Home  »  General Tips   »   ไบค์เกอร์ขี่บิ๊กไบค์ออกทริป แต่งตัวยังไงดี?

ไบค์เกอร์ขี่บิ๊กไบค์ออกทริป แต่งตัวยังไงดี?

how to dress bigbike trip-11

ขึ้นชื่อว่าขี่บิ๊กไบค์ แถมยังเดินทางไกล การแต่งตัวเสื้อยืดกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ก็ดูจะเป็นอะไรที่อันตรายไปสักหน่อย ดังนั้นการแต่งตัวของเหล่าไบค์เกอร์จะต้องอยู่ภายใต้แนวคิด “ความิดชิด ป้องกันการบาดเจ็บ รวมถึงป้องกันรังสียูวี” จากแดดร้อนของเมืองไทย หรือจะช่วงอากาศหนาว หรือฝนตก จะให้ใส่ชุดแข่ง หรือ Racing Suit ก็ดูจะเป็นทางการเกินไป มาดูกันดีกว่าว่าหัวจรดเท้าจะแต่งตัวยังไงดี

_Alpinestars Helmet

หมวกกันน็อค

 

หัวเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะต้องได้รับการป้องกันจากอุบัติเหตุ ดังนั้นการใส่หมวกเวลาขี่บิ๊กไบค์ จะต้องเป็น “หมวกกันน็อค” เท่านั้น และจะต้องผ่านมาตรฐานอีกด้วย ส่วนประเภทของหมวกที่ใช้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของไบค์เกอร์แต่ละคน โดยหลักๆ มีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ แบบ Full Face คือหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ เหมาะสำหรับไบค์เกอร์ที่ขี่รถสปอร์ต และแบบ Modular คือหมวกกันน็อคที่เหมือนกับ Full Face แต่สามารถยกเปิดได้ตั้งแต่ส่วนคาง เหมาะสำหรับไบค์เกอร์ที่ชอบขี่รถทัวริ่ง สำหรับยี่ห้อที่ใช้ก็มีให้เลือกมากมายในตลาดปัจจุบัน มีให้เลือกหลายยี่ห้อมาก เช่น Alpinestars, AGV, KYT, Arai, Shoei, HJC, Bell, Real, Bilmola, Shark, Suomy, Nolan, X-lite หรือ MT เป็นต้น

 

เมื่อมีหมวกกันน็อคแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ นั่นก็คือ แว่นตากันแดด โดยปกติหมวกกันน็อคตรงชิลด์หน้าจะมีคุณสมบัติกันแดดกันยูวีอยู่แล้ว แต่ไบค์เกอร์คนไหนอยากเพิ่มความมั่นใจก็สามารถใส่แว่นกันแดดเพิ่มเข้าไปได้ แต่ต้องเลือกหมวกกันน็อคให้ดีๆ ดูรุ่นที่สามารถใส่แว่นตากันแดดได้ด้วย

 

 

คำแนะนำ

 

การเลือกหมวกกันน็อคอันดับแรกให้ดูว่าชอบหมวกประเภทไหน เมื่อได้หมวกในสไตล์ที่ชอบแล้ว ต้องดูด้วยว่าหมวกกันน็อคใบนั้นผ่านมาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่ การเลือกหมวกกันน็อคยี่ห้อที่เป็นสากลในตลาดจะช่วยให้สามารถมั่นใจได้ในคุณภาพ เพราะหมวกเหล่านั้นต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของแต่ละประเทศ

_Alpinestars Sport Jacket

เสื้อแจ็คเก็ต

 

การขี่รถบิ๊กไบค์ออกทริปเดินทางระยะไกล จะให้ใส่เสื้อยึดก็ดูจะไม่ปลอดภัยสักเท่าไหร่ เพราะการขี่รถจักรยานยนต์จะต้องเจอกับเศษฝุ่น เศษดิน เศษหินต่างๆ กระเด็นใส่ นอกจากนี้แดดประเทศไทยแรงมากแทบทุกฤดู รังสียูวีก็มากด้วยเช่นเดียวกัน การป้องกันด้วยชุดที่ออกแบบมาสำหรับขี่รถจักรยานยนต์เป็นหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ จะขอแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ แบบสปอร์ต และทัวริ่ง

 

เสื้อแจ็คเก็ตแบบสปอร์ต

 

ในตลาดมีเสื้อมากมายหลายแบรนด์ วันนี้จะขอนำเสนอแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลกและมีขายในประเทศไทยนั่นก็คือ Alpinestars มีเสื้อแจ็คเก็ตแบบสปอร์ตให้เลือกมากมาย เริ่มต้นตั้งแต่แบบ Hood ที่เป็นผักถัก เสริมใยอะรามิดภายในบริเวณไหล่ ศอก และหลัง เพื่อเสริมความแกร่งทนทานต่อการเสียดสีได้

 

นอกจากนี้ยังมีแบบแจ็คเก็ตที่เป็นไฮไลท์ของทาง Alpinestars มีให้เลือกตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น เน้นการป้องกันอาการบาดเจ็บโดยเฉพาะไหล่และศอก ระบายอากาศได้ดี ไปจนถึงรุ่นท๊อป ทำด้วยวัสดุคุณภาพสูงทนทานต่อการเสียดสี ไม่เพียงแค่นั้นยังมาพร้อมกับเทคโนโยลีการเย็บตะเข็บให้มีความยืดหยุ่นสูงสุดเพิ่มความพอดีและความสะดวกสบายเวลาขับขี่ มีกระเป๋าสำหรับเก็บเอกสารกันน้ำล้วงหยิบจับได้ง่ายแม้จะสวมถุงมืออยู่ก็ตาม และยังรองรับอุปกรณ์เสริมอย่าง Tech-Air5® สวมใส่ได้ไม่อึดอัด

 

ราคาของเสื้อแจ็คเก็ตแบบสปอร์ตของ Alpinestars ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 6,900 – 14,000 บาท มีหลากหลายไซส์ ออกแบบสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ หรือไซส์คนเอเชียโดยเฉพาะก็มี

_Alpinestars Touring Jacket

เสื้อแจ็คเก็ตแบบทัวริ่ง

 

เสื้อแจ็คเก็ตสำหรับสายทัวริ่งจะมีการออกแบบรูปลักษณ์ไม่เหมือนกับแบบสปอร์ต ดูไม่ปราดเปรียวเท่า แบรนด์ที่แนะนำ คือ Alpinestars มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น โดยเฉพาะรุ่นเริ่มต้นอย่างรุ่น Drystar ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Drystar ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Alpinestars มีคุณสมบัติสามารถกันน้ำได้ 100% แต่ยังระบายอากาศได้ดีโครงสร้างทางเทคนิคตัวเสื้อสามารถขับขี่ได้ทุกสภาพอากาส รวมถึงสภาพอากาศร้อนของประเทศไทยด้วย เรื่องความทนทานหายห่วง ภายนอกเน้นหนักไปที่มีช่องซิบมากมายรอบเสื้อตั้งแต่หน้าอก และด้านล่าง

 

หากไปดูรุ่นท๊อปของ Alpinestars รุ่น BOULDER GORE-TEX ขนเอาเทคโนโลยีมากมายมายใส่ไว้ ไม่ว่าจะเป็นการ เคลือบ GORE-TEX เพื่อประสิทธิภาพการกันน้ำและระบายอากาศได้ 100% ช่องระบายอากาศด้านในกระจายอากาศได้เป็นอย่างดีพร้อมแผงด้านหน้า Super Airflow เพื่อการระบายอากาศเพิ่มเติม

 

โครงสร้างหลักเป็นผ้าหลายชั้นพร้อมการเสริมความแข็งแกร่ง Superfabric® ในตำแหน่งตำแหน่งเสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไหล่ หรือศอก เพื่อความทนทานที่เหนือกว่าและทนต่อการเสียดสี ตัวเสื้อมีซับในระบายอากาศอย่างดี สามารถสวมใส่ได้เลยไม่ต้องมีเสื้อต่างหาก เรื่องน้ำหนักหายห่วงไปได้เลย เพราะว่าทางค่ายเคลมว่ามีน้ำหนักเบามาก ราคาเสื้อแจ็คเก็ตแบบทัวริ่ง เริ่มต้นตั้งแต่ 11,800 – 48,500 บาท

