Home  »  General Tips   »   เทคนิคการเข้าโค้ง ที่เหล่าไบค์เกอร์ซิ่งบิ๊กไบค์ต้องรู้

เทคนิคการเข้าโค้ง ที่เหล่าไบค์เกอร์ซิ่งบิ๊กไบค์ต้องรู้

เทคนิคการเข้าโค้ง-6

เมื่อเหล่าไบค์เกอร์ ซื้อรถบิ๊กไบค์มา สิ่งแรกที่จำเป็นและจะต้องมีในการขับขี่เลยก็คือ ทักษะการขับขี่รถบิ๊กไบค์ ซึ่งไม่เหมือนกับรถจักรยานยนต์ทั่วไป ด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลังกว่า ตัวรถที่มีขนาดใหญ่กว่า จึงสำคัญอย่างยิ่งที่เหล่าไบค์เกอร์ทุกคนจะต้องมีทักษะเบื้องต้น ในวันนี้จะมาพูดถึงเรื่องเทคนิคการเข้าโค้งกัน

 

ก่อนจะเข้าเรื่องไบค์เกอร์จะต้องรู้ก่อนว่าทุกส่วนของร่างกายนั้นมีความสำคัญต่อการเข้าโค้งเป็นอย่างยิ่ง เริ่มต้นที่ลำตัวที่ตั้งอยู่ในจุดสมดุล สายตาทำหน้าที่สอดส่องเหตุการณ์ทุกอย่าง แขนและไหล่ คอยควบคุมให้รถอยู่ในจุดที่เข้าโค้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะโพก ที่ทำเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของตัวรถ เข่าที่อยู่ในตำแหน่งเหมาะกับการเข้าโค้งแต่ละท่า และเท้าที่คอยคุมเกียร์และเบรก

เทคนิคการเข้าโค้ง-1

เทคนิคการเข้าโค้ง สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 แบบดังนี้

 

Lean Out

 

การเข้าโค้งในรูปแบบ Lean Out นั้นเหล่าไบค์เกอร์จะต้องถ่วงน้ำหนักของตัวเองไปยังด้านนอกของโค้งมากกว่าในโค้ง หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ตัวผู้ขับขี่จะเอียงไปฝั่งตรงข้ามของการเอียงรถ มักนิยมใช้ในการขับขี่รถวิบาก โดยจะช่วยให้สามารถควบคุมได้ดีขึ้นหากมีการลื่นไถล หรือขับขี่หลบสิ่งกีดขวาง เหมาะสำหรับการขับขี่ที่ไม่เร็วมาก และในบริเวณที่แคบ

เทคนิคการเข้าโค้ง-3

Lean With

 

การเข้าโค้งในรูปแบบ Lean With นั้น เหมาะสำหรับการใช้ขับขี่ในชีวิตประจำวันเป็นอย่างยิ่ง โดยเหล่าไบค์เกอร์จะต้องทำตัวเองให้เป็นส่วนหนึ่งกับตัวรถ เป็นธรรมชาติที่สุด โดยขณะเข้าโค้งตัวผู้ขับขี่จะเอียงไปในทิศทางเดียวกันตัวรถ หัวเข่าแนบขิดกับถังน้ำมัน เท้าทั้งสองข้างอยู่บนพักเท้า การเข้าโค้งรูปแบบนี้ใช้โค้งที่มีความเร็วปานกลาง รวมถึงไบค์เกอร์มือใหม่สามารถฝึกได้ไม่ยาก

เทคนิคการเข้าโค้ง-4.jpg

Lean In

 

การเข้าโค้งรูปแบบ Lean In เป็นการเข้าโค้งที่จะต้องใช้ความชำนาญขึ้นมาอีกขั้น กล่าวคือ เหล่าไบค์เกอร์นั้นจะต้องเริ่มถ่วงน้ำหนักตัวเอง รวมถึงโน้มตัวในช่วงไหล่และศีรษะลงต่ำกว่าองศาการเอียงของตัวรถเล็กน้อย ซึ่งหากไม่มีความชำนาญการควบคุมรถนั้นจะควบคุมได้ยากกว่าหากรถไม่มีระบบอิเล็กทรอนิกส์คอยช่วยหากไม่ชำนาญอาจเกิดอุบัติเหตุได้ มากใช้ในจังหวะความเร็วในโค้งสูง และที่สำคัญควรจะมีการฝึกฝนในสนามแบบปิด และมีครูฝึกคอยดูแล

Hang On

 

สำหรับการเข้าโค้งในรูปแบบ Hang On นั้น เป็นการขับขี่ขั้นสูง โดยตัวผู้ขับขี่เองจะต้องเข้าโค้งในลักษณะโหนรถ ถ่วงน้ำหนักของตัวเองลงไปยังโค้งมากกว่าการเข้าโค้งแบบ Lean In ซึ่งจะต้องใช้แทบทุกส่วนของร่างกายในการควบคุมรถ ไม่ว่าจะเป็นการใช้คันเร่ง การใช้เบรก สายตาที่แม่นยำ สมาธิที่มั่นคง เข่าที่พร้อมรักษาสมดุล การเข้าโค้งรูปแบบนี้เห็นได้ทั่วไปในสนามแข่งขัน ทั้งในนักแข่งมืออาชีพและไบค์เกอร์ที่ชื่นชอบการขี่ Track Day และที่สำคัญไม่ควรฝึกนอกสนามเด็ดขาด

สาวกบิ๊กไบค์ต้องรู้ "วิธีไหว้แม่ย่านาง" เสริมความเป็นสิริมงคล และความแคล้วคลาด | MOTOWISH 4

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ในการเข้าโค้ง ทั้ง 4 รูปแบบ ไบค์เกอร์แต่ละคนฝึกถึงขั้นไหนกันแล้ว ลองมาแชร์ให้ไบค์เกอร์ท่านอื่นได้ทราบหน่อย สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ “ความไม่ประมาท” ถึงแม้ว่าการเข้าโค้งบางรูปแบบจะดูง่าย แต่หากใช้ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้ และจะก่อนที่จะฝึกฝนควรที่จะทำความรู้จักรถบิ๊กไบค์ของตัวเองด้วย ไม่ว่าจะเป็นพละกำลัง เบรก เกียร์ นอกจากนี้ทุกอย่างต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมเสมอ

อ่านข่าว General Tips เพิ่มที่นี่


 

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish



ห้ามคัดลอกบทความหรือเนื้อหาในเว็บ Motowish