5 อันดับสนามแข่งโมโตจีพี ที่มีทางตรง “สั้นที่สุด” ในปี 2025

จากเรื่องราวของสนามแข่งขัน “ลพบุรี เซอร์กิต” ว่าที่สนามแข่งขันแห่งใหม่ของประเทศไทย ซึ่งมีระยะความยาวทางตรงเพียง 350 เมตรเท่านั้น ทำให้หลายคนอาจมองว่ามันสั้นเกินไป สำหรับตัวแข่งระดับ 1,000cc แม้ว่าในการแข่งขันระดับโลกโมโตจีพีเอง ก็มีสนามที่ความยาวทางตรงเพียงไม่ถึง 500 เมตร อยู่ด้วย
ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงขอพาทุกท่านมาดูกันสักหน่อยดีกว่า ว่าในการแข่งขันโมโตจีพี ปี 2025 นี้ สนามแข่งขัน 5 อันดับแรก ที่มีระยะความยาวทางตรง “สั้นที่สุด” จะประกอบด้วยสนามแข่งขันใดบ้าง?

อันดับ 5 : Le Mans (เลอมังส์, ฝรั่งเศส) ความยาวทางตรง 674 เมตร
สนามแข่งขันเก่าแก่ที่เป็นที่รู้จักอย่างดี ทั้งในการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ โดยไม่จำกัดทั้งการแข่งแบบเซอร์กิตธรรมดาๆ หรือการแข่งแบบบิดอึด เหยียบอึดข้ามวัน โดยสนามแห่งนี้มักถูกจัดขึ้นในช่วงเวลาที่มีสภาพอากาศแปรปรวน ยากจะคาดเดา แถมยังมีไลน์การวิ่งที่ซับซ้อนตั้งแต่เซ็กเตอร์แรก ไปจนถึงเซกเตอร์สุดท้าย ตลอดความยาวรอบสนาม 4.54 กิโลเมตร ที่มีโค้งขวา 9 โค้ง และโค้งซ้ายอีก 5 โค้ง ทำให้เรามักเห็นการพลิกผันผลการแข่งขันไปมาอยู่บ่อยครั้ง

อันดับ 4 : Automotodrom Brno (เบอร์โน่, สาธารณรัฐเช็ค) ความยาวทางตรง 636 เมตร
อีกหนึ่งสนามแข่งขันสุดดราม่าในอดีตที่ได้ฤกษ์กลับมาเป็นเจ้าภาพการแข่งขันโมโตจีพีอีกครั้งในปีนี้หลังห่างหายไปนานกว่า 4 ปี โดยสนามแห่งนี้มีจุดเด่นจาก ความซับซ้อนของไลน์ลับตาไปมาตลอดระยะทาง 5.4 กิโลเมตร กับทางโค้งขวา 8 โค้ง และโค้งซ้าย โค้ง โดยที่ครึ่งแรกของสนาม จะเป็นการบิดไต่ระดับลงเนินมาเรื่อยๆ จนนักบิดท้ายแถวสามารถเห็นนักบิดหัวแถวในอีกโค้งข้างหน้าได้อย่างชัดเจน และเช่นเดียวกันว่าในฝั่งครึ่งหลังก็จะเป็นการค่อยๆขี่ขึ้นเนินมาแบบโค้งต่อโค้ง ทำให้รถอาจเหี่ยวมากเกินไปตอนเบรกหนักๆเพื่อเข้าโค้ง ซึ่งทำให้นักบิดต้องปรับตัวกับวิธีการขี่พอสมควร

อันดับ 3 : Circuito de Jerez – Ángel Nieto (เฆเรซ, สเปน) ความยาวทางตรง 607 เมตร
หนึ่งในสนามแข่งขันที่มีความสวยงาม ความยาว 4.42 กิโลเมตร และนักบิดมักพลาดให้เห็นบ่อยครั้งในช่วงเซคเตอร์แรก จากการมีโค้งไฮสปีดซ้ายต่อเนื่อง จากทั้งหมด 5 โค้ง และมีโค้งขวาทั้งแบบหักศอกความเร็วต่ำ และวาดไลน์กว้างความเร็วสูงรวมเป็น 8 โค้ง และยังมีทางตรงระยะสั้นๆแต่ต้องเบรกหนักจากความเร็ว 310+ กิโลเมตรต่อชั่วโมงให้อยู่ก่อนเข้าโค้งหักศอก โดยที่จากนั้นยังมีจุดเสี่ยงถูกแซงอีกมากมาย ไม่เว้นแม้กระทั่งโค้งสุดท้าย ที่เกิดเหตุเบียดบังให้เห็นกันหลายครา เช่นกรณี วาเลนติโน่ รอสซี กับ เซเต้ จิเบอร์นาว หรือ มาร์ค มาร์เกวซ กับ ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ที่ยังคงมีคลิปเหตุการณ์ให้ได้ชมกันจนถึงทุกวันนี้ เพราะมันก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างนักบิดด้วยกันเองนานนับปีกันเลยทีเดียว

อันดับ 2 : Misano World Circuit Marco Simoncelli (มิซาโน่, ซานมาริโน่) ความยาวทางตรง 530 เมตร
อดีตสนามหากินของค่ายยามาฮ่า เนื่องจากเป็นสนามที่เต็มไปด้วยโค้งต่อเนื่องมากมาย ตลอดระยะทาง 4.23 กิโลเมตร กับโค้งขวา 10 โค้ง และโค้งซ้าย 6 โค้ง ไม่ว่าจะโค้งต่อเนื่อง โค้งหักศอก โค้ง ก.ไก่ และมีทั้งที่ต้องใช้ความเร็วต่ำ ความเร็วปานกลาง และความเร็วสูงที่นักบิดอาจต้องเลือกว่าจะยัดคันเร่งเข้าโค้งทั้งอย่างนั้นไปเลย หรือจะยอมเชนจ์เกียร์หรือกรอคันเร่งสักนิดเพื่อไม่ให้ตนเองหลุดไลน์
แต่ในปัจจุบันด้วยการอัพเกรดขีดความสามารถในการเข้าโค้งของตัวแข่งค่ายอื่นที่ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะดูคาติ ทำให้สนามแห่งนี้ กลายเป็นสนามหากินของตัวแข่งเลือดอิตาลีเจ้าถิ่นแทน หรือจะบอกว่าจริงๆแล้วตัวแข่งดูคาติ สามารถกินคู่แข่งได้แทบทุกสนามมาแต่ไหนแต่ไร ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกนักในตอนนี้

อันดับ 1 : TT Circuit Assen (เอสเซน, เนเธอร์แลนด์) ความยาวทางตรง 487 เมตร
สนามแข่งขันระดับตำนาน ที่เป็นเจ้าภาพการแข่งขันศึกมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกมาตั้งแต่ปี 1955 และเคยเว้นวางไปแค่เพียงในปี 2020 เพราะเหตุการณ์เชื้อไวรัส Covid-19 ระบาดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยตัวสนามมีความยาว 4.54 กิโลเมตร และมีโค้งขวา 12 โค้ง กับโค้งซ้าย 6 โค้ง โดยจะมีความยากจากโค้งต่อเนื่องตั้งแต่โค้ง 2 3 และ 4 แล้วจึงเจอโค้งแคบที่โค้ง 5 แล้วยังต่อด้วยทางตรงก่อนเข้าโค้ง 6 ที่หากวางไลน์ไม่ดี อาจทำให้เสียจังหวะที่โค้ง 7 แล้วเกิดอาการงูกินหางต่อเนื่องในโค้ง 8 ได้อีก
โดยเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ยังมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ ในการเข้าโค้งต่อเนื่อง 13 14 และ 15 ด้วย ขณะที่โค้ง 16 17 และ 18 ก็เป็นอีกจุดที่มักเกิดดราม่าในการแข่งขันเสมอ จากความเป็นโค้งชิเคนที่หากนักบิดเลี้ยวเข้าโค้ง 16 ไม่ได้ ก็อาจจะเผลอตัดโค้ง 17 ไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งบางครั้งคุณอาจโชคดี กรรมการอนุโลมให้คุณเข้าเส้นชัยเหนือคู่แข่งที่แย่งอันดับกันอยู่ได้ แต่ถ้าโชคร้ายก็จะถูกตัดแต้ม บวกเวลาแทน เพราะดูมีเจตนาตั้งใจลักไก่จากจังหวะชุลมุนมากเกินไป
จะเห็นได้ว่าแม้สนามแข่งขัน อาจจะไม่ได้มีทางตรงที่ยาวมากนัก แต่ในการแข่งขันรูปแบบเซอร์กิต ทางตรง ก็ไม่ใช่สิ่งที่คอยตัดสินว่าสนามแห่งนี้จะสามารถมอบความตื่นเต้นในการแข่งขัน ให้กับทั้งนักบิด และผู้ชม เพราะมันยังมีเรื่องของการวางเลย์เอาท์สนามในส่วนของทางโค้ง และอื่นๆอีกเพียบ อย่างเช่นทั้ง 5 สนาม ที่เราไล่เรียงมานี้
Source Cr.: MotoGP
อ่านข่าว Motorsport เพิ่มที่นี่
อ่านข่าว MotoGP เพิ่มที่นี่
เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่
Website : motowish.com
Facebook : facebook.com/motowish