Home  »  General Tips   »   วิธีวัดเสียงท่อไอเสียอย่างถูกต้อง “เกิน 95 เดซิเบล” ตามกฎหมายกำหนดหรือไม่

วิธีวัดเสียงท่อไอเสียอย่างถูกต้อง “เกิน 95 เดซิเบล” ตามกฎหมายกำหนดหรือไม่

__How to measure exhaust noise-1

วัยรุ่นท่อดังชอบจะมีปัญหากับคุณพี่ตำรวจอยู่เสมอ เพราะบางทีเห็นท่อไอเสียแต่งที่ไม่ได้มาจากโรงงาน หรือแบบที่ใส่มาจากโรงงานก็จะถูกจับจ้องเป็นพิเศษ จนต้องถูกเรียกตรวจสอบ และวัดค่าความดังของเสียงว่าเกิน 95 เดซิเบล ตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ วันนี้จะพามาดูวิธีการวัดว่าทำอย่างไรถึงจะถูกต้องตามมาตรฐานและกฎหมาย

เปิดราคาท่อ Akrapovic Full Race สำหรับรถ Ducati Panigale V4 พร้อมอัพเกรดซอฟแวร์จากอิตาลี | MOTOWISH 49

กรมการขนส่งทางบกได้มีประกาศตัวใหม่ออกมาที่บังคับใช้ตั้งแต่ต้นปี คือ ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดมาตรฐานระดับเสียงและวิธีวัดระดับเสียงของรถจักรยานยนต์ พ.ศ. 2564 โดยได้กำหนดค่าเสียงมาตรฐานไว้ดังนี้

 

1. รถจักรยานยนต์รุ่นที่มีความเร็วออกแบบสูงสุดเกินกว่า 50 กม./ชม. หรือมีกระบอกสูบเกินกว่า 50 ลูกบาศก์เซนติเมตรและมีเครื่องหมายหรือแผ่นป้ายแสดงค่าผลการทดสอบระดับเสียงขณะอยู่กับที่ที่ได้รับการรับรองแบบ กรณีจดทะเบียนก่อน 1 ม.ค. 65 ดังไม่เกิน 95 เดซิเบล กรณีจดทะเบียนตั้งแต่ 1 ม.ค. 65 เป็นต้นไป ดังไม่เกิน 5 เดซิเบล

 

2. รถจักรยานยนต์ที่ไม่มีเครื่องหมายหรือแผ่นป้ายแสดงค่าผลการทดสอบระดับเสียงขณะอยู่กับที่ที่ได้รับการรับรองแบบ รถจดทะเบียนก่อน 1 ม.ค. 65 ดังไม่เกิน 95 เดซิเบล และรถจดทะเบียนตั้งแต่ 1 ม.ค. 67 ดังไม่เกิน 90 เดซิเบล

ถ้ารถจักรยานยนต์ของเหล่าไบค์เกอร์มีเสียงเกินกว่าที่ประกาศกรมการขนส่งทางบก จะมีโทษอย่างไร? ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 10 ทวิ บอกไว้ว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดนำรถที่เครื่องยนต์ก่อให้เกิดก๊าซ ฝุ่น ควัน ละอองเคมี หรือเสียงเกินเกณฑ์ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา มาใช้ในทางเดินรถ…” และมาตรา 152 กำหนดโทษไว้ว่า “ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 10 ทวิ…ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท

หลังจากทราบโทษกันแล้ว มาดูวิธีวัดเสียงดีกว่าว่ามาตรฐานวิธีการวัดความดังของท่อไอเสียนั้นเขาวัดกันยังไง

 

เครื่องวัดเสียง จะต้องผ่านมาตรฐาน  IEC 60651 หรือ IEC 60804 หรือ IEC 61672-1 หรือเครื่องวัดระดับเสียงอื่นที่เทียบเท่า

 

ก่อนทําการตรวจวัดระดับเสียงของรถจักรยานยนต์ในแต่ละวันจะต้องปรับเทียบมาตรระดับเสียงด้วยเครื่องกําเนิดเสียงมาตรฐานอย่างน้อย 1 ครั้ง และให้ปรับมาตรระดับเสียงไว้ที่วงจรถ่วงน้ำหนัก “A” (Weighting Network “A”) และลักษณะความไวตอบรับเสียง “Fast” (Dynamic Characteristics “Fast”)

_How to measure exhaust noise-1

การตรวจวัดระดับเสียงของรถจักรยานยนต์ให้กระทําในสถานที่ซึ่งเป็นพื้นราบทําด้วยคอนกรีตหรือแอสฟัลต์หรือวัสดุที่มีคุณสมบัติในการสะท้อนเสียงได้ดีเป็นที่โล่ง ไม่มีสิ่งกีดขวางภายในระยะ 3 เมตร ห่างจากขอบนอกของรถจักรยานยนต์ (ไม่รวมคันบังคับ)

 

ให้ทําการตรวจวัดระดับเสียงของสภาพแวดล้อมก่อนทําการตรวจวัดรถจักรยานยนต์ทุกคัน โดยระดับเสียงของสภาพแวดล้อมที่วัดได้ในสถานที่นั้น จะต้องไม่เกิน 85 เดซิเบล หากไม่เป็นไปตามค่าที่กําหนดไว้ในตาราง ให้เปลี่ยนสถานที่ตรวจวัดระดับเสียงของรถจักรยานยนต์คันนั้น

_How to measure exhaust noise-2

ให้จอดรถจักรยานยนต์อยู่กับที่และทําการเดินเครื่องยนต์ในตําแหน่งเกียร์ว่าง หากรถจักรยานยนต์ที่จะทําการตรวจวัดไม่มีเกียร์ว่างให้เดินเครื่องยนต์อยู่กับที่ด้วยความเร็วรอบเดินเบา ถ้ามี ขอบทางเท้าจะต้องจอดรถจักรยานยนต์ห่างจากขอบทางเท้าอย่างน้อย 1 เมตร

 

ให้แกนความไวสูงสุดของไมโครโฟนของมาตรระดับเสียงขนานกับพื้นในระดับเดียวกันกับปลายท่อไอเสีย แต่ต้องไม่น้อยกว่า 0.2 เมตร

_How to measure exhaust noise-3

ตำแหน่งการวางไมโครโฟนวัดระดับเสียง

 

กรณี ท่อไอเสียท่อเดียว ให้หันแกนความไวสูงสุดของไมโครโฟนเข้าหาปลายท่อไอเสียทํามุม 45 องศา กับแนวปลายท่อไอเสีย และห่างจากปลายท่อไอเสียเป็นระยะ 0.5 เมตร โดยให้ตําแหน่งของไมโครโฟนอยู่ ด้านที่ให้ระยะห่างระหว่างไมโครโฟนและขอบนอกของตัวรถ (ไม่รวมคันบังคับ) มากที่สุด และหากท่อไอเสียยื่นไม่พ้นตัวรถให้หันไมโครโฟนทํามุม 45 องศากับแนวแกนกลางของระบบไอเสีย และห่างจากขอบนอกของตัวรถ (ไม่รวมคันบังคับ) เป็นระยะ 0.5 เมตร

 

กรณี ท่อไอเสียมี 2 ท่อหรือมากกว่า ซึ่งต่อจากหม้อพักใบเดียวกันและมีระยะห่างระหว่างปลายท่อไอเสียไม่เกิน 0.3 เมตร โดยตรวจวัดที่ปลายท่อไอเสียที่อยู่ห่างจากตัวรถมากที่สุด และหากท่อไอเสียยื่นไม่พ้นตัวรถให้ตรวจวัดที่ระดับปลายท่อไอเสียที่สูงกว่า

 

กรณีท่อไอเสียมี 2 ท่อหรือมากกว่า ซึ่งต่อจากหม้อพักใบเดียวกันโดยมีระยะห่างระหว่างปลายท่อไอเสียเกินกว่า 0.3 เมตร หรือกรณีที่มีท่อไอเสียต่อจากหม้อพักคนละใบ ไม่ว่าจะมีระยะห่างระหว่างปลายท่อไอเสียเท่าใด โดยตรวจวัดทุกปลายท่อไอเสีย และให้ใช้ค่าผลการตรวจวัดของท่อไอเสียที่มีค่าระดับเสียงสูงที่สุด

_How to measure exhaust noise-4

การเร่งเครื่องกําหนดความเร็วรอบของเครื่องยนต์ที่ใช้ในการตรวจวัดระดับเสียงดังต่อไปนี้

 

  • เครื่องยนต์ที่มีความเร็วรอบที่ให้กำลังสูงสุด ไม่เกิน 5,000 รอบต่อนาที ให้ใช้ 3 ใน 4 ของความเร็วรอบที่ให้กำลังสูงสุด

 

  • เครื่องยนต์ที่มีความเร็วรอบที่ให้กำลังสูงสุด เกินกว่า 5,000 รอบต่อนาที ให้ใช้ 1 ใน 2 ของความเร็วรอบที่ให้กำลังสูงสุด

 

  • เครื่องยนต์ที่ไม่ทราบความเร็วรอบที่ให้กำลังสูงสุด
    • เครื่องยนต์ 2 จังหวะ ให้ใช้รอบที่ 3,750 รอบต่อนาที
    • เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ให้ใช้รอบที่ 3,000 รอบต่อนาที
รีวิว Ducati Supersport S 2017 สปอร์ตไบค์ฟังก์ชั่นทัวร์ริ่ง ฟิลลิ่งสุดเร้าใจ | MOTOWISH 57

วิธีการเร่งเครื่อง

 

ให้เร่งเครื่องยนต์จากความเร็วรอบเดินเบาอย่างช้าๆ ให้ได้ความเร็วรอบที่กําหนดโดยมีความคลาดเคลื่อนของความเร็วรอบได้ไม่เกินร้อยละ 5 และคงไว้อย่างน้อย 1 วินาทีจากนั้นให้ทําการปล่อย คันเร่งอย่างทันทีทันใดให้เครื่องยนต์กลับคืนสู่ความเร็วรอบเดินเบา

 

หากไม่สามารถทําการเร่งเครื่องยนต์ให้ถึงความเร็วรอบที่ใช้ในการตรวจวัดได้ให้ทําการตรวจวัดโดยใช้ความเร็วรอบที่ร้อยละ 95 ของความเร็วรอบที่สามารถเร่งเครื่องยนต์ได้สูงสุด

R.I.P. “ลูอิจิ เทอร์มิกโนนิ” ชายผู้ปฏิวัติวงการท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ “Termignoni” เสียชีวิตด้วยวัย 75 ปี | MOTOWISH 1

การอ่านค่าเสียง

 

การอ่านค่าระดับเสียงของรถจักรยานยนต์ที่ทําการตรวจวัดจะต้องไม่มีบุคคลหรือสิ่งกีดขวางอยู่ระหว่างไมโครโฟนของมาตรระดับเสียงกับปลายท่อไอเสีย โดยให้อ่านค่าระดับเสียงสูงสุดในช่วงเวลาตั้งแต่เครื่องยนต์รักษาความเร็วรอบของการตรวจวัดไว้อย่างน้อย 1 วินาทีครอบคลุมไปถึงช่วงระยะเวลาที่ปล่อยคันเร่งอย่างทันทีทันใดไปจนเครื่องยนต์กลับคืนสู่ความเร็วรอบเดินเบาโดยทําการอ่านค่าระดับเสียงจนถึงทศนิยมตําแหน่งที่ 1 ในหน่วยของเดซิเบลเอ

 

ให้ตรวจวัดระดับเสียง 2 ครั้ง ถ้าค่าระดับเสียงที่ตรวจวัดทั้ง 2 ครั้งแตกต่างกันเกินกว่า 2 เดซิเบลเอ ให้ตรวจวัดระดับเสียงโดยเริ่มต้นใหม่ ให้นําค่าผลการตรวจวัดระดับเสียงในครั้งที่มีค่าสูงสุดมาปัดเป็นเลขจํานวนเต็มตามหลักคณิตศาสตร์สําหรับนําไปใช้เปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานระดับเสียงของรถจักรยานยนต์

__How to measure exhaust noise-2

และนี่ก็เป็นขั้นตอนวิธีการวัดค่าระดับเสียงของท่อไอเสียที่ถูกต้องตามกฏหมายและได้มาตรฐาน เพราะฉะนั้นหากไบค์เกอร์คนไหนถูกเรียกตรวจท่อไอเสียก็อย่าลืมดูด้วยว่าเจ้าหน้าที่นั้นทำตามกฎหมายหรือไม่ เพราะบางครั้งอาจจะทำให้ความดังของท่อเกินกว่ากฎหมายกำหนด

Source Cr.: กรมการขนส่งทางบก

อ่านข่าว General Tips เพิ่มที่นี่


 

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish



ห้ามคัดลอกบทความหรือเนื้อหาในเว็บ Motowish