 

 

คำแนะนำ

 

การเลือกเสื้อสำหรับออกทริป ก็ต้องดูสภาพอากาศเป็นหลักหากมีฝนก็ต้องใช้เสื้อแจ็คเก็ตที่สามารถกันน้ำได้ เพื่อให้การขี่บิ๊กไบค์เป็นไปอย่างไหลลื่นไม่ต้องเปียก รวมถึงเอกสารต่างๆ ไม่เปียกอีกด้วยหากไม่ได้เก็บไว้ในช่องหรือกล่องเก็บของ หากอากาศร้อนไม่มีฝนการใส่แบบฮูดก็ไม่ได้แย่อะไร เพราะว่าตัวเสื้อมีการออกแบบให้ทนทานเหมือนกัน

_Alpinestars Sport Pant

กางเกง

 

กางเกงสำหรับใช้ขี่บิ๊กไบค์ออกทริปจะให้ใส่ขาสั้นก็ดูจะอันตรายเกินไป ใส่กางเกงยีนส์ก็ยังไม่สุดพอระบายอากาศได้ไม่ดีนัก ดังนั้นจึงต้องใช้กางเกงที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ แยกเป็นทั้งกางเกงแบบสปอร์ต และแบบทัวริ่งเช่นเคย

 

กางเกงแบบสปอร์ต

 

ขี่รถสปอร์ตจะให้ใส่ชุดแข่ง หรือ Racing Suit ออกทริปก็ดูจะจริงจังมากเกินไป ทั้งเทอะทะและระบายอากาศได้ไม่ดี ทาง Alpinestars ได้มีการออกแบบกางเกงออกมาให้เหล่าไบค์เกอร์ได้เลือกใช้ นั่นก็คือ STRIKER AIR V2 เป็นกางเกงที่ใช้วัสดุ ผ้าโพลี 600 Denier หลายชั้น เพื่อความทนทาน เสริมข้อเข่าด้วยเกราะเข่าด้วยวัสดุ Nucleon Flex Pro ภายในกางเกงยังมีการออกแบบให้อากาศไหลเวียนได้ดีอีกด้วย การป้องกันมีตั้งแต่เข่า สะโพกที่บุด้วยโฟม PE และตรงเอวยังมีนวมเพิ่มความสะดวกสบายเวลาขับขี่ ราคาขายเพียง 6,190 บาทเท่านั้น

_Alpinestars Touring Pant

กางเกงแบบทัวริ่ง

 

สำหรับสายทัวริ่ง Alpinestars มีทั้งหมด 2 รุ่นเหมือนกับเสื้อแจ็คเก็ต รุ่นเริ่มต้น Drystar มีทั้งรุ่นมาตรฐานแลรุ่น Pro ออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะ Drystar® มีคุณสมบัติสามารถป้องกันน้ำได้แบบ 100% มีการเสริมวัสดุสามารถป้องกันในจุดเสี่ยงทุกจุด การระบายอากาศทำได้ดี ขับขี่ได้ทุกสภาพอากาศ ออกแบบมาให้พอดีตามหลักสรีรศาสตร์โดยเฉพาะ เพื่อรองรับทุกการเคลื่อนไหวในการขับขี่ได้อย่างสะดวกสบาย

 

ซับใน Drystar® เคลือบสารให้มีการระบายอากาศที่เหนือกว่าและประสิทธิภาพในสภาพอากาศเปียกแฉะเป็นพิเศษ ในสภาพอากาศที่เปียกแฉะมีเทคโนโลยี DWR (Durable Water Repellent) รีดน้ำออกได้อย่างรวดเร็วไม่ให้เกิดการอับชื้น การป้องกันไม่ว่าจะเป็นเข่าใช้เทคโนโลยี Nucleon Flex Pro ระดับ 2 CE  และสะโพก Bio-Flex เพื่อการป้องกันแรงกระแทกที่มีประสิทธิภาพ

 

รุ่นท๊อป ROAD TECH GORE-TEX ใช้เทคโนโลยี GORE-TEX เคลือบลามิเนตทั้งตัวเพื่อให้การกันน้ำและการระบายอากาศได้ประสิทธิภาพสูงสุด การป้องกันด้วย Nucleon Flex Pro มอบการปกป้องสูงสุดต่อการกระแทก เอวสามารถปรับได้ให้พอดีกับสัดส่วน ซับในระบายความร้อนแบบถอดได้ช่วยให้กางเกงสามารถปรับให้เข้ากับสภาพอากาศร้อนหรือเย็นได้ 

 

ซับในตาข่ายนุ่มเพื่อเพิ่มการระบายอากาศและความสบายของผู้ขับขี่ เรื่องความปลอดภัยด้านข้างกางเกงมีแถบสะท้อนแสงเพื่อให้เพื่อนร่วมทางสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย ตรงเข่าสามารถติดตั้งเซ็นเซอร์เข่าเสริมเข้าไปได้อีกด้วย ราคาขายเริ่มต้นตั้งแต่ 10,200 – 27,500 บาท

 

 

คำแนะนำ

 

การเลือกการเกงควรคำนึงถึงสภาพอากาศ หากวันที่ออกทริปดูพยากรณ์อากาศแล้วว่าจะมีฝน ก็ควรใช้กางเกงแบบกันน้ำ ไม่เช่นนั้นการขับขี่ขณะที่เปียกไปทั้งตัวไม่ใช่เรื่องสนุกอย่างแน่นอน และจะนำมาซึ่งอาการป่วยอีกด้วย ส่วนถ้าอากาศร้อนควรเลือกกางเกงที่มีคุณสมบัติเรื่องของการระบายอากาศได้ดี

_Alpinestars Speedflight sport boot

รองเท้า

 

รองเท้าสำหรับใช้ขี่บิ๊กไบค์ออกทริป จะให้ใส่รองเท้าผ้าใบทั่วไปดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยพอสักเท่าไหร่ เพราะด้วยความแข็งแรงทนทาน และการป้องกัน ไม่สู้รองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่โดยเฉพาะ แบ่งเป็นรองเท้าแบบสปอร์ต และแบบทัวริ่ง เหมือนเดิม

 

รองเท้าแบบสปอร์ต (สไตล์รองเท้าผ้าใบ)

 

Alpinestars มีรองเท้าแบบสปอร์คให้เลือก  2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Speedflight เป็นรองเท้าได้รับแรงบันดาลใจจากเทรนด์ยอดนิยม โดยนำรองเท้าผ้าใบสไตล์สปอร์ตสไตล์สตรีท และใส่อุปกรณ์ป้องกันการขับขี่ที่ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อสร้างรองเท้าขี่มอเตอร์ไซค์ที่สมบูรณ์แบบ

 

พื้นรองเท้าชั้นกลาง Alpinestars TPF Transversal Protection Frame ซึ่งประกบอยู่ระหว่างพื้นรองเท้ายางความหนา 2 ชั้น พร้อมผนังป้องกันด้านหน้า และพื้นรองเท้าชั้นกลาง EVA ที่ทนทานแต่ก็สวมใส่สบาย ด้านในใช้เทคโนโลยี OrthoLite® เพื่อการระบายอากาศที่ดีเยี่ยมและความสบายในการเดินตลอดทั้งวัน ราคาอยู่ที่ 214.95 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7,700 บาท (ราคาไทยยังไม่ประกาศ)

 

และรุ่น SMX-1 ใช้วัสดุจากไมโครไฟเบอร์น้ำหนักเบาและทนทานต่อการเสียดสี และเสริมด้วยตัวป้องกัน TPU โดดเด่นด้วยพื้นรองเท้าที่เป็นยางผสมพิเศษอย่างดียึดเกาะแน่น บริเวณพื้นผิวสำหรับเปลี่ยนเกียร์ออกแบบให้มีความทนทานกว่าส่วนอื่น ซิบรองเท้าถูกจัดวางไว้ข้างหลังเพื่อให้ง่ายต่อการสวมใส่ ราคาขายอยู่ที่ 7,000 บาท

_Alpinestars Faster-3 Sport boot

รองเท้าแบบสปอร์ต (สำหรับขับขี่โดยเฉพาะ)

 

รองเท้าขี่รถบิ๊กไบค์แบบสปอร์ตของ Alpinestars มี 1 รุ่น คือ Faster-3 ทำมาจากวัสดุไฟเบอร์น้ำหนักเบามีความทนทาน  พื้นรองเท้า EVA สามารถถอดเปลี่ยนได้ ซับใน Lycra ที่ด้านบน พร้อมซับในตาข่าย 3D เพื่อการระบายอากาศที่ดีเยี่ยมพร้อมหนังกลับไมโครกันลื่นที่ส้น การออกแบบนิ้วเท้าแบบอสมมาตรช่วยปกป้องพื้นที่เปลี่ยนเกียร์ พื้นรองเท้าด้านนอกใช้ยางผสมแบบพิเศษน้ำหนักเบาเป็นพิเศษให้การยึดเกาะที่มีพื้นผิว ราคาขาย 7,900 บาท

_Alpinestars touring boot

รองเท้าแบบทัวริ่ง

 

สำหรับรองเท้าทัวริ่งนั้น การออกแบบแตกต่างกับแบบสปอร์ต เพราะแบบสปอร์ตเหมือนกับรองเท้าผ้าใบ ส่วนทัวริ่งจะเป็นแบบหุ้มข้อ มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Ridge V2 เป็นรองเท้าทัวริ่งกันน้ำ 100% ทำจากวัสดุไมโครไฟเบอร์ มีความทนทานต่อการเสียดสี

 

และรุ่น Drystar มาพร้อมเทคโนโลยี Drystar® ป้องกันน้ำได้ 100% ผสมผสานขั้นสูงของไมโครไฟเบอร์และสิ่งทอที่มีความทนทานสูงสังเคราะห์ เคลือบด้วย PU ที่ไร้รอยต่อเพื่อเพิ่มการระบายอากาศให้ความสะดวกสบายตลอดการขับขี่ตลอดทริป  เทคโนโลยี Transversal Protection Frame (TPF) ช่วยปกป้องเท้าในระดับสูงสุด โดยไม่กระทบต่อการงอของเท้าด้านหน้า เพื่อความสบายในการเดินที่เหนือกว่า ราคาขายเริ่มต้นที่ 6,700 – 11,400 บาท

 

 

คำแนะนำ

 

การเลือกรองเท้าใช้ในการขี่ออกทริปจะต้องดูว่าสภาพอากาศที่จะเจอนั้นเป็นแบบไหน มีฝนหรือไม่ หากมีฝนควรเลือกรองเท้าที่กันน้ำได้ เพราะจะไม่ทำให้เท้าไม่เปียกจนอับชื้น หากเป็นอากาศร้อนอาจจะใช้รองเท้าแบบสปอร์ตทั่วไป เพื่อความสะดวกสบายทุกอิริยาบท

_Alpinestars Racing Gloves

ถุงมือ

 

สำหรับถุงมือเลือกใช้ได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นถุงมือสำหรับสนามแข่งขัน หรือสำหรับขี่ถนน

 

ถุงมือสำหรับสนามแข่งขันนั้นราคาจะแรงหน่อยเพราะออกแบบมาเพื่อป้องกันระดับสูงสุด

 

  • Alpinestars SP-8 V3 ถุงมือรุ่นเริ่มต้นของทางค่าย ใช้วัสดุเป็นหนังแพะเกรดพรีเมียม และหนังสังเคราะห์ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยนวัตกรรมไมโครไฟเบอร์และเสริมด้วย PU อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมบนฝ่ามือและนิ้วหัวแม่มือ เรื่องการเคลื่อนไหวของฝ่ามือได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่น ทำได้ดีไม่ติดขัด ราคา 4,100 บาท

 

  • Alpinestars SP-2 V3 ถุงมือรุ่นนี้ทำจากวัสดุหนังฟูลเกรนมีความทนทานสูง บริเวณฝ่ามือและนิ้วเสริมด้วยหนังแพะ เพื่อความอ่อนนุ่มในการสัมผัส นอกจากนี้ยังเสริมด้วยหนังกลับสังเคราะห์เพื่อให้ทนต่อการเสียดสี ด้านในฝ่ามือเสริมด้วยโฟม EVA ดูดซับแรงกระแทก นอกจากนี้บริเวณปลายนิ้วได้มีการออกแบบให้สามารถสัมผัสกับจอสมาร์ทโฟนได้ดีอีกด้วย ราคา 5,900 บาท

 

  • Alpinestars GP Plus R V2 เป็นถุงมือที่เน้นการป้องกันมือระดับพรีเมียม ด้วยเทคโนโลยี Dynamic Friction Shield (DFS) เอกสิทธิ์เฉพาะของ Alpinestars โครงสร้างโพลีเมอร์ความหนา 2 ชั้นเพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่าต่อการกระแทกซ้ำๆ และความทนทานต่อการเสียดสี เสริมความแข็งแรงของมือและนิ้วหัวแม่มือด้วยเส้นใยอะรามิดิกภายใน พร้อมด้วยชั้นเส้นใยอะรามิดิกรอบนิ้วก้อยทำให้ทนทานต่อการเสียดสีได้ดีเยี่ยม ราคา 8,600 บาท

 

  • Alpinestars GP Pro R3 เป็นการผสมผสานระหว่างหนังสัตว์ 3 ชนิด ได้แก่ หนังแพะ หนังวัว และหนังจิงโจ้ เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ถุงมือรุ่นนี้ผ่านการทดสอบในเวทีใหญ่มาแล้ว เช่น WorldSBK และ MotoGP มีความทนทานต่อการเสียดสีสูงมาก ซับในอะรามิดิกบริเวณหลังมือเพื่อเพิ่มการป้องกัน ตรงส่วนนิ้วมีการเสริมการป้องกันแรงกระแทกเข้าไปอีก มีระบบปิด 2 ชั้นเพื่อความปลอดภัย ราคาขาย 11,400 บาท

 

  • Alpinestars GP Tech V2 ถุงมือเกรด Racing ระดับพรีเมียม วัสดุมีความยืดหยุ่นสูง ผ้ายืด Kevlar® และหนังบริเวณหลังมือเพื่อความยืดหยุ่นสูงสุด อิสระในการเคลื่อนไหว ลดความเมื่อยล้า และความคล่องตัวในการควบคุมรถแข่ง บริเวณนิ้วเพิ่มความหนาเป็น 2 ชั้น เพื่อป้องกันอันตราย ราคา 14,900 บาท

 

  • Alpinestars Supertech เป็นการผสมผสานระหว่างหนังจิงโจ้เกรดพรีเมียม และหนังแพะ เพื่อให้ได้ทั้งความนุ่มนวลและความแข็งแรง เสริมการป้องกันด้วยเส้นใยอะรามิดและโพลีเอไมด์ บนฝ่ามือและมือด้านนอก ให้ความทนทานต่อการเสียดสีสูงสุดในบริเวณที่มีการกระแทก ตะเข็บการเย็บคำนึงการใช้งานของนิ้ว แผ่นรองมือและข้อนิ้วทำจากโฟม PU ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ระบบป้องกันนิ้วยังได้รับการเสริมด้วยวัสดุ 2 ชั้น เทคโนโลยี CarbonX® พัฒนาและทดสอบในแผนกรถยนต์ของ Alpinestars เพื่อการต้านทานความร้อนจากการเสียดสีได้ดีกว่า ราคา 16,900 บาท
_Alpinestars Sport Gloves

ถุงมือสำหรับขี่ถนน

 

สำหรับถุงมือสำหรับขี่บนถนนนั้นราคาจะถูกว่าถุงมือที่ใช้ในการแข่งขันมาก เรียกได้ว่าแทบจะเกินครึ่ง มีให้เลือกอยู่ 4 รุ่น ได้แก่

 

  • Alpinestars SMX-1 Air V2 ทำมาจากหนังกลับสังเคราะห์ การเสริมแผ่นรองด้านข้างเพื่อความทนทาน ต้านทานการเสียดสี ระบบป้องกันข้อนิ้วโพลีเมอร์แข็งเพื่อความทนทานต่อแรงกระแทกที่เหนือกว่า ตัวถุงมือมีการเจาะรูระบายอากาศ ฝ่ามือและนิ้วหัวแม่มือมีการออกแบบให้ยึดเกาะได้ดีเยี่ยม ราคาขายอยู่ที่ 2,800 บาท

 

  • Alpinestars S MAX Drystar ถุงมือผลิตจากหนังผสมกับตาข่ายยึดหยุ่นพร้อมเทคโนโลยี Drystar® กันน้ำและระบายอากาศได้ดี พร้อมซับใน การยึดเกาะดีเยี่ยม ตรงปลายนิ้วออกแบบให้สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้โดยที่ไม่ต้องถอดถุงมือออก ราคาขายอยู่ที่ 3,400 บาท

 

  • Alpinestars SMX Z Drystar เป็นถุงมือที่อัพเกรดมาจาก S MAX Drystar ใช้วัสดุหนังแพะมีความนุ่มนวล ด้านข้างเสริมด้วยหนังกลับเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ปลายนิ้วออกแบบให้ใช้กับสมาร์ทโฟนได้เช่นเดียวกัน ราคาขาย 3,600 บาท

 

  • Alpinestars SMX-2 Air Carbon เป็นถุงมือที่ใช้วัสดุผสมผสานระหว่างหนังแบบ Full Gain และตาข่าย 3D เพื่อความทนทาน และทนต่อการเสียดสี พร้อมระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ฝ่ามือและนิ้วหัวแม่มือใช้วัสดุที่มีการยึดเกาะอย่างดี เพื่อการควบคุมรถบิ๊กไบค์ ปลายนิ้วออกแบบให้สามารถใช้กับสมาร์ทโฟนได้โดยไม่ต้องถอดถุงมือ ราคาขายอยู่ที่ 3,900 บาท

 

 

คำแนะนำ

 

สำหรับถุงมือนั้นไบค์เกอร์คนไหนไม่ได้จริงจังถึงกับขับขี่ในสนามแข่งขัน ก็ควรเลือกถุงมือที่ออกแบบมาสำหรับขี่บนถนน เพราะจะช่วยเซฟงบประมาณไปได้มาก

_Alpinestars-111

สุดท้ายนี้จะเห็นได้ว่าชุดที่เหมาะสมสำหรับขี่บิ๊กไบค์ออกทริปนั้นจะมีลักษณะปิดมิดชิดทั้งร่างกาย รวมไปถึงใช้วัสดุที่ทนทานต่อการเสียดสี จึงอาจจะดูหนาไปหน่อย แต่ถึงอย่างไรก็ตามทางแบรนด์ผู้ผลิตก็ได้คิดค้นการระบายอากาศเพื่อให้ขณะขับขี่ไม่ให้เหล่าไบค์เกอร์ต้องเจอกับสภาพเหงื่อไหล่จนอาจจะนำไปสู่อาการขาดน้ำ และที่สำคัญควรที่จะตรวจเช็คร่างกายของตัวเองทั้งก่อนเดินทางและระหว่างเดินทางด้วย

 

ไบค์เกอร์คนไหนสนใจสินค้าของ Alpinestars สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

อ่านข่าว General Tips เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Alpinestars เพิ่มที่นี่


 

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish



ห้ามคัดลอกบทความหรือเนื้อหาในเว็บ Motowish