นโยบายการใช้ “วิทยุสื่อสาร” ยังคงเป็นสิ่งที่คณะกรรมการการแข่งขันโมโตจีพี พยายามนำเสนอให้เหล่านักบิดได้ลองใช้กันอย่างต่อเนื่อง แม่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา นักบิดจะไม่ค่อยเห็นด้วยมากนักก็ตาม

ล่าสุด ในการทดสอบหลังจบศึกอารากอนจีพีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก็เป็นอีกครั้งที่ทางคณะกรรมการ ได้มีการจัดชุดอุปกรณ์วิทยุสื่อสาร ให้เหล่านักบิดที่สนใจ ได้ลองทดสอบการใช้งานอุปกรณ์ชิ้นนี้ดู โดยจะประกอบไปด้วย อเล็กซ์ มาร์เกวซ, แบรด บินเดอร์, โยฮันน์ ซาร์โก้ ตามด้วย ลอเรนโซ่ ซาวาดอรี

และเนื่องจาก ซาวาโดรี คือนักบิดทดสอบเพียงหนึ่งเดียว จึงทำให้ไม่แปลกนักหากเขาจะเป็นเพียงคนเดียวที่เคยถูกกรรมการจับให้ทดสอบอุปกรณ์วิทยุสื่อสารมาก่อนแล้ว และพบว่าในแต่ละครั้งที่เขาทดสอบมัน อุปกรณ์นี้ก็มักจะถูกปรับแต่งอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ แม้ว่านักแข่งส่วนใหญ่จะยังไม่ค่อยอยากใช้มันเลยก็ตาม

“ในตอนแรกที่กรรมการคุยกับผม, ผมได้ยินทุกอย่างชัดเจนดีจากในพิท” ซาวาโดรี กล่าว “แต่พอผมใช้มันตอนกำลังขี่รถ, ผมยังได้ยินนะ แต่มันฟังไม่ค่อนชัดเลยในตอนนั้น แต่ในทุกๆครั้งที่เราได้ลองใช้มัน (ตามรอบการทดสอบที่จะมีให้ใช้), เราก็พัฒนามันอยู่เรื่อยๆ”

หลักการทำงานของระบบกระจายเสียงของวิทยุนี้ จะใช้การส่งแรงสั่นสะเทือนเป็นคลื่นเสียงเข้าบริเวณกระดูกช่วงขมับด้านหน้าใบหูให้ตรงจุด ซึ่งเป็นระบบที่มีมาสักพักแล้ว ในอุปกรณ์วิทยุสื่อสารสำหรับบุคคลทั่วไป จึงทำให้มันไม่ได้สร้างปัญหาในเรื่องความอึดอัดจากการติดตั้งอุปกรณ์เข้าไปบริเวณศรีษะ เพราะอย่างน้อยก็ไม่ได้เข้าไปอุดในรูหู แต่เป็นเรื่องของการได้ยินที่มักมีปัญหาเวลาหมวกเคลื่อนแม้เพียงเล็กน้อย

“มันจะแตะเข้าไปบริเวณกระดูก, ใช่” ซาวาโดรี กล่าวถึงวิธีการทำงานของวิทยุสื่อสารที่คณะกรรมการพยายามใช้ “แต่ในปีที่แล้ว หรือปีก่อนหน้านั้น มันมีขนาดเล็กกว่านี้, ตัวแผ่นแปะ(สำหรับส่งสัญญาณคลื่นเสียง), แต่ตอนนี้มันใหญ่ขึ้นและ(ส่งสัญญาณเสียงได้)ดีขึ้น, ปัญหากลับไม่ใช่เรื่องของความไม่สบายตัวในการใช้งาน, ปัญหาคือ มันไม่ค่อยจะง่ายในการใช้งานสักเท่าไหร่, พอคุณกำลังขี่รถบนทางตรงด้วยความเร็วสูง, หมวกมันจะเคลื่อนนิดนึง มันเลยไม่ง่ายที่จะใช้ (เพราะจุดส่งสัญญาณคลื่นเสียงเคลื่อนจากตำแหน่งตามหมวก), บางครั้งคุณเลยจะไม่ได้ยืน เพราะแผ่นมันเคลื่อนไปมา ไม่ขึ้นก็ลง”

ด้าน อเล็กซ์ มาร์เกวซ ที่พึ่งเคยใช้อุปกรณ์วิทยุสื่อสารนี้เป็นครั้งแรกเอง แม้ว่าเขาจะเปิดใจลองใช้มัน แต่เจ้าตัวก็ยังไม่เห็นว่ามันจะสร้างประโยชน์ในระหว่างการแข่งขันได้เท่าไหร่นัก

“ในตอนแรกที่ผมลองใช้มัน” มาร์เกวซ ผู้น้องกล่าว “คือตอนที่ผมได้ลองใส่เล่นๆในซิลเวอร์สโตน, แต่ที่นี่ผมได้ลองของจริงในสนาม, คือ มันไม่เหมือนวิทยุทั่วๆไป, มันไม่ได้รู้สึกเหมือนกับว่ามีใครจากพิทกำลังสื่อสารกับคุณอยู่, แต่มันก็จำเป็นที่จะต้องลองใช้ (เพราะไม่รู้ว่ากรรมการจะบังคับให้ใช้ตอนไหน เลยต้องลองเพื่อทำความเคยชินไว้ก่อน)”

“มันไม่ง่ายเลยที่จะเข้าใจมัน ในแต่ละจุดที่พวกเขาอธิบาย หรือเพื่อที่จะได้ยินมันอย่างชัดเจน, แต่คุณรู้มั้ย, มันคือสิ่งแรกที่ผมขอลองในการทดสอบวันนี้, เพราะดูเหมือนว่าปีหน้า พวกเขาจะใช้มันด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย และผมก็หวังว่าจะได้ลองมัน, ผมได้ลองมันอยู่หนึ่งรันและมันก็พอจะดูดีอยู่”

“เราต้องทำความเข้าใจมัน”, “เพราะถ้าให้พูดจากใจเลย, ในตอนแรก, ผมพยายามฟังข้อความที่ส่งมา, แต่หลังจากที่ผมลองใช้มันตอนไปหวดในแทร็ค, แล้วผมกดเวลาได้ 1.46 นาที (ซึ่งเป็นเวลาต่อรอบเดียวกันกับที่เจ้าตัวทำได้ในการแข่งจริงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา), ผมไม่ได้ยินอะไรเลย, เพราะตอนนั้นผมกำลังตั้งใจกดเวลาอยู่”

“คือมันก็จริงอยู่ว่ามันก็เหมือนวิทยุสื่อสาร, ถ้าพวกเขาส่งข้อความมาแค่สั้นๆ คุณอาจจะพอได้ยิน, แต่ถ้าพวกเขาส่งมันมาตลอด (พยายามสื่อสารกับนักบิดแทบจะตลอดเวลาๆ คล้ายกับการแข่งฟอร์มูล่าวัน), คุณจะไม่ได้ยินอะไรเลย”

Source Cr.: Motorsport.com

อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว MotoGP เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish