โลกทุกวันนี้แม้จะก้าวหน้าไปสักเพียงใด ผู้คนมากมายก็ล้วนอยากจะที่ย้อนกลับมายังวันวานอยู่เสมอ EMULA ก็เช่นกัน ขณะที่อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์กำลังมุ่งหน้าไปสู่พลังงานสีเขียว หรือการปล่อยมลพิษที่เป็นศูนย์ นั่นย่อมหมายความว่าเครื่องยนต์ของรถเรานั้นจะถูกเปลี่ยนแปลงให้หมดเสน่ห์ลงไปทุกวัน

โลกของรถจักรยานยนต์ปี 2020 ถือว่าเป็นปีแห่งการกำเนิดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามการทำให้โลกเป็นสีเขียวนั้นมันย่อมทำให้เรารู้สึกถึงการขาดหายไปจากฟิลลิ่งเดิมๆ กับเสียงเครื่องยนต์สันดาบที่ดังกึกก้องตรงหว่างขาของเราที่มาพร้อมการสับเปลี่ยนเกียร์บนหลังเท้า

Emula ชื่ออย่างเป็นทางการของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ถ้ามันเป็นเหมือนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทั่วไปก็คงไม่มีบทความที่มานำเสนอในวันนี้ ความพิเศษของมันก็คือ การที่มันนั้นสามารถเปลี่ยนเสียงเครื่องยนต์ไปจนท่อไอเสีย ให้เหมือนกับรถ 2 จังหวะ ไปจน 4 จังหวะ ยังไม่หมดแค่นั้น มันยังสามารถกำหนดซีซีรถตามที่โปรแกรมได้ติดตั้งมาให้อีกด้วย

ความพิเศษของการตั้งค่าเครื่องยนต์นี้เอง โปรแกรมได้ตั้งค่าเอาไว้ 3 แบบ ได้แก่ เสียงเครื่องยนต์ 600 ซีซี 4 สูบ 4 จังหวะ ในปี 1999 โดยมันสามารถรีดแรงม้าออกมาได้ 100 ตัวที่ 13,000 รอบต่อนาที ต่อในเป็นเครื่องยนต์ 800 ซีซี 4 จังหวะ 2 สูบ ปี 2004 มีพละกำลัง 77 แรงม้าmที่ 9,000 รอบต่อนาที และสุดท้ายเครื่องยนต์ 250 ซีซี 2 จังหวะ ปี 1989 ที่เราคุ้นเคย รีดกำลังได้ 60 แรงม้าที่ 12,500 รอบต่อนาที ยังไม่หมดเพียงแค่นั้นมันยังมาพร้อมกับชุดเกียร์และคลัทช์ที่ทำให้เรานั้นเข้าถึงฟิลลิ่งการขับขี่ได้อย่างเต็มเปี่ยม

มาที่ประเด็นเรื่องของเสียง Emula ได้ติดตั้งลำโพงเอาไว้ตรงข้างใต้ท้ายรถ เพื่อให้มันส่งเสียงออกมาตามที่เราตั้งค่าเอาไว้ หรือจะสลับไปเป็นโหมดไฟฟ้าเพียวๆ ก็ได้ แน่นอนว่าหากเราปรับเป็นเสียงเครื่องยนต์สันดาบก็อาจจะทำให้เกิดความรำคาญกับผู้อื่น ทีมผู้พัฒนาได้ใส่ระบบบลูทูธส่งเสียงไปยังหูฟังของเราอีกด้วย เอากับเขาสิ

ที่บรรยายมาทั้งหมดนี้อาจจะยังไม่เห็นภาพ เดี๋ยวเราลองมาดูวีดีโอข้างล่างนี้ เกี่ยวกับการทดสอบสปอร์ตไบค์ไฟฟ้า Emula บนเครื่อง dyno กันดีกว่า จะได้เห็นภาพชัดๆ

ชมคลิปวีดีโอ

Source Cr.: Emula

อ่านข่าว New Bikes เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Emula เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish