นอกจากการคว้าชัยชนะแบบหายยาวๆของ มาร์ค มาร์เกวซ ในการแข่งขัน เจอร์แมน กรังด์ปรีซ์ 2025 ยังมีอีกสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือการที่มีเหล่านักบิดพากันล้มถึง 8 จาก 10 ราย จนกลายเป็นสถิติใหม่ที่ไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่นักของการแข่งขันโมโตจีพี

ในศึก เจอร์แมน กรังด์ปรีซ์ 2025 นับเป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่การแข่งขันในวันอาทิตย์ยังไม่ทันเริ่ม ก็มีนักบิดตัวหลักถึง 4 ราย ที่ไม่ได้เข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็น มาเวอร์ริค วินยาเลส กับ ฟรังโก้ มอร์บิเดลลี ที่มีอาการบาดเจ็บในวันศุกร์ จนไม่สามารถลงฝึกซ้อมและลงแข่งในวันเสาร์กับอาทิตย์ได้

ตามด้วย สมเกียรติ จันทรา ที่อยู่ในช่วงฟื้นตัวหลังการผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในการฝึกซ้อมในช่วงสัปดาห์ก่อน และท้ายสุดคือ ฮอร์เก้ มาร์ติน ที่ยังคงอยู่ในช่วงพักฟื้นใหญ่เช่นกัน จนกว่าจะถึงรอบการแข่งขัน ณ สนามเบอร์โน่ สาธารณรัฐเช็ค ในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลับมีนักบิดถึง 8 คน ไม่จบการแข่งขันเพราะพากันพลาดล้มอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนเกือบจบการแข่งขัน ทั้ง โจอัน เมียร์, ไอ โอกุระ, มาร์โค เบซเซคคี, ลอเลนโซ่ ซาวาโดรี, ฟาบิโอ ดิ จิอันนันโตนิโอ, โยฮันน์ ซาร์โก้, เปโดร อาคอสต้า, และ มิเกล โอลิเวียร่า ด้วยสภาพอากาศที่แปรผรวนและรูปแบบสนามที่ค่อนข้างเฉพาะตัว

“มันค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก, เราไม่เคยเห็นการแข่งขันแบบนี้มานานมากแล้ว” ไมเคิล ลาเวอร์ตี้ อดีตนักแข่งเวิลด์กรังด์ปรีซ์มากประสบการณ์ ที่ตอนนี้รับหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์การแข่งขันของสื่อ TNT Sport กล่าว

“บันยาญ่าเคยบอกไว้ว่าโค้งหนึ่งของสนามนี้มันยากขนาดไหน และมันก็ทำให้มีนักบิดต้องพลาดล้มถึง 3 ราย ภายในรอบเดียว”

“โดยเหตุผลที่ทำให้พวกเขาล้มกัน ก็เป็นเพราะอุณหภูมิยางยังไม่ได้ที่ และทำให้ล้อหน้านั้นล็อคง่ายมาก และด้วยฝนที่ตกเมื่อวันก่อน ทำให้ความเสียดทานของผิวแทร็คยิ่งน้อยลงไปอีก”

“มันแปลกจริงๆที่มีนักบิดเพียง 10 คนเท่านั้น ที่จบการแข่งขันในโมโตจีพี”

โดยในกรณีของ ฟาบิโอ ดิ จิอันนันโตนิโอ กับ มาร์โค เบซเซคคี ซึ่งเป็น 2 นักบิด ที่มีฟอร์มการแข่งที่ดี จนสามารถที่จะตามหลัง มาร์ค มาร์เกวซ ได้ในระหว่างการแข่งขัน แต่สุดท้ายก็พลาดล้มไปในโค้ง 1 เหมือนกันทั้งคู่ ก็มีสาเหตุที่ทำให้พลาดล้มที่เกิดจากความยากของโค้ง 1 เช่นเดียวกับนักบิดคนอื่นๆที่ล้มในการแข่งขันเดียวกัน เว้นเพียงเปโดร อาคอสต้า และ มิเกล โอลิเวร่า ที่ไปพลาดล้มในโค้งอื่น

