เป้าหมายการลดการปลดปล่อยคาร์บอน ไม่ได้ถูกจำกัดแค่รูปแบบพลังงานสำหรับการขับเคลื่อนยานพาหนะ แม้แต่ส่วนประกอบรถเองก็ยังเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตใส่ใจ โดยหนึ่งในนั้นที่เรากำลังจะได้เห็นเร็วๆนี้ ก็คือการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เคยเป็นงานคาร์บอนไฟเบอร์ ให้กลายเป็นงานขึ้นรูปจากวัสดุเส้นไยจากธรรมชาติแทน

เส้นไยคาร์บอนไฟเบอร์ นับเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ผู้ผลิตหลายแบรนด์นิยมใช้กับยานยนต์ระดับไฮ-เอนด์ มากมาย จากคุณสมบัติในเรื่องของความแข็งแรง แต่น้ำหนักเบากว่าวัสดุจำพวกโลหะ หรือ พอลิเมอร์คอมโพสิตอื่นๆ ที่ยานยนต์ทั่วๆไปนิยมใช้กัน

แต่ด้วยกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน และมีการปลดปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศในระหว่างการผลิตที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้มันค่อนข้างจะขัดต่อหลักความต้องการที่จะลดการปลดปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศให้น้อยลง

ทำให้ผู้ผลิตอย่าง BMW เลือกที่จะจับมือกับบริษัทสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ที่โดดเด่นในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีสะอาดอย่าง “Bcomp” ที่เคยร่วมมือกับ Porsche, Volvo, และ Polestar ให้ช่วยกันเสาะหาและพัฒนาวัสดุชนิดใหม่ เพื่อทดแทนวัสดุประเภทคาร์บอนไฟเบอร์เสริมแกร่ง หรือ CFRP ขึ้นมา ภายใต้โครงการ “BMW i Ventures”

ผลที่ได้ก็คือ พวกเขาพบว่าเมล็ดพืชแฟล็กซ์ ซึ่งถูกใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งการเป็นอาหารประเภทธัญพืช และใช้ทำเส้นไยผ้าสิ่งทอ มีความเหมาะสม เหนียว ทนทาน และแข็งแกร่งมากพอที่จะนำมาใช้งานแทนเส้นไยคาร์บอนไฟเบอร์ได้ และการจะทำแบบนั้น มันก็จะต้องถูกทอด้วยรูปแบบพิเศษ ทำให้เกิดลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวผ้าที่ถูกทอขึ้นจากเส้นไยธรรมชาติจากเมล็ดแฟล็กซ์ขึ้นมา

โดยทาง BMW ระบุว่าพวกเขาได้เริ่มนำวัสดุชนิดนี้มาใช้ตั้งแต่ปี 2019 กับตัวแข่งของแบรนด์ในรายการ Formula E และจากนั้นยังนำไปใช้เป็นส่วนประกอบตัวถังของรถ BMW M4 ในการแข่งขัน DTM และตัวแข่ง BMW M4 GT4 จนกระทั่งในปี 2022 ทาง Bcomp ก็ได้เป็นพาร์ทเนอร์สำคัญในการทำรถแข่ง BMW M4 GT4 อย่างเต็มตัว

ยังไม่หมดแค่นั้น ทาง BMW ยังเตรียมที่จะนำรถ BMW GT4 ที่มีชิ้นส่วนตัวถัง ถูกสร้างขึ้นจากวัสดุเส้นไยธรรมชาตินี้ ไปลงแข่งขันในรายการบิดอึด 24 ชั่วโมง ที่สนามเนอร์เบิร์กริง ด้วย เพื่อพิสูจน์ความทนทาน ท่ามกลางการใช้งานอย่างหนักหน่วงข้ามวันข้ามคืนอีก

และจากความมั่นใจในตัววัสดุที่ถูกคิดค้นขึ้นมา ทำให้ทาง BMW ระบุว่าพวกเขากำลังจะทำชิ้นส่วนตกแต่งเสริมสมรรถนะรถยนต์ตัวขายจริง ที่ถูกทำขึ้นจากวัสดุเส้นไยธรรมชาตินี้ ให้เป็นออพชันที่ลูกค้าสามารถเลือกซื้อไปตกแต่งรถของตนเองได้ ซึ่งจากภาพตัวอย่างที่ถูกปล่อยออกมา คาดว่าจะมีทั้ง ชิ้นงานดิฟฟิวเซอร์ท้ายรถ, ฝากระโปรงหน้า, และหลังคารถทั้งชิ้น สำหรับรถ BMW M4 รุ่นปัจจุบัน โดยเฉพาะชิ้นงานอย่างสุดท้าย ก็สามารถลดการปลดปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศได้มากถึง 40% โดยอิงตามการคำนวณตั้งแต่กระบวนการผลิต การใช้งาน ไปจนถึงการทำลายเมื่อหมดอายุการใช้งาน

โดยหากกระแสตอบรับเป็นไปได้ด้วยดี หรือทางค่ายจริงจังกับชิ้นส่วนที่ทำขึ้นจากวัสดุชนิดนี้มากๆ ก็ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล M ที่ใช้ชิ้นส่วนแฟริ่งงานคาร์บอนจัดเต็มอย่าง BMW M1000RR ถูกเปลี่ยนมาใช้แฟริ่งที่ทำขึ้นจากวัสดุชนิดนี้ด้วยก็เป็นได้ เพราะทางค่ายระบุไว้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาจะนำวัสดุนี้ไปใช้กับผลิตภัณฑ์ตระกูล M อื่นๆเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน

อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว BMW เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish