นอกจากเรื่องของสมรรถนะอันโดดเด่น ล่าสุด Ducati Panigale V4 ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีงานออกแบบยอดเยี่ยม จนคว้ารางวัล “iF Design Award 2025” ไปครอง

Ducati Panigale V4 เจเนอเรชันล่าสุด ถูกนับว่าเป็นรถซุปเปอร์ไบค์ยุคที่ 7 ของสารบบแบรนด์ Ducati โดยในคราวนี้มันได้มาพร้อมกับเส้นสายที่หยิบเอากลิ่นอายของทั้ง Ducati 916 และ Ducati 1098 ซึ่งต่างก็เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ได้ชื่อว่ามีความ “เซ็กซี่” มากที่สุดในโลก เหมือนกันทั้งคู่ มาใส่ลงไปบนน้องใหม่คันนี้

ที่น่าสนใจคือเส้นสายของตัวรถ ไม่ได้ถูกใส่เข้ามาแค่เพื่อให้รถดูดี แต่ยังถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้จริงในทุกสัดส่วนอย่างสมดุล ไม่ว่าจะชุดแฟริ่งหน้าที่โค้งมน สะอาดตา จากการใช้ดวงไฟหน้าที่เล็กลง และย้ายปากท่อแรมแอร์ไปหลบไว้ด้านล่าง, วิงเล็ทขนาดเล็กกว่า แต่สร้างแรงกดได้มากขึ้น, แฟริ่งข้างที่มีการออกแบบช่องลม ให้ช่วยระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี โดยที่เส้นวาดต่างๆไม่ได้ดูขัดเขิน

ถังน้ำมันขนาด 17 ลิตรที่มีการออกแบบส่วนเว้าโค้งให้รับกับต้นขาของผู้ขี่ตอนโหนรถเข้าโค้งได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่ช่วงท้ายรถ ที่ใหญ่และยาวกว่าของเดิม แต่ช่วยเสริมความสมดุลระหว่างสัดส่วนครึ่งหน้ากับครึ่งหลังของรถได้อย่างลงตัว แม้กระทั่งกระจกมองข้าง ยังถูกออกแบบให้มีฐานยึดซ่อนไว้ด้านในแฟริ่ง เพื่อที่เวลาผู้ขี่ต้องการถอดมันออก จะได้ไม่มีช่องฐานกระจกมองข้างให้เห็นบนแฟริ่งหน้าอีกต่อไป ซึ่งถือว่าเป็นแนวคิดที่ชาญฉลาดมาก

จากการออกแบบทั้งหมดที่ไล่มา ทำให้มันกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ชนะใจกรรมการจากเวทีการประกวดงานออกแบบผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1953 อย่าง “iF Design Award” ในปี 2025 หมวด “ยานยนต์”  ไปได้ในปีล่าสุดนี้

นอกจากงานดีไซน์อันยอดเยี่ยม Panigale V4 รุ่นล่าสุดยังมาพร้อมกับจุดเด่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Desmosedici Stradale V4 ความจุ 1,103cc ที่ถูกปรับเปลี่ยนไส้ในใหม่ ทั้ง แคมชาฟท์ใหม่ ที่มาพร้อมกับระยะการกดวาล์ว มากกว่าเดิม ชุดมัดไฟและปั๊มน้ำมันเครื่องใหมให้เบาลง, เปลี่ยนไปใช้กระปุกเกียร์ของ Superleggera V4, ไล่เบาน้ำหนักส่วนเกินออกไป 1 กิโลกรัม, เพิ่มระยะการยืดหดของปากแตร จนทำให้มันสามารถเค้นแรงม้าได้มากถึง 216 PS ในเวอร์ชันปกติ หรือขยับขึ้นเป็น 228 PS เมื่อติดตั้งท่อไอ่เสียสเป็คสนามจาก Akrapovic และแรงบิดสูงสุดก็ยังขยับจาก 120.9 นิวตันเมตร มาเป็น 127.8 นิวตันเมตร

ไม่พอยังมีการเปลี่ยนชุดเฟรมใหม่ ให้เบาลง 17% และลดความแข็งลง 40% เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการพลิกเลี้ยว และการจิกหน้ารถเข้าโค้งที่นิ่มนวลมากขึ้น, เปลี่ยนชุดสวิงอาร์มหลังใหม่ เป็นแบบแขนคู่ เบาลง และให้สมดุลดีกว่าเดิม, และปรับเซ็ทระบบกันสะเทือนไฟฟ้า ด้านหน้าโช้กตะเกียบคู่หัวกลับ ด้านหลังโช้กแก๊สต้นเดี่ยวพร้อมกระปุกซับแทงค์แยกจาก Ohlins ในรุ่น S ให้ทำงานได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น แม้แต่รุ่นธรรมดาที่ใช้โช้กปรับมือจาก Sachs เอง ก็มีการปรับเซ็ทใหม่ให้สามารถทำงานได้ดีกว่าเดิม เข้ากับสมดุลรถที่เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน แม้แต่ระบบเบรกด้านหน้า ยังเปลี่ยนไปใช้คาลิปเปอร์ Brembo Hypure เป็นรุ่นแรกของโลก ซึ่งทั่งเล็กและเบา แถมยังมีประสิทธิภาพในการคายความร้อนเหนือกว่าปั๊ม Brembo Stylema

ท้ายสุดคือการปรับปรุงระบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ทั้งหมด ทั้งในส่วนฮาร์ดแวร์ที่ประกอบไปด้วยกล่องประมวลผล, เซนเซอร์ IMU 6 แกน, เซนเซอร์ยิบย่อยส่วนอื่นอีก 70 ตำแหน่ง และในฝั่งระบบซอฟท์แวร์ DTC, DWC, DPL, DSC, EBC, DQS, และ Race eCBS ให้สามารถทำงานได้เรียบเนียนขึ้น ชาญฉลาดยิ่งขึ้น และเปลี่ยนวิธีการทำงานจากแบบคอยแก้ตามอาการ เป็นคาดการณ์อาการรถล่วงหน้า เหมือนตัวแข่ง MotoGP อีกด้วย

โดยทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติของ Ducati Panigale V4 ราคา ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยของเราแล้ว อยู่ที่ 1,199,000 – 1,479,000 บาท นั่นเอง

Source Cr.: Ducati

อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Ducati เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish