ผ่านไปเกือบครึ่งปีนับตั้งแต่การปรับโฉมใหม่ของ Yamaha MT-07 ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ร่างทัวร์ริ่งของมันอย่าง Yamaha Tracer 7 จะได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่บ้าง สำหรับทำตลาดต่อในปี 2025 นี้

2025 Yamaha Tracer 7 ได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่ตั้งแต่งานดีไซน์ภายนอกที่ดูมีความซับซ้อนในด้านเส้นสายมากขึ้น ทั้งในส่วนของแถบไฟ DRL ที่ดูใหญ่โตกว่าเดิม กรอบไฟหน้าด้านล่างที่ดูลงตัวขึ้น และคราวนี้ชิ้นแฟริ่งช่วงหน้าผากของรถ จะถูกวาดแนวให้เป็นเส้นเดียวกันกับชิ้นแฟริ่งช่วงคอรถ โดยที่แฟริ่งข้างเองก็มีการปรับรูปทรงให้ดุดันขึ้นด้วยช่องรีดอากาศขนาดใหญ่ทางด้านหน้า พร้อมถังน้ำมันขนาด 18 ลิตร ดีไซน์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ขี่สามารถใช้เข่าหนีบถังได้กระชับยิ่งขึ้น

นอกนั้นตัวรถยังจะได้รับการติดตั้งแฮนด์บาร์ใหม่ที่มีความสูงขึ้นกว่าเดิมอีก 30 มิลลิเมตร และกว้างขึ้นอีก ฝั่งละ 25 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มความผ่อนคลายในขณะใช้งานเดินทางไกล ตัวเบาะนั่งมีการปรับใหม่เป็นแบบ 2 ตอน เบาะหลังเพิ่มความหนานุ่ม เพื่อความสะดวกสบายของผู้ซ้อน และเบาะสำหรับผู้ขี่ที่มีความสูงดั้งเดิม 830 มิลลิเมตร ยังสามารถปรับระดับความสูงเพิ่มได้อีก 20 มิลลิเมตรเพื่อให้รับกับสรีระผู้ขี่สูงโปร่ง

ท้ายสุดคือชิลด์บังลมด้านหน้า ที่จะถูกติดตั้งบนขาเหล็กฟอร์จอย่างดี เพื่อเพิ่มความมั่นคง และตัววินชิลด์ยังถูกออกแบบมาให้ลดการสั่นสะเทือนได้ดี รวมถึงยังมีการดีไซน์ขอบบนให้สามารถทำกำแพงลม ลดกระแสลมปะทะศรีษะผู้ขี่ได้ดีขึ้นอีก

ไฮไลท์สำคัญของตัวรถ ยังไม่ได้มีแค่หน้าตา แต่ชุดเฟรม หรือโครงสร้างแบบโครงเหล็ก Diamond Steel Tube Backbone ของมันยังถูกปรับใหม่ ให้มีทั้งความแข็งแกร่งที่มากขึ้น มั่นคงมากขึ้น ทนแรงบิดและแรงสั่นสะเทือนได้ดียิ่งขึ้น และตัวสวิงอาร์มหลังเอง ก็ยังมีการยืดความยาวให้มากขึ้นอีก 40 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มความั่นคงของตัวรถในขณะใช้งานด้วยความเร็วสูง

ตัวระบบกันสะเทือนหน้า ก็ได้มีการเปลี่ยนไปใช้โช้คตะเกียบคู่หัวกลับ ขนาดแกน 41 มิลลิเมตร ช่วงยุบ 130 มิลลิเมตร โดยลูกค้ายังสามารถปรับเซ็ทค่าความหนืดในการคืนตัวของโช้คได้อีก 18 ระดับ และโช้คหลังแบบต้นเดี่ยว ช่วงยุบ 139 มิลลิเมตร ก็สามารถปรับได้ทั้งค่าความแข็ง-อ่อน กับความหนืดในการคืนตัวได้เช่นกัน

ระบบเบรกที่ให้มา ด้านหน้ายังมีการเปลี่ยนไปใช้คาลิปเปอร์เบรกแบบเรเดียลเมาท์ 4 พอท เพื่อประสิทธิภาพในการเบรกที่ดียิ่งขึ้น และช่วยเพิ่มดีกรีความหล่อเหลาได้มากกว่าเดิม โดยที่ยังคงทำงานร่วมกับจานเบรกคู่ขนาด 298 มิลลิเมตร ดังเดิม ส่วนด้านหลังก็ยังใช้ระบบเบรกแบบจานเบรกเดี่ยวขนาด 245 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับโฟลทติ้งเมาท์คาลิปเปอร์ เหมือนเดิม รวมถึงชุดล้อก็ยังคงรัดด้วยยางขนาด 120/70-17 กับ 180/55-17 เช่นเดิม

ในส่วนเครื่องยนต์ยังคงเป็นแบบ 2 สูบเรียง 4 วาล์ว/สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุ 689cc พร้อมเพลาข้อเหวี่ยง CP2 270 องศา ดังเดิม แต่มีการปรับจูนใหม่ ให้สามารถปล่อยไอเสียผ่านมาตรฐานมลพิษระดับ Euro5+ ได้แล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยที่ตัวเลขพละกำลังสูงสุด ยังคงอยู่ที่ 73.4 PS ที่ 8,750 รอบ/นาที ดังเดิม แต่แรงบิดกลับเพิ่มขึ้นเป็น 68 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที

ระบบส่งกำลังเอง ก็ยังได้รับการปรับปรุงชุดกลไกระบบคลัทช์ใหม่ ให้มีตัว Assist & Slipper Clutch ซึ่งช่วยทั้งการลดแรงหน่วงเครื่องยนต์ที่เกินจำเป็นในยามผู้ขี่เชนจ์เกียร์ลงหนักๆก่อนเข้าโค้ง และช่วยผ่อนแรงก้านคลัทช์ให้เบาลงได้อีก 22 เปอร์เซ็นต์

และหลังจากที่เคยเป็นเพียงรถทรงสปอร์ต-แอดเวนเจอร์ออพชันโล้นๆมานาน ตอนนี้ทาง Yamaha ก็ได้ใส่ลูกเล่นระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆมาให้ตัวรถมากมาย ทั้ง ระบบคันเร่งไฟฟ้า ที่ช่วยให้ระบบสมองกล สามารถมีโหมดการทำงานของเครื่องยนต์ได้ 2 ระดับ ได้แก่ Street กับ Sport, ระบบป้องกันล้อหลังลื่นไถล ที่สามารถทำงานได้อย่างนุ่มนวลมากขึ้น, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายขณะใช้งาน โดยสามารถทำงานได้ตั้งแต่เกียร์ 3 และมีความเร็วมากกว่า 40 กิโลเมตร/ขึ้นไป, และระบบปิดไฟเลี้ยวอัตโนมัติ เป็นต้น

โดยข้อมูลทั้งหมดนี้ จะถูกแสดงผลบนหน้าจอมาตรวัดแบบ Full Digital TFT ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านแอพพลิเคชัน MyRide เพื่อเข้าถึงฟังกัชันการแจ้งเตือนสายโทรเข้า, ข้อความ, ระบบนำทางจาก Garmin, และการเล่นเพลงได้ด้วย

โดยหากทั้งหมดที่ว่ามา ยังดูเล่นใหญ่ไม่พอ Yamaha Traacer 7 ยังมีรุ่น GT ที่จะมาพร้อมกับทั้ง ชิลด์บังลมหน้าที่หน้าขึ้น 1 มิลลิมเตร สูงขึ้น 90 มิลลิเมตร แถมยังสามารถปรับระดับความสูง-ต่ำ ได้อีก 60 มิลลิเมตร, ระบบแฮนด์อุ่นมือ ปรับได้ 3 ระดับ, ขาตั้งคู่, เบาะนั่งที่หน้ากว่า, พักเท้าหุ้มยาง, และกระเป๋าข้างซ้าย-ขวา ซึ่งสามารถใส่หมวกกันน็อคได้ข้างละ 1 ใบ พร้อมแร็คอลูมิเนียมอย่างดี

Source Cr.: Yamaha Motor Europe

อ่านข่าว New Bikes เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Yamaha เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish