เปิดตัวออกมาตามนัดกับ BMW Motorrad Concept RR  ต้นแบบรถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่ในอนาคตของแบรนด์ ที่ดูเพียงปราดเดียวก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือว่าที่รูปโฉมใหม่ของ BMW S1000RR/M1000RR โฉมถัดไป

BMW Motorrad Concept RR คือคอนเซ็ปท์รถซุปเปอร์ไบค์ ว่าที่ BMW S1000RR และ BMW M1000RR โฉมใหม่ ที่ทาง BMW ให้นิยามในการสร้างว่ามันจะต้องแสดงออกถึงเทคโนโลยีขั้นสุดในเรื่องของการใช้วัสดุน้ำหนักเบา ทั้งคาร์บอน และอลูมิเนียม ซึ่งในขณะเดียวกันก็ต้องช่วยส่งเสริมให้รถมีสมรรถนะที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง แม้แต่งานออกแบบตัวรถเอง ยังมีกฎหลัก 3 ข้อที่ใช้เป็นแกนในการทำมันขึ้นมานั่นคือ ต้อง “แหลมคม, ใช้งานได้จริง, และ น่าประทับใจ”

เมื่อพูดถึงเรื่องของงานออกแบบแฟริ่งรอบคัน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นไฮไลท์สำคัญที่สุดของรถต้นแบบคันนี้ เราก็จะพบว่ามันได้ถูกออกแบบมาอย่างดี เพื่อให้ตัวรถมีความลู่ลมสูงสุด และสามารถใช้ประโยชน์จากแรงลมที่เข้ามาปะทะตัวรถให้มีประสิทธิภาพที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นหน้ารถที่ดูแหลมกว่า S1000RR โฉมปัจจุบันอย่างชัดเจน ซึ่งในขณะเดียวกัน ก็ทำให้เรานึกถึงตัวรถ S1000RR โฉมที่สองมากกว่า และตัวแฟริ่งบริเวณใต้แนวดวงไฟหน้าก็ได้ถูกออกแบบให้กลายเป็นครีบรีดอากาศเพื่อจัดเรียงและสร้างกำแพงลมทางด้านข้างผู้ขี่ เช่นเดียวกับชิ้นแฟริ่งหน้าช่วงด้านข้างที่มีการตีขอบขึ้นเป็นกรอบชัดเจน คล้ายกับ CBR1000RR โฉมสุดท้ายก่อนกลายเป็น CBR1000RR-R

ปากแรมแอร์ตรงกลาง ในภาพรวมมีลักษณะรูปทรงใกล้เคียงกับของ M1000RR รุ่นปัจจุบัน แต่บริเวณของล่างจะถูกออกแบบให้เป็นเส้นเดียวกันกับส่วนคางแฟริ่งหน้า ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะทำให้มันสามารถดักลมเข้าหม้อกรองได้มากขึ้น ชิลด์หน้าทรงสูงยังคงมีมาให้เช่นเดิม ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องรูปทรงมากนัก แต่ชิ้นแฟริ่งที่ขนาบข้างดูมีความยื่นยาวออกมาสะดุดตามากกว่าเท่านั้น

วิงเล็ทด้านข้างออกแบบใหม่ให้ดูกะทัดรัด ในลักษณะคล้ายกับ S1000RR รุ่นปี 2023 แค่ไม่มีเกล็ดตีอากาศ และปีกด้านบนมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย แต่จะไม่มีการกางลงด้านล่างให้ดูพะรุงพะรังเหมือน M1000RR หรือ S1000RR โฉมล่าสุด โดยที่ฐานล่างของวิงเล็ทแอบน่าแปลกใจตรงที่มันดันเป็นชิ้นงานอลูมิเนียม CNC แทน ไม่ได้เป็นชิ้นงานคาร์บอนเดียวกันกับวิงเล็ทชั้นบนแต่อย่างใด

ส่วนแฟริ่งข้างยังคงให้มาค่อนข้างเต็ม แต่ไม่ถึงกับปิดเครื่องยนต์เสียเกือบมิดเหมือน M1000RR และมีการปรับเพิ่มช่องรีดทางด้านหน้าของแฟริ่งให้มากขึ้นอีกเล็กน้อย โดยที่ช่องด้านข้างซ้ายและขวา ยังคงใช้งานดีไซน์แบบไม่สมมาตร ฝั่งซ้ายเป็นช่องเปิดโล่ง ฝั่งขวาเป็นช่องมีครีบ เอกลักษณ์ของฉลามดังเดิม

ท้ายสุดที่สะดุดตากันตั้งแต่เห็นในภาพเงาทีเซอร์ คือท้ายรถ ที่มีการออกแบบให้แหลมเรียว จนดูเหมือนว่ามันจะได้แรงบันดาลใจมาจาก Yamaha YZF-R1 ไม่ก็ Ducati Panigale V4 อย่างไงอย่างงั้น

นอกนั้นส่วนควบอื่นๆของตัวรถ จะเห็นได้ว่ามันคือชิ้นส่วนที่ยกมาจากตัวแข่ง BMW M1000RR WSBK ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น บังโคลนหน้าคาร์บอนขนาดใหญ่, ถังน้ำมัน ทรงโหนกอูฐความจุ 21 ลิตร, การ์ดแครงก์ กับการ์ดปลายแฮนด์ GB Racing, ซับเฟรมหลังจาก Bonamici Racing พร้อมฐานเบาะนั่งงานคาร์บอนพรีเพ็ก, พักเท้าสนาม, สวิงอาร์มอลูมิเนียมแบบท้องคว่ำ พร้อมจุดยึดกับเมนเฟรมที่สามารถปรับตำแหน่งความสูง-ต่ำ/หน้า-หลัง ได้

ระบบกันสะเทือนจาก Ohlins หน้าโช้กตะเกียบคู่หัวกลับ RVP25/30 – หลัง RVP50, ระบบเบรก Brembo ด้านหน้าจานเบรกคู่ WSBK T-Spec ขนาด 338 มิลลิเมตร พร้อมปั๊ม Radial Mount WSBK Race Caliper 4 พอท – ด้านหลังจานเบรกเดี่ยว 218 มิลลิเมตร พร้อมปั๊ม Axial Mount WSBK Race Caliper 4 พอท, ชุดล้ออลูมินัมอัลลอยด์ฟอร์จจาก PVM

และเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 999cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 วาล์ว/สูบ โดยก้านวาล์วทำจากไทเทเนียมน้ำหนักเบา เช่นเดียวกับก้านสูบ พร้อมถูกปรับจูนเต็มระบบ พ่วงท่อไอเสียจาก Akrapovic ให้กำลังสูงสุด 233 แรงม้า ที่รอบเครื่องยนต์มากกว่า 14,000 รอบ/นาที ก็เช่นกัน

โดยทั้งหมดนี้ทางค่ายยังไม่มีการเปิดเผยเพิ่มเติมว่าพวกเขาจะนำงานดีไซน์ต่างๆเหล่านี้ไปใช้กับรถ BMW S1000RR/M1000RR ร่างขายจริงเมื่อไหร่ แต่ก็คาดว่าจะอยู่ในช่วงไม่เกิน 1-2 ปีนับจากนี้แน่นอน

อ่านข่าว New Bikes เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว BMW เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish