Home  »  Motorsport   »   MotoGP เคาะวันจัดแข่ง “Harley-Davidson ชิงแชมป์โลก” ปี 2026

MotoGP เคาะวันจัดแข่ง “Harley-Davidson ชิงแชมป์โลก” ปี 2026

MotoGP Harley-Davidson Bagger World Cup 2026 Race Date

หลังการประกาศเซ็นสัญญาไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ล่าสุดก็ถึงเวลาอัพเดทกำหนดวันแข่งขันของศึก Harley-Davidson Bagger World Cup ที่จะเข้ามาเป็นหนึ่งในซัพพอร์ทเรซของศึก MotoGP สักที

 

อย่างที่หลายคนคงพอจะทราบกัน ว่าหนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่น่าติดตามของการแข่งขัน MotoGP 2026 คือการที่ทาง Harley-Davidson จะจัดอีเวนท์การแข่งขันพิเศษของตนเองร่วมด้วยภายใต้ชื่อ Harley-Davidson Bagger World Cup ซึ่งล่าสุดมีการประกาศข้อมูลว่าพวกเขาจะจัดการแข่งขันทั้งหมด 6 สนาม

Harley-Davidson CVO Road Glide RR

โดยสนามแรกสุดก็แน่นอนว่าจะเริ่มต้นในประเทศบ้านเกิดของแบรนด์ นั่นคือ สนามแข่งในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 มีนาคม

 

จากนั้นจะเข้าสู่การแข่งขันในทวีปยุโรป เพื่อให้เหล่านักแข่งและตัวแข่งได้สัมผัสประสบการณ์ในสนามระดับโลก เช่นเดียวกับการที่ชาวโลกจะได้เห็นตัวแข่งสัญชาติอเมริกัน โลดแล่นในสายตาของพวกเขามากขึ้นเช่นกัน นั่นคือ สนามมูเจลโล อิตาลี ซึ่งเป็นอีกสนามความเร็วสูง และจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 29-31 พฤษภาคม

Motogp , harley devision

ถัดมาคือสนามที่ต้องการความแม่นยำในการเบรกและการเลี้ยวเป็นพิเศษ อย่างสนามเอสเซ่น ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26-28 มิถุนายน ต่อด้วยอีกสนามที่มีไลน์การวิ่งค่อนข้างซับซ้อน อย่างสนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 7-9 สิงหาคม

 

และจะโยกมาจัดการแข่งขันในสนามที่มีทางโค้งลงเนินสุดโหด แล้วจึงอ้อมเขาต่อก่อนมาเข้าทางตรงยาวเพื่อวาดโค้งความเร็วสูงสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัยอย่าง อารากอน ประเทศสเปน ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-30 สิงหาคม

 

แล้วจึงจบด้วยการแข่งขันสนามสุดท้าย ของศึก Harley-Davidson Bagger World Cup ที่สนามเรดบูลล์ ริง ประเทศออสเตรีย ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน

Motogp , harley devision

โดยตัวรถที่ใช้ทำการแข่งขัน มีทั้งหมดราวๆ 16 คัน แบ่งเป็น ทีมละ 2 คัน รวมทั้งหมด 8 ทีม และทั้งหมดจะเป็นตัวรถส่วนกลางจาก Harley-Davidson ซึ่งสร้างขึ้นจากพื้นฐานของรถรุ่น CVO Road Glide ที่ได้รับการปรับแต่งพิเศษจนมีแรงม้าราวๆ 200 ตัว พร้อมความสามารถในการทำความเร็วสูงสุดระดับ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง แม้จะมีน้ำหนักตัวที่มากถึงราวๆ 280 กิโลกรัม โดยที่หมดที่ว่ามานั้น ก็เป็นสเป็คที่ใกล้เคียงกับตัวแข่งในรายการ King of the Bagger ที่มีการจัดแข่งขันในสหรัฐอเมริกาและกำลังได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆในช่วงไม่กี่ปีมานี้นั่นเอง

Source Cr.: MotoGP

อ่านข่าว Motorsport เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว MotoGP เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Harley-Davidson เพิ่มที่นี่


 

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish



ห้ามคัดลอกบทความหรือเนื้อหาในเว็บ Motowish