“ทั้งดิกเจีย และเบซเซคคี ต่างก็ดูแข็งแกร่งก่อนที่จะพลาดล้มไป” ลาเวอร์ตี้ กล่าว “จุดแข็งของมาร์เกวซ เขาสามารถคุมเบรกได้ดี และคุมการไถลของล้อหน้าได้”

“ซึ่งดิกเจีย และเบซเซคคี อาจจะต้องขี่เกินขีดจำกัดที่ตนเองทำได้เพื่อให้ทันมาร์ค แต่(พอคุณไม่ได้มีความแข็งแกร่งในด้านการเบรกที่สนามแห่งนี้ระดับเดียวกับมาร์ค) คุณก็เกิดล้อล็อคขึ้นมา และไม่สามารถจะแก้ไขอะไรได้”

“มันเหมือนเป็นคำสาป, ทุกครั้งที่มีใครสักคนอยากจะท้าทาย (ทั้งจุดเบรกบนเนินของโค้ง 1 และความสามารถของมาร์ค) สุดท้ายก็ต้องจบลงด้วยการแถออกไปนอกสนามอยู่ดี”

แล้วการที่จู่ๆจะมีนักบิดพลาดล้มถึง 8 ราย ในสนามเดียว คือการบ่งบอกว่าสนามซัชเคนริง นี้อันตรายเกินไปสำหรับตัวแข่งโมโตจีพีหรือไม่ ?

ลาเวอร์ตี้ ก็ระบุว่าตัวแปรความยากของสนามนี้ ไม่ได้มีแค่รูปแบบสนาม แต่ยังเป็นเพราะความแปรปรวนของสภาพอากาศ ที่ส่งเสริมกันอีก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าสนามจะอันตรายเกินไป เพราะตัวแข่งโมโตจีพีเอง ก็สามารถปรับแต่งให้เหมาะสำหรับการแข่งขันที่นี่ได้ สุดท้ายจึงเป็นเพราะความผิดพลาดของตัวนักแข่งเองมากกว่าอยู่ดี

“พอคุณมีสัปดาห์การแข่งขันแบบนี้, ที่สภาพอากาศแปรปรวนขึ้นๆลงๆ, ผิวแทร็คก็ลื่น และนักบิดก็พากันล้มไม่จบการแข่งขัน” ลาเวอร์ตี้กล่าว “บางครั้งคุณก็ไปเจอพื้นที่เป็นตะไคร่, แต่ยางก็ยังทำงานได้ดี และทุกอย่างก็เซ็ทมาถูกต้องแล้ว”

“เราได้ยินข้อมูลจากวิศวกรมาว่าตัวสนามยังร้อนไม่พอสำหรับยางหน้าแบบฮาร์ด และยางหลังแบบมีเดียม, แต่พวกเขาก็รู้ได้เองอยู่ดีว่ามันคือยางที่เหมาะสำหรับการหวดเป็น 30 รอบ ที่นี่ เพราะยางด้านซ้ายของมันมีเนื้อแข็งกว่าปกติ (ซึ่งเหมาะสำหรับการขี่ในสนามวนซ้ายแห่งนี้มากที่สุด)”

“มันคือหนึ่งในสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น, มันทำให้นักบิดระดับโลกหลายคนต้องออกจากการแข่งขัน”, “มันคือสนามที่มีรูปแบบเฉพาะตัว, มันแตกต่าง, รถพวกนี้มีแรงม้ามากกว่า 300 ตัว และทางตรงก็สั้นเกินไปสำหรับพวกมัน”

“แต่พวกเขาก็สามารถปรับจูนเครื่องยนต์ใหม่ได้, เพื่อให้มันมีแรงม้าที่เหมาะสมกับที่นี่”

“(ดังนั้น) มันจึงขึ้นอยู่กับวิธีจัดการของนักบิด”, “ผมคิดว่ามันเป็นเพราะสถานการณ์โดยรวมที่เกิดขึ้น, เป็นเพราะฝนในชั่วข้ามคืนมากกว่าตัวแข่งที่พัฒนามาแรงเกินไป (ที่จะใช้แข่งขันในสนามแห่งนี้)”

“พวกเขายังสามารถแข่งขันที่นี่ได้, และมันสามารถสร้างการแข่งขันอันยอดเยี่ยมได้”

Source Cr.: Crash.net

อ่านข่าว Motorsport เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว MotoGP เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish