ต่อจากการเผยโฉม Kawasaki ZX-6R รุ่นปี 2026 ทางค่ายเขียวอินดี้ ก็เลือกที่จะเปิดตัวน้องรอลงมาอย่าง Kawasaki ZX-4RR โฉมปีเดียวกันออกมาทันที

2026 Kawasaki ZX-4RR และ ZX-4R SE ถูกเปิดตัวด้วย 3 เฉดสีใหม่ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ โดยประเดิมกันก่อนด้วยสีหากินประจำตัว นั่นคือสีเขียว Lime Green หรือสีเขียวมะนาวอันเป็นเอกลักษณ์ และจะมีให้เลือกซื้อเฉพาะในรุ่น ZX-4RR โดยเป็นสีแบบเดียวกับของรุ่นพี่ ZX-6R ที่เรานำเสนอไปก่อนหน้านี้

แม้แต่ลวดลายสติ๊กเกอร์แถบสีน้ำเงิน-ขาว ปิดด้วยคำว่า “ZX” ขนาดใหญ่ทางด้านข้าง และสติ๊กเกอร์ “Ninja” แบบคลาสสิคก็ยังคงมีมาให้ครบๆเช่นกัน

ถัดมาสำหรับตัวรถรหัส ZX-4R SE คือตัวรถสีเข้ม  Metallic Graphene Steel Grey – Metallic Spark Black หรือ สีเทาด้าน บริเวณแฟริ่งหน้าและแฟริ่งข้าง คาดด้วยแถบสติ๊กเกอร์สีดำเข้ม พร้อมโลโก้ ZX-4R

โดยที่ชิ้นแฟริ่งใต้ถังน้ำมัน กับชิ้นแฟริ่งท้าย และถังน้ำมันจะถูกทำเป็นสีดำเงาทั้งหมด ช่วยเพิ่มความดุดันให้กับรถได้เป็นอย่างดี

สุดท้ายคือคืออีกหนึ่งสีไฮไลท์ของ ZX-4R SE นั่นคือ สี Pearl Robotic White – Metallic Spark Black ซึ่งจะมีการเปลี่ยนชิ้นแฟริ่งที่เคยเป็นสีเทาเข้ม ให้กลายเป็นสีขาวมุก ช่วยให้มันมีความตัดโทนกับครึ่งหลัง และอกล่างของรถที่เป็นสีดำได้เป็นอย่างดี

และยังเพิ่มภาพลักษณ์หล่อหรูด้วยแถบสติ๊กเกอร์สีทองที่จัดโทนมาเข้ากันอย่างลงตัว

เครื่องยนต์ของ ZX-4R ทั้งสองรุ่นย่อยของปี 2026 ยังคงเป็นบล็อก 4 สูบเรียง DOHC 4 วาล์ว/สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 399cc จากขนาดกระบอกสูบ 57 x 39.1 มิลลิเมตร พร้อมอัตราส่วนกำลังอัด 12.3 : 1 ให้กำลังสูงสุด 77 แรงม้า PS ที่ 14,500 รอบ/นาที และขยับขึ้นเป็น 80 แรงม้า PS ที่ 14,500 รอบ/นาที เมื่อ Ram Air ทำงานเต็มที่ ขณะที่แรงบิดสูงสุดก็ยังคงเคลมเอาไว้ที่ 39 นิวตันเมตร ที่ 13,000 รอบ/นาที ดังเดิม

ระบบส่งกำลังแบบคลัทช์มือ และชุดเกียร์ 6 สปีด พร้อมระบบสลิปเปอร์คลัทช์ และควิกชิฟท์เตอร์แบบ 2 ทางขึ้นลง ทำงานร่วมกับคันเร่งไฟฟ้า ซึ่งมีโหมดการขับขี่ให้เลือกปรับ ทั้ง Road, Sport, Rain, และ Rider โดยมีฟังก์ชันปรับระดับกำลังเครื่องยนต์ระหว่าง Full กับ Low ตามด้วยโหมดการทำงานของระบบ Kawasaki Traction Control ให้ปรับอีก 3 ระดับ

ชุดเฟรมยังคงเป็นแบบโครงเหล็กถักซึ่งใช้ร่วมกันกับ Kawasaki ZX-25R, ระบบกันสะเทือนหน้าใช้โช้คหัวกลับ Showa SFF-BP พร้อมความสามารถในการปรับค่าความแข็งสปริง, และโช้คหลังจะมีทั้งแบบโช้คเดี่ยวปรับค่าความแข็งสปริงแบบขั้นบันได ในรุ่น SE หรือจะเป็นโช้คแก๊สแบบมีกระปุกซับแทงค์แยก Showa BFRC-Lite ที่สามารถปรับเซ็ทได้ทุกค่าในรุ่น ZX-4RR

ระบบเบรกด้านหน้า แบบดิสก์คู่ ขนาด 290 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกเรเดียลเมาท์ 4 พอท และด้านหลัง ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกโฟลทติ้งเมาท์ 1 พอท โดยที่ชุดล้ออัลลอยด์จะรัดด้วยยางขนาด 120/70-17 และ 160/60-17 ตามลำดับหน้า-หลัง

มิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง ที่ 1,990 x 765 x 1,110 ในหน่วยมิลลิเมตร, ระยะฐานยล้อ 1,380 มิลลิเมตร, ความสูงใต้ท้องรถ 135 มิลลิเมตร, ความสูงเบาะ 800 มิลลิเมตร, ถังน้ำมันขนาด 15 ลิตร และน้ำหนักตัวรวมของเหลวที่ 189-190 กิโลกรัม แล้วแต่รุ่นย่อย

โดยราคาสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นแบบรวมภาษี ของ Kawasaki ZX-4R รุ่นปี 2026 จะมีตัวเลขเริ่มต้นเพียง 1,210,000 เยน หรือราวๆ 266,000 บาท เท่านั้น ซึ่งถือว่าถูกมากเลยทีเดียว ทั้งที่มันคือรถซึ่งถูกนำเข้าจากประเทศไทยไปวางจำหน่ายในแดนบ้านเกิดของแบรนด์

Source Cr.: Kawasaki-Motors.com

อ่านข่าว New Bikes เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Kawasaki เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish