดียวกับเหล่านักแข่งในศึกเอนดูรานซ์แถวหน้า

 

หากใครอยากลงสัมผัสยาง Bridgestone RACING BATTLAX V02 และ Bridgestone RACING BATTLAX W01 สามารถสอบถามข้อมูลและค้นหาตัวแทนจำหน่ายที่มีครอบคลุมทั่วประเทศอีกด้วยได้ที่นี่ และยังสามารถติดตามข่าวสารโปรโมชั่นเด็ดๆ ได้ที่ Official Facebook Fanpage ของ Bridgestone Moto Thailand กันได้เลย

Source Cr.: Roadracingworld, Bridgestone

อ่านข่าว General Tips เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Bridgestone เพิ่มที่นี่


 

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish



ห้ามคัดลอกบทความหรือเนื้อหาในเว็บ Motowish