เป็นที่ทราบกันดีว่า นอกจากรถที่ต้องเข้ามือ รูปแบบสนามเองก็เป็นอีกสิ่งที่นักบิดหลายคนมักมีความถนัดแตกต่างกันไป โดยหากเป็นสนามที่แข่งกันมานานหลายปี พวกเขาก็คงสามารถหาวิธีปรับแก้การขี่จากข้อมูลที่เคยมีได้เรื่อยๆ แล้วถ้าเป็นสนามแข่งใหม่ล่ะ จะต้องเฟ้นหาวิธีขี่กันยังไง ?

แน่นอน โดยปกติแล้ว หากเป็นการแข่งขันโมโตจีพี ทางผู้จัดก็มักที่จะเปิดให้สนามใหม่ของปฏิทิน กลายเป็นสนามซ้อม หรือทดสอบช่วงก่อนเปิดฤดูกาล เพื่อให้นักบิดและทีมแข่งได้ทำการเก็บทั้งข้อมูลรถใหม่ และสนามใหม่ในคราวเดียว ก่อนที่จะมีการจัดแข่งจริงระหว่างฤดูกาล และนักบิดส่วนใหญ่ก็จะได้รู้ตัวตั้งแต่ตอนนั้นว่าสนามแห่งใหม่ที่ตนเองจะต้องประเดิมลุยศึกในปีนี้มีความเข้าทางกับวิธีการขี่ของตนเองหรือไม่ และจะต้องแก้ไขอย่างไรเมื่อถึงเวลาแข่งจริง

ที่ต่างออกไปหน่อยในปีนี้ คือตัว สนามบาลาทอน พาร์ค ประเทศฮังการี ที่จะเป็นเจ้าภาพศึกการแข่งขัน ฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์ เป็นครั้งแรก กลับเป็นสนามที่ทางผู้ดูแลการแข่งขัน ไม่ได้จัดให้มันเป็นสนามทดสอบช่วงก่อนเปิดฤดูกาล เนื่องจากสภาพสนามยังไม่พร้อมใช้ในช่วงต้นปี พึ่งจะมาเสร็จสมบูรณ์เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ โดยมีเหล่านักบิดเวทีเพื่อนบ้านอย่าง เวิลด์ ซุปเปอร์ไบค์ พึ่งจะเจิมทำการแข่งขันไปก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น

นั่นจึงทำให้นักบิด และทีมแข่งที่อยู่ในเวทีโมโตจีพี เกือบทั้งหมด จะไม่มีทั้งข้อมูล และประสบการณ์ในการหวดตัวแข่งในสนามแห่งนี้มาก่อนเลย และต้องรอเก็บข้อมูลต่างๆเมื่อถึงสัปดาห์การแข่งขันจริงๆแล้วเท่านั้น ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องที่ท้าทายนักบิด และน่าสนใจเป็นอย่างมาก ว่านักบิดคนไหน ? จะสามารถปรับตัวเข้ากับสนามนี้และงัดประสิทธิภาพของตนเองและตัวแข่งออกมาได้รวดเร็วที่สุดกัน

โดยหากมองไปที่รายชื่อนักบิดบนกริดการแข่งขันรุ่นใหญ่ ณ ปัจจุบัน หนึ่งในนักบิดที่มีชื่อว่าเป็น “เจ้าแห่งสนามใหม่” ก็คือ มิเกล โอลิเวียร่า ซึ่งเคยคว้าแชมป์ในศึกอินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ ครั้งแรก ณ สนามล็อมบ็อค ประเทศอินโดนีเซีย ด้วยตัวแข่ง KTM RC16 มาแล้ว เมื่อปี 2022 และก่อนหน้านั้น ยังเคยคว้าชัยชนะในการแข่งขันปอร์ตุกีส กรังด์ปรีซ์ ครั้งแรกที่จัดขึ้น ณ สนามอัลการ์ฟ ประเทศโปรตุเกส ได้อีก ในปี 2020

แต่ด้วยความที่สนามอัลการ์ฟ คือสนามแข่งในประเทศบ้านเกิดของ โอลิเวียร่า จึงไม่แน่ว่าเจ้าตัวอาจเคยมาขี่รถที่ไม่ใช่ตัวแข่งฝึกซ้อมที่นี่จนทะลุปรุโปร่งมากกว่าใครแล้วก็เป็นได้ จึงทำให้เขาสามารถปรับเทคนิคของตนเองเข้ากับตัวแข่งโมโตจีพีในสนามแข่งแห่งใหม่ของปฏิทินเมื่อ 5 ปีก่อนได้ไม่ยาก

ส่วนนักบิดอีกคนที่เคยคว้าชัยชนะในสนามแข่งแห่งใหม่ของปฏิทิน และยังทำการแข่งขันอยู่ในปัจจุบัน ก็คือ  มาร์โก้ เบซเซคคี ที่คว้าชัยชนะในการแข่งขันอินเดียน กรังด์ปรีซ์ ณ สนาม บุดห์ ประเทศอินเดียไปได้เมื่อปี 2023 แต่ด้วยชัยชนะในสนามใหม่เพียงครั้งเดียว จึงทำให้มีความเป็นไปได้ที่ทักษะในการปรับตัวเข้ากับสนามแข่งใหม่ของเขา ยังคงเป็นรองโอลิเวียร่าอยู่ดี

ถึงกระนั้น กลับยังมีนักบิดในกริดปัจจุบันอีกคน ที่ดูเหมือนจะมีทักษะในการปรับตัวเข้ากับสนามใหม่ได้ดีกว่าทุกคน ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็น มาร์ค มาร์เกวซ ที่กำลังฟอร์มกลับมาเข้าที่เข้าทางสุดๆในปีนี้ โดยตลอดการแข่งขันในรุ่นใหญ่มากว่า 13 ปี เขาสามารถคว้าชัยชนะในสนามใหม่ของปฏิทินไปได้ทั้งหมด 3 ครั้ง

ได้แก่ การคว้าชัยชนะในศึก อเมริกัน กรังด์ปรีซ์ เมื่อปี 2013 ที่ย้ายไปแข่งในสนามโคต้า ออสติน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2013, ต่อด้วยการคว้าชัยชนะในศึกอาร์เจนติน่า กรังด์ปรีซ์ ณ สนาม เทอร์มาส ริโอ ฮอนโด ประเทศอาร์เจนติน่า เมื่อปี 2014, และครั้งล่าสุดคือ การคว้าชัยชนะในศึก ไทย กรังด์ปรีซ์ ณ สนามช้างฯ เซอร์กิต จังหวะบุรีรัมย์ ประเทศไทยของเรา เมื่อปี 2018 นั่นเอง

ที่น่าสนใจคือ นอกจากข้อมูลสถิติที่บ่งบอกว่า มาร์ค มาร์เกวซ มีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสนามแข่งแห่งใหม่ของปฏิทินได้ดีที่สุดแล้ว อันที่จริง สำหรับสนามบาลาทอนพาร์ค ที่จะประเดิมเป็นเจ้าภาพการแข่งขันโมโตจีพีครั้งแรกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ก็ใช่ว่าเขาจะไร้ประสบการณ์ในการหวด ณ สนามแห่งนี้เลย

เพราะย้อนไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ทาง Ducati พึ่งจะมีการพาเหล่านักบิดในสังกัดของตนเอง มาหวดรถ Panigale V4 S “Pro” รุ่นล่าสุด ณ สนามแข่งขันแห่งนี้ด้วย และมันก็น่าจะเป็นประสบการณ์อันมีค่ามากเลยทีเดียวสำหรับนักบิดโมโตจีพีในสังกัด ทั้ง ฟรานเชสโก้ บันญาย่า, เฟอร์มิน อัลเดแกร, อเล็กซ์ มาร์เกวซ, ฟรังโก้ มอร์บิเดลลี, และ ฟาบิโอ ดิ จิอันนันโตนิโอ ที่ได้เข้าร่วมการทดสอบครั้งนี้

โดยเฉพาะกับ มาร์ค มาร์เกวซ ที่กำลังฟอร์มร้อนแรงสุดขีดในเวลานี้ เมื่อบวกกับความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสนามแข่งแห่งใหม่อันโดดเด่นกว่าใคร ทำให้เขากลายเป็นตัวเต็งมากที่สุดสำหรับการแข่งขันบาลาทอน พาร์ค ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22-24 สิงหาคม นี้

Source Cr.: MotoGP

อ่านข่าว Motorsport เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว MotoGP เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish