ส่องข้อมูลสถิติการ “ล้ม” ครึ่งแรก โมโตจีพี 2025

Posted on 30/07/2025

statistics on "crashes" in the first half of MotoGP 2025

นอกจากสถิติเวลาต่อรอบสนาม สถิติความเร็ว สถิติการคว้าชัยชนะ เรื่องสถิติการพลาดล้ม ก็เป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่หลายคนให้ความสนใจไม่แพ้กัน

โดยในช่วงครึ่งแรกของการแข่งขันโมโตจีพี 2025 มีนักบิดพลาดล้มรวมกันไปแล้วกว่า 185 ครั้ง โดยสิ่งที่น่าสนใจแต่ไม่น่าประหลาดใจเท่าไหร่นัก ก็คืออดีต “แชมป์ล้ม” หลายสมัย อย่าง มาร์ค มาร์เกวซ จนได้ฉายาว่า “เด็กระเบิด(กรวด)” ในการแข่งขันปีนี้ตลอด 12 เรซ ที่ผ่านมา เจ้าตัวมีจำนวนครั้งการล้มสะสมไป 8 รอบ และอยู่ในอันดับที่ 11 ของนักบิดทั้งหมดเท่านั้น

โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ มาร์เกวซ ผู้พี่ มีอัตราการล้มที่น้อยลงกว่าปีก่อนๆอย่างเห็นได้ชัด จากที่เคยอยู่ในตำแหน่งผู้นำมาโดยตลอด ก็แน่นอนว่าเป็นเพราะคราวนี้เขาได้มาขี่รถ Ducati Desmosedici GP25 ที่มีสมรรถนะเหนือชั้นกว่ารถของคู่แข่งคนอื่นๆในสนามอย่างชัดเจน

ทำให้เจ้าตัวไม่จำเป็นต้องเค้นรถมากนักเพื่อการเป็นผู้นำอย่างเช่นที่เคยทำในอดีต เมื่อบวกกับความสุขุมในการขี่ และการวางแผน การจัดการเงื่อนไขต่างๆในระหว่างการแข่งขันที่เชี่ยวชาญมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้เขายิ่งพลาดล้มได้ยากขึ้นไปอีก แม้จะมี 2 จาก 8 ครั้ง ที่เป็นการพลาดล้มเพราะความประมาทและมั่นใจในสนามถนัดของตนเอง จนต้องพลาดการเก็บ 25 คะแนนเต็มต่อครั้งไปแบบน่าเสียดายก็ตาม

ส่วนผู้นำการล้ม ในช่วงครึ่งแรกของศึกโมโตจีพี 2025 ก็คือสองนักบิดจากฮอนด้า นั่นคือ โยฮันน์ ซาร์โก้ และ โจอัน เมียร์ ซึ่งพากันล้มไปคนละ 15 ครั้ง

ความน่าประหลาดใจของการล้มระหว่างสองนักบิดนี้ก็คือ ในส่วนของ โยฮันน์ ซาร์โก้ แม้มันจะเป็นจำนวนครั้งการล้มที่มากขึ้นจนเทียบเท่ากับสถิติการล้มทั้งฤดูกาลของปีที่แล้ว แต่นักวิเคราะห์กลับมองว่าที่ปีนี้นักบิดประสบการณ์สู.สัญชาติฝรั่งเศสพลาดล้มมากขึ้น

ก็เป็นเพราะรถ Honda RC213V ของเขา เริ่มมีประสิทธิภาพในการแข่งขันมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากฟอร์มการขี่ และการเข้าเส้นชัยที่เริ่มโดดเด่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดจนสามารถคว้าชัยชนะท่ามกลางการแข่งขันสุดโกลาหล เฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ ไปได้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งในทางกลับกัน ด้วยตัวแข่งที่เริ่มขี่เข้ามือมากขึ้น ซาร์โก้ ก็จะต้องขี่แบบยอมแลก ยอมเสี่ยงมากขึ้น เพื่อลุ้นคว้าอันดับในการแข่งขันที่ดีกว่าเดิม ไม่จำเป็นต้องพะว้าพะวงเหมือนในอดีต

ขณะเดียวกันทางฝั่ง โจอัน เมียร์ จากอดีตนักบิดที่ได้ชื่อว่าขี่เหนียวที่สุด จนสามารถคว้าแชมป์โลกไปได้เมื่อปี 2020 มาปีนี้เจ้าตัวกลับพลาดล้มจนไม่สามารถจบการแข่งขันไปถึง 8 จาก 12 เรซ ส่วนอีก 6 ครั้ง คือการพลาดล้มในรอบซ้อม ไม่ก็ควอลิฟาย และส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่การพลาดล้มด้วยตนเอง แต่เป็นการพลาดล้มแบบ “ดวงซวย” ที่เจ้าตัวมักโดนนักบิดสักคนมาเกี่ยวจนล้ม พุ่งชนกลางลำจนล้ม หรือพับหน้าใส่จนตนเองล้มตาม อย่างใดอย่างหนึ่งเสมอๆ

ในขณะเดียวกัน นักบิดแชมป์โลก 2 สมัย (โมโตทรี 1 สมัย และ โมโตจีพี 1 สมัย) ก็มองว่าเขาไม่ได้เชื่อเรื่องโชค หรือดวง แต่มองว่าเป็นเพราะรถของเจ้าตัวยังช้าเกินไป ตั้งตอนเบรก และตอนเร่งต่างหาก จึงทำให้เขาต้องถูกนักบิดหลายคนทิ่มเข้ามากลางลำจนพลาดล้มซ้ำๆอยู่นั้นเสมอๆ ซึ่งนั่นก็คือการาส่งสารน์ถึงต้นสังกัดให้เร่งพัฒนาตัวแข่งให้มีประสิทธิภาพมากพอจะสู้กับเหล่าตัวแข่งจากผู้ผลิตยุโรปให้ได้สักทีนั่นเอง

ด้าน ก้อง สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยหนึ่งเดียว ในการแข่งขันโมโตจีพี ก็พลาดล้มไปเพียง 5 ครั้งเท่านั้น จากการแข่งขันทั้งหมด 9 สนาม (ไม่ได้ลงแข่ง 3 สนาม เพราะอาการบาดเจ็บ) ซึ่งนับว่าดีมากแล้ว สำหรับการแข่งขันในช่วงครึ่งแรกที่เจ้าตัวยังต้องเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากการแข่งในรุ่นใหญ่

และเป็นไปได้ว่าอาจจะเพราะทีมแข่งต้องการให้เจ้าตัวได้ทำความรู้จักกับตัวแข่งทั้งในด้านทางเทคนิคและด้านสภาพร่างกายก่อน จึงไม่จำเป็นต้องผลีผลามในการขี่มากนัก แม้ว่ามันอาจจะแลกกับการที่ต้องอยู่ท้ายแถวบ่อยครั้งไปสักหน่อยก็ตาม และหวังว่า ก้อง จะสามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้มากขึ้นเรื่อยๆหลังจากนี้ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล