หลายคนคงสงสัยกันว่า ทำไมยาง Slick ที่ขึ้นชื่อว่ามีการยึดเกาะพื้นสนามแข่งผิวดีที่สุด ถึงไม่ถูกนำมาใช้กับถนนหลวงทั่วไป วันนี้ลองมาหาคำตอบกันดีกว่า

เริ่มต้นที่รูปลักษณ์ของยาง Slick มีรูปร่างที่เป็นวงกลมมนไม่มีร่องหรือดอกยางใดๆ อยู่บนตัวยางเลยแม้แต่นิดเดียว แก้มยางยังมีความเตี้ยมากกว่ายางรถทั่วไปอีกด้วย นั่นก็เพราะช่วยให้การเข้าโค้งที่ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

ไม่เพียงแค่นั้นโครงสร้างข้างในของตัวยางก็ไม่ได้มีการใช้เส้นลวดเป็นส่วนประกอบของยางเหมือนกับยางทั่วไป เป็นการขึ้นรูปยางขึ้นมาโดยใช้ส่วนผสมต่างๆ ทำให้ตัวยางนั้นไม่ได้อยู่ในรูปร่างเดิมตลอดเวลา เพราะไม่มีลวดคอยทำหน้าที่ควบคุมโครงสร้าง หากเกิดการกระแทกแรงๆ ก็อาจจะทำให้เสียทรงได้

มาถึงเรื่องของการยึดเกาะ ยาง Slick นั้น ที่ทำให้มีการยึดเกาะมากกว่ายางทั่วๆ ไป ก็คือ เนื้อยางที่มีการออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะสูง โดยมีตัวเลข Trade Ware ที่ต่ำ ตัวเลขน้อยจะมีการยึดเกาะสูง แต่ก็ต้องแลกมากับอายุการใข้งานที่สั้นกว่า นอกจากนี้ยังมีแยกย่อยออกไปให้เลือกอีกว่าความนิ่มของยางนั้นจะใช้แบบไหน Soft, Medium หรือ Hard

ส่วนที่ยาง Slick ไม่มีดอกยางก็เพราะว่า ยาง Slick ไม่ต้องการให้มีการรีดน้ำ ต้องการให้เนื้อยางสัมผัสกับผิวถนนแบบเต็มที่ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเซาะร่องดอกยางเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ถ้าหากขี่ในสถานการณ์ที่ฝนตก พื้นผิวเปียก ยาง Slick ก็จะไม่สามารถรีดน้ำออกได้เช่นเดียวกัน ผลที่ตามมาก็คือ เหมือนกับยางนั้นอยู่บนน้ำไม่ได้สัมผัสกับพื้น หรือที่เรียกว่าเหินน้ำนั่นเอง

ฉะนั้นหากจะนำเอายาง Slick มาใช้งานบนถนนทั่วไปได้หรือไม่ ก็ตอบว่า ได้ แต่…ก็ไม่เหมาะสมอยู่ดี เพราะว่าหากความร้อนของยางไม่ได้อุณหภูมิการเซ็ตตัวของเนื้อยางก็จะไม่ดี อาจทำให้การขับขี่เกิดอุบัติเหตุได้ สังเกตุได้จากทุกครั้งที่จะออกไปขี่จะต้องมีการใช้ผ้าวอร์มยางทำอุณหภูมิให้ยางเสียก่อน และยิ่งไปกว่านั้น สภาพถนนทั่วไปไม่ได้แห้ง  เรียบ หรือสะอาดเหมือนกับพื้นผิวในสนาม ดังนั้นหากใช้ยาง Slick วิ่งบนนถนนทั่วไปก็อาจจะงานเข้าได้

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเรื่องราวของยาง Slick หวังว่าเหล่าไบค์เกอร์ทุกคนจะได้ความรู้ไม่มากก็น้อยในบทความนี้ แต่ก็ใช้ว่าจะไม่มียางที่มีลักษณะเหมือนยาง Slick ขายนะ หลายบริษัททำออกยางสนามออกมาขายเป็นยางถนนที่เรียกว่า ยางกึ่งสลิค เอามาใส่วิ่งเท่ๆ ได้เหมือนกัน

อ่านข่าว General Tips เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish