แทร็กเดย์ (Track Day) ใครหลายคนคงเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง และไบค์เกอร์หลายคนก็ทราบว่ามันคือกิจกรรมอะไร วันนี้ทีมงาน MotoWish จะพามาทำความรู้กันให้หายข้องใจ

เวลาเหล่าไบค์เกอร์เดินเข้าไปในโชว์รูมรถยี่ห้อต่างๆ เพื่อซื้อบิ๊กไบค์ สิ่งหนึ่งที่มักจะได้รับการเสนอจากทางแบรนด์ก็คือการเข้าร่วมกิจกรรมแทร็กเดย์ (Track Day) โดยแต่ละปีทางค่ายจะมีปฏิทินกิจกรรมไว้ล่วงหน้าว่าจะจัดกี่ครั้งต่อปีเป็นข้อเสนอให้กับลูกค้า

ไม่เพียงแค่ค่ายรถเท่านั้นที่มีการจัดกิจกรรมแทร็กเดย์ ทางสนามแข่งขันเองทุกๆ ปีจะมีการจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา เพื่อให้เหล่าไบค์เกอร์ได้มาลองขับขี่รถบิ๊กไบค์บนสนามในแบบที่ปลอดภัยและสามารถใช้ความเร็วตามใจต้องการ พร้อมกับให้เหล่าไบค์เกอร์ได้ฝึกฝนพัฒนาฝีมือตัวเอง หลายคนอาจจะผันตัวเข้าร่วมแข่งขันในอนาคต

เตรียมตัวเข้าร่วม แทร็กเดย์ (Track Day)

ก่อนอื่นจะต้องทำการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมให้เรียบร้อยเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนกับทางค่ายรถ หรือกรณีสนามจัดเองก็ลงทะเบียนกับสนาม พร้อมกับชำระค่าบริการตามที่กำหนด

หลังจากนั้นก็มาสำรวจว่าตัวเหล่าไบค์เกอร์มีอุปกรณ์สำหรับเข้าร่วมแทร็กเดย์หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นชุดเรซซิ่งสูทขาดไม่ได้ จัดเต็มแบบครบเซ็ต ชุด, หมวก, รองเท้า, และถุงมือ เพราะหากไม่มีจะไม่สามารถลงขี่ในสนามได้  ยางสำหรับใช้วิ่งในสนามแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นยางสลิคหรือยางสายฟ้า จัดหนักจัดเต็มตามงบประมาณที่มี และอย่าลืมตรวจเช็ครถบิ๊กไบค์คันโปรดด้วยว่าพร้อมสำหรับวิ่งในสนามแข่งขันหรือไม่ ที่สำคัญอย่าลืมที่วอร์มยาง!!

เตรียมเรื่องการขนส่งรถบิ๊กไบค์ จะลากไปเอง หรือฝากไปกับค่ายรถก็ได้ (สอบถามไปยังผู้ประสานงานของแต่ละค่ายก่อน) หรือจะหาจ้างให้รถขนส่งไปให้ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายในวงการ แต่ไม่ควรขี่ไปเอง และสิ่งสุดท้ายขาดไม่ได้เลยก็คือเรื่องของโรงแรมที่พัก จองให้เรียบร้อยจะได้ไม่ต้องไปหาหน้างาน

การเดินทางไปยังสนามแข่งขัน ควรที่จะไปถึงก่อนสักหนึ่งวัน หรือในช่วงเย็นก่อนวันเริ่มกิจกรรม เพื่อที่จะได้พักผ่อนให้เพียงพอ และตื่นมาลุยในตอนเช้า

วันกิจกรรมแทร็กเดย์ (Track Day)

ก่อนเริ่มกิจกรรมช่วงเช้าประมาณ 8.00 – 8.30 น. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนจะต้องเข้าร่วมประชุมทำความเข้าใจถึงกฎ กติตา ต่างๆ ของทางสนามเสียก่อน เพื่อที่จะไม่ได้ทำผิดกฎ และถูกปรับหากฝ่าฝืน นอกจากนี้ยังมีการแบ่งกลุ่มการขับขี่อีกด้วย

โดยการแบ่งกลุ่มก็จะแบ่งออกประมาณ 3-4 กลุ่ม ซึ่งแต่ละกิจกรรมจะแบ่งไม่เหมือนกัน บางกิจกรรมแบ่งตามประเภทรถ หรือซีซีรถ บางกิจกรรมแบ่งตามความถนัดของไบค์เกอร์แต่ละคน ไบค์เกอร์คนไหนเป็นมือใหม่ก็จะมีกลุ่มสำหรับมือใหม่ คนไหนพอมีประสบการณ์มาบ้างก็จะเป็นกลุ่มกลางๆ หรือไบค์เกอร์คนไหน มีความชำนาญแล้ว ก็จะมีกลุ่มแอดวานซ์ให้ขับขี่

ซึ่งการแบ่งแบบนี้จะช่วยในเรื่องของความเร็วในสนาม หากปะปนกันมั่วจะทำให้เกิดอันตรายได้ บางทีมือใหม่ไปอยู่ในกลุ่มมือโปร ขับขี่ช้าอาจจะไปบังไลน์ได้ จึงจำเป็นต้องมีการแบ่งกลุ่มขึ้นมา

เมื่อขับขี่ลงไปในสนามแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่เคยขี่ในสนามมาก่อนควรที่จะทำความรู้จักกันเสียก่อน จะได้รู้ว่าโค้งนี้ควรเข้ายังไง ความเร็วเท่าไหร่ หลังจากนั้นก็ซิ่งได้เลยตามใจชอบ

สิ่งที่ไม่ควรทำ

สิ่งที่สำคัญไม่ควรทำในสนามแข่งขันเวลาขับขี่แทร็กเดย์เลยก็คือ การขับขี่แข่งขัน เพราะยังมีไบค์เกอร์คนอื่นอยู่ในสนามที่ไม่ได้แข่งขัน จึงอาจจะเกิดอันตรายได้ หากใช้ความเร็วต่ำ ไม่ควรที่จะอยู่ในเรซซิ่งไลน์ เพราะจะบังไบค์เกอร์คนอื่นๆ และไม่ควรยกล้อเล่นเด็ดขาด

การขับขี่แทร็กเดย์นอกจากจะเป็นการพัฒนาฝีมือตัวไบค์เกอร์เองแล้ว ยังเป็นการได้พบปะกับเหล่าไบค์เกอร์ที่ชื่นชอบความเร็วเหมือนกันอีกด้วย หากใครมาเป็นหมู่คณะก็ยิ่งสนุกไปอีก ได้ให้คำแนะนำซึ่งกันและกัน ถือว่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์อีกกิจกรรมหนึ่ง ดีกว่าไปซิ่งบนถนนหลวง

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับกิจกรรมแทร็กเดย์ หวังว่าเหล่าไบค์เกอร์ที่ไม่เคยให้ความสนใจจะลองหันมาวิ่งในสนามแข่งขันมากขึ้น เพราะนอกจากจะปลอดภัยแล้ว จะได้รู้ว่าฝีมือการขับขี่เป็นอย่างไร ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรคอยติดตามกัน

อ่านข่าว General Tips เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish