บทสรุป “ที่ดินการรถไฟ เขากระโดง บุรีรัมย์” บนพื้นที่ “สนามช้างฯ เซอร์กิต”

ฝ่ายกฎหมายนำแถลง! ชี้ “สิทธิในที่ดินของประชาชนยังคงชอบด้วยกฎหมาย ด้านคนกีฬาเตือน “กระทบทั้งระบบ” ทั้งยังมีเสียงเรียกร้อง แยกการเมืองออกจากผลประโยชน์ของชาติ
บุรีรัมย์ 7 สิงหาคม 2568 – ตัวแทนประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ประกอบการธุรกิจ และนิติบุคคลที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายในพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ร่วมจัดงานแถลงข่าว เพื่อตอบโต้และชี้แจงกรณีการแถลงข่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา เรื่องการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในที่ดินกว่า 5,083 ไร่ ซึ่งมีผู้ถือครองมากถึง 995 ราย

ผลกระทบต่อกีฬาและเศรษฐกิจประเทศไทย
หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบคือ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามแข่งรถมาตรฐานระดับโลก มาตรฐาน FIA เกรด 1 และ FIM เกรด A แห่งเดียวของไทย และ สนามช้างอารีนา สนามฟุตบอลมาตรฐาน FIFA ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬาและเศรษฐกิจที่สำคัญยิ่งของจังหวัดบุรีรัมย์และประเทศไทย
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า “สนามช้างฯ ไม่ใช่แค่สนามแข่งรถ แต่คือหัวใจของอุตสาหกรรมมอเตอร์สปอร์ตไทย ทั้งยังเกี่ยวโยงกับธุรกิจท่องเที่ยว การบริการ การจ้างงานหลายหมื่นอัตรา ซึ่งที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ กว่าปีละ 5,000 ล้านบาท หากไม่สามารถดำเนินงานได้ ย่อมกระทบลึกไปถึงเศรษฐกิจและทำให้ประเทศเสียเครดิตในเวทีโลก”
โดยเน้นย้ำว่า รายการแข่งขันระดับโลก เช่น MotoGP, Asia Road Racing, GT World Asia, Asian Leman ฯลฯ และอีกหลายรายการที่จ่อคิวจัดในไทย อาจต้องย้ายประเทศทันที หากความไม่แน่นอนนี้ยังคงดำเนินต่อไป รวมไปถึงรัฐบาลจะต้องจ่ายค่าปรับจำนวนเงินมหาศาลให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์หากต้องยกเลิกการจัดการแข่งขัน ในขณะที่รายการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย อย่าง BRIC Superbike ซึ่งเป็นเวทีให้เยาวชนไทยได้รับโอกาสสู่การเป็นนักแข่งระดับโลกมากมายหลายคน อาจต้องจบเส้นทางลงหากโดนแทรกแซงทางการเมืองเช่นนี้
ข้อเท็จจริงประการสำคัญที่สาธารณะชนควรทราบ คือที่ดินที่เป็นพื้นที่ของสนามแข่งรถในปัจจุบัน ถูกซื้อตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งขณะนั้นกรมที่ดินได้อนุญาตให้ทำการซื้อขายและออกเอกสารสิทธิ์ให้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่วันนี้ที่ดินที่ซื้อมาอย่างถูกต้องกลับถูกคำสั่งเพิกถอนจากข้อพิพาทระหว่างกรมที่ดินกับการรถไฟ ชาวบ้านและเอกชนจึงกลายเป็นเหยื่อผู้ได้รับผลกระทบอย่างไม่เป็นธรรม
“นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของสนามแข่ง แต่คือพายุลูกใหญ่ที่ถาโถมเข้าสู่วงการกีฬาไทย หากปล่อยให้การเมืองกลบทุกเสียงของความเป็นธรรม วงการมอเตอร์สปอร์ตทั้งระบบอาจล่มสลาย” นายตนัยศิริ กล่าวทิ้งท้าย
ในส่วนของ สนามช้างอารีนา ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลมาตรฐาน FIFA ที่รองรับการแข่งขันระดับชาติและเอเชีย ก็เผชิญความไม่แน่นอนเช่นกัน
นายประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานทรัพย์สิน และผู้อำนวยการสายงานการตลาดและการสื่อสาร สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า “สนามช้างอารีนา ไม่เพียงแต่เป็นสนามเหย้าของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่ยังเป็นสังเวียนการแข่งขันระดับชาติและนานาชาติ ที่มีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการของวงการลูกหนังไทย ทั้งยังเป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของจังหวัดบุรีรัมย์”
ปัญหานี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของเอกสารสิทธิหรือการจัดการที่ดินเท่านั้นแต่คือความมั่นคงและศักยภาพของจังหวัดบุรีรัมย์ในฐานะเมืองต้นแบบการท่องเที่ยวเชิงกีฬาและวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศไทย
หากในท้ายที่สุดแล้ว ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยไม่มีแนวทางแก้ไขที่รอบคอบ จะไม่ใช่แค่บุรีรัมย์ที่เสียหาย แต่คือวงการกีฬาทั้งระบบ อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ยังไม่มีเอกสารอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานรัฐหน่วยใดส่งมายังสโมสร ดังนั้นขอยืนยันว่า สนามช้างอารีนา จะถูกใช้เป็นสถานที่จัดรายการแข่งขันทั้งในระดับประเทศและนานาชาติตลอดปี 2025/2026 ตามกำหนดการเดิม” นายประมูลชัยกล่าว
กระแสสังคม : “แยกการเมือง ออกจากอนาคตประเทศ”
ประชาชนจำนวนมาก และแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วประเทศ เรียกร้องผ่านโซเชียลให้ แยกการเมืองออกจากผลประโยชน์ของชาติ พร้อมตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของการนำคำพิพากษาบางคดีมาใช้เป็นเหตุเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในที่ดินจำนวนมาก
นักวิเคราะห์ในพื้นที่ยังชี้ว่า หากสถานะทางกฎหมายของที่ดินไม่ชัดเจน ผู้สนับสนุนกีฬาทั้งจากทั้งภาครัฐและเอกชนในอนาคตจะหยุดชะงักทันที กระทบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
ข้อชี้แจงทางกฎหมาย : “สิทธิในที่ดินของประชาชนยังคงชอบด้วยกฎหมาย”
นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ทนายความที่เป็นตัวแทนกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ ชี้แจงต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน ว่า ข้อพิพาทสิทธิในที่ดินบริเวณ “เขากระโดง” แม้จะมีคำพิพากษาของศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์บางคดีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำมาอ้าง แต่ภายใต้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคสอง คำพิพากษาดังกล่าวผูกพันเฉพาะคู่ความและที่ดินพิพาทในคดีเท่านั้น ไม่อาจยกขึ้นยันกับราษฎรผู้ถือเอกสารสิทธิตามกฎหมายในที่ดินแปลงอื่นซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวและได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1373 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127 และประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 2 และมาตรา 3 อีกทั้งยังได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 37 อีกด้วย
ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบันไม่ปรากฏว่ามีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตและจัดซื้อที่ดิน พร้อมแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาประกาศในราชกิจจานุเบกษา รับรองให้ รฟท. ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บนที่ดินบริเวณเขากระโดงตามพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ. 2464 หรือกฎหมายอื่นใด ดังนั้น ที่ดินพิพาทจึงไม่ตกเป็น “ที่ดินรถไฟ” ตามนิยามในพระราชบัญญัติดังกล่าว ยิ่งไปกว่านั้น แผนที่สำรวจ (Exploitation Plan) ดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อรองรับการขนย้ายหินบริเวณเขากระโดงชั่วคราว โดยอาศัยพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ. 2464 มาตรา 45 จึงไม่ใช่ทางรถไฟเพื่อใช้ในการเดินรถตามมาตรา 3 (3) ของพระราชบัญญัติเดียวกัน และไม่ใช่แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาที่ผ่านกระบวนการพระราชทานโปรดเกล้าฯ ตามกฎหมาย
ยืนยันสิทธิ – พร้อมดำเนินการทางกฎหมาย
ข้อเท็จจริงข้างต้นยืนยันอย่างชัดเจนว่า ราษฎรผู้ถือครองเอกสารสิทธิโดยสุจริตยังคงมีสิทธิครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณเขากระโดงโดยชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ทุกประการและได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศไทย อีกทั้ง ยังมีสิทธิในการต่อสู้และพิสูจน์ถึงความไม่ชอบของแนวเขตที่ดินที่ รฟท. กล่าวอ้าง
หากนายภูมิธรรมฯ อธิบดีกรมที่ดิน และหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องยังคงดำเนินการเพิกถอนโฉนดโดยยึดถือแผนที่หรือข้อมูลเท็จของ รฟท. เพื่อสนองนโยบายทางการเมือง อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง ราษฎรทุกรายผู้ได้รับผลกระทบจะยืนหยัดปกป้องสิทธิของตนอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าจะฟ้องเพิกถอนคำสั่งทางปกครองและเรียกค่าเสียหาย หรือดำเนินคดีอาญาฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เบิกความเท็จ ปลอมแปลงเอกสารราชการ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้กระทำต้องรับผิดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

บทสรุปแบบสั้นสำหรับเรื่องนี้ คือ “ศาลตัดสินพื้นที่ 35 แปลง ที่มีปัญหาไม่ได้อยู่ในพื้นที่ สนามช้างฯ เซอร์กิต”

โปรแกรมการแข่งขัน “ThaiGP2026” เป็นสนามแรกเปิดฤดูกาลของโมโตจีพี
รัฐบาลไทย “หากไม่ได้จัดการแข่งขันไทยจีพีปี 2026 ตามปฎิทิน” เนื่องจากการรื้อถอนปรับปรุง สนามช้างฯ เซอร์กิต รัฐบาลไทยจะถูกทาง ลิเบอร์ตี้ (ดอร์น่า สปอร์ต) ผู้จัดการแข่งขันฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายประมาณ 6.4 ล้านยูโร หรือประมาณ 237 ล้านบาท
เหตุผลที่ ผู้จัดการแข่งขันโมโตจีพี ลิเบอร์ตี้ (ดอร์น่า สปอร์ต) ไม่เซ็นสัญญากับบริษัทเอกชน จะเซ็นสัญญากับรัฐบาลประเทศที่จัดการแข่งขันทุกๆประเทศเท่านั้น เพื่อป้องกันการถูกบริษัทเอกชนยกเลิกหรือไม่จัดการแข่งขัน ฉะนั้นถ้าประเทศไทยไม่จัดการแข่งขันโมโตจีพีปี 2026 รัฐบาลไทยรับค่าปรับไปเต็มๆ
อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่
อ่านข่าว ที่ดินเขากระโดง เพิ่มที่นี่
เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่
Website : motowish.com
Facebook : facebook.com/motowish