Home  »  General Tips   »   ยางรถ แบบ “มียางใน” กับ “ไม่มียางใน” ข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกันอย่างไร?

ยางรถ แบบ “มียางใน” กับ “ไม่มียางใน” ข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกันอย่างไร?

Tube tire VS Tubeless tire

รถจักรยานยนต์ กับยางรถ เป็นสิ่งที่คู่กันขาดไม่ได้หากรถไม่มียางก็ไม่สามารถขี่ไปได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยางรถยังเป็นสิ่งสำคัญที่เหล่าไบค์เกอร์ควรให้ความสำคัญในการเลือกใช้ แต่เคยสังเกตกันหรือไม่ว่ายางรถจักรยานยนต์นั้นมีทั้งแบบมียางใน และแบบไม่มียางใน ทั้งสองแบบนี้ต่างกันอย่างไร? วันนี้จะพามาหาคำตอบกัน

_tube tire

ยางแบบมียางใน (Tube Tire)

 

สำหรับยางแบบมียางในนั้น ประกอบไปด้วยยางด้านนอก และยางที่อยู่ด้านในอีกทีสำหรับใช้เติมแรงดันลมเข้าไปในยาง การออกแบบไม่มีความพิเศษอะไรมาก และส่วนมากจะใช้สำหรับรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กทั่วไป แต่รถบิ๊กไบค์บางรุ่นออกแบบมาให้ใช้แบบยางในเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Honda Africa Twin เหตุผลก็คือ ยางแบบมียางในจะใช้ได้ดีกว่าเมื่อเจอเส้นทางที่ขรุขระ เนื่องจากยางในสามารถรับแรงกระแทบยืดหยุ่นได้ดีกว่า และเวลาที่แตกก็สามารถเปลี่ยนได้ง่ายกว่าโดยใช้เครื่องมือเพียงไม่กี่ชิ้น ที่นอกจากนี้ในรถรุ่นเก่าๆ ของ Harley Davidson ก็ยังใช้ยางแบบมียางในเหมือนกัน

 

ข้อดีของยางแบบมียางใน (Tube Tire)

 

  • ราคาถูกกว่า
  • เวลาโดนของมีคมตำ สามารถปะหรือเปลี่ยนได้ง่าย
  • บรรทุกน้ำหนักได้มากกว่ายางแบบไม่มียางใน
  • หาซื้อได้ง่ายกว่า

 

 

ข้อเสียของยางแบบมียางใน (Tube Tire)

 

  • เมื่อโดนวัตถุเสียบเข้าไปในยางจะโดนยางในและลมออกอย่างรวดเร็ว
  • ต้องหมั่นตรวจสอบลมยางอยู่เสมอไม่ให้อ่อนจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ยางนอกและยางในเสียดสีกันจนแตกได้
  • คุณภาพยางไม่ดีเท่ายางแบบไม่มียางใน
  • ยางเกิดอาการร้อนมากเมื่อวิ่งทางไกลเป็นเวลานาน และนำไปสู่การแตกของยางใน
_Bridgestone tubeless tire

ยางแบบไม่มียางใน (Tubeless Tire)

 

ยางแบบไม่มียางใน (Tubeless Type) หรือ ทูปเลส หรือคนไทยมักเรียกว่า จุ๊บเลส นั้น เป็นยางที่มีโครงสร้างเนื้อแข็งมีความแข็งแรงกว่ายางแบบมียางในมาก ใช้ผนังยางทั้งด้านในของยางเป็นตัวกักเก็บลมยางไม่ให้ออกไปไหนแทนที่การใช้ยางใน ภายในโครงสร้างยางนั้นมีเทคโนโลยีมากมายที่แต่ละค่ายใส่เข้ามาตั้งแต่ เนื้อยางไปจนถึงลวดยาง

 

 

ข้อดีของยางแบบไม่มียางใน (Tubeless Tire)

 

  • โครงสร้างยางออกแบบมาเป็นอย่างดีมีความแข็งแรง ยึดเกาะได้ดี มั่นใจได้ทุกโค้ง
  • เมื่อถูกวัตถุมีคมแทงจะรั่วยากกว่ายางแบบมียางใน เพราะหากไม่ดึงออกมาลมยางแค่ค่อยๆ ซึมออก
  • ลมยางเก็บได้นานกว่ายางแบบมียางใน
  • อายุการใช้งานนานกว่ายางแบบมียางใน
  • ไม่ต้องเปลี่ยนยางใน เพราะไม่มียางใน
  • เกิดแผลเล็กสามารถปะแบบตัวหนอนได้

 

 

ข้อเสียของยางแบบไม่มียางใน (Tubeless Tire)

 

  • ราคาแพงกว่ายางแบบมียางใน
  • หากเกิดแผลใหญ่จะต้องปะแบบสตีม อาจทำให้โครงสร้างยางและเนื้อยางได้รับผลกระทบบริเวณที่ปะ

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า ยางแบบมียางใน (Tube Tire) กับ ยางแบบไม่มียางใน (Tubeless Tire) นั้นความแตกต่างกันตรงที่ มียางอยู่ด้านในและไม่มียางด้านใน รวมไปถึงการออกแบบยางมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ส่วนเรื่องข้อดีข้อเสียก็แตกต่างกันอยู่ตามลักษณะของยาง ดังนั้นการเลือกใช้ยางจะต้องดูก่อนว่ารถที่ใช้นั้นเป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานยางประเภทไหน

 

หากเป็นรถบิ๊กไบค์ก็เลือกใช้ยางแบบไม่มียางในเพื่อคุณภาพที่สูงสุด แต่อย่างที่เคยบอกไปว่ารถบิ๊กไบค์บางรุ่นก็ยังใช้ยางแบบมียางในอยู่เหมือนกัน ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นเก่าๆ บิ๊กไบค์รุ่นใหม่ๆ จะไม่มีใช้ยางในแล้ว แม้กระทั่งสายออฟโร๊ดก็ได้พัฒนาให้ใช้ยาง Tubeless กันแล้ว

 

สำหรับไบค์เกอร์คนไหนกำลังสนใจหาซื้อยางรถจักรยานยนต์ที่คุ้มค่าคุ้มราคา Bridgestone Moto Thailand ผู้นำเข้ายางรถจักรยานยนต์ของประเทศไทย มียางให้เลือกมากมายตั้งแต่ Honda Wave ไปจนถึงบิ๊กไบค์ระดับตัวพัน ซึ่งแบ่งออกมากมายหลายประเภทการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น สายสปอร์ต, สายแข่ง, สายทัวริ่ง , สายแอดเวนเจอร์ , สายสกุ๊ตเตอร์ , สายครุยเซอร์ , สายออฟโร๊ด หรือสายวินเทจ เรียกได้ว่าครบทุกเซกเม้นต์กันเลยทีเดียว ส่วนเรื่องคุณภาพของยางนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เพราะว่าทาง Bridgestone ได้มีการวิจัยและพัฒนามาตลอดหลายสิบปี ทำให้เรื่องความทนทาน และการยึดเกาะ รวมไปถึงความคุ้มค่านั้นเรียกได้ว่า คุ้มเกินราคาอย่างแน่นอน หากไบค์เกอร์คนไหนสนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ หรือติดตามข่าวสารอัพเดทผ่านทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ Bridgestone Moto Thailand

อ่านข่าว General Tips เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Bridegestone เพิ่มที่นี่


 

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish



ห้ามคัดลอกบทความหรือเนื้อหาในเว็บ Motowish