ดูเหมือนว่าในงาน EICMA Show 2025 ครั้งนี้ ทาง Honda จะยังคงมีว่าที่รถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่ๆให้เราได้ตื่นตาตื่นใจอีกหลายโมเดล และหนึ่งในนั้นคือ Honda CB1000F / CB1000F SE ที่โชว์ตัวร่างคอนเซปท์เพื่อชิมลางไปก่อนบ้างแล้วในระหว่างการแข่งขัน Suzuka 8 Hrs เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้

ย้อนไปเมื่อปี 2020 ทาง Honda ได้มีการเปิดตัวรถ CB-F Concept ซึ่งเป็นต้นแบบรถมอเตอร์ไซค์แนวโมเดิร์น-คลาสสิค ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจาก Honda CB900F ที่ถูกวางจำหน่ายในช่วงต้นยุคปี 80’s ซึ่งในขณะที่หน้าตามันดูดี แต่หลายคนก็เกิดสงสัยว่าจู่ๆทำไมทางค่ายถึงอยากจะทำรถต้นแบบขึ้นมา เพราะ CB1000R ที่เป็นพื้นฐานในการทำเจ้ารถต้นแบบคันนี้ ร่างเดิมของมัน ก็เป็นรถมอเตอร์ไซค์แนวร่วมสมัยอยู่แล้ว

จนกระทั่งเข้าสู่ปลายปี 2024 กลายเป็นว่ารถ Honda CB1000R ที่เคยเป็นรถมอเตอร์ไซค์แนว Neo Sport Café ได้ถูกเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ ให้กลับไปเป็นรถสปอร์ตเนคเก็ท ตามนิยามตระกูล Hornet อีกครั้ง

และเรื่องราวก็เริ่มปะติดปะต่อกันได้เหมาะเจาะมากขึ้น ว่าเจ้า CB1000 Hornet จะมีคู่แฝดดีไซน์ย้อนยุคในชื่อ Honda CB1000F ที่ต่อยอดมาจาก Honda CB-F Concept วางจำหน่ายคู่กันไปด้วย เมื่อทางค่ายได้เผยโฉมรถ Honda CB1000F Concept ออกมาอีกครั้งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ล่าสุด Honda CB1000F Concept ยังได้ปรากฏตัวอีกครั้งท่ามกลางอีเวนท์การแข่งขันศึกบิดอึด Suzuka 8Hrs โดยสิ่งที่ต่างออกไปจากการเปิดตัวเมื่อต้นปีคือ คราวนี้ตัวรถจะมาพร้อมกับส่วนควบต่างๆที่เหมาะสำหรับการนำไปวิ่งบนถนนหลวงมากขึ้น นั่นคือ การติดตั้งชุดไฟเลี้ยว LED คู่หน้า เอาไว้ใต้แนวไฟหน้า LED โคมกลม

และยังมีการใส่ชุดบังโคลนท้าย พร้อมจุดยึดแผ่นป้ายทะเบียนหลัง ไฟเลี้ยว LED คู่หลัง มาให้ครบครัน ชนิดที่หากบอกว่านี่คือตัวรถร่างขายจริงแล้ว ก็ไม่ได้มีใครตงิดใจที่จะซื้อมันไปใช้

ที่พิเศษยิ่งกว่า คือในคราวนี้ Honda ยังมีการเปิดตัวรถ CB1000F SE Concept ซึ่งเป็นร่างตกแต่งพิเศษเพิ่มขึ้นมาอีกขั้นจากร่างปกติ ด้วยการใส่ชิ้นแฟริ่งครอบกรอบไฟหน้าเข้าไป และมีการใส่การ์ดหม้อน้ำมาให้อีกเพื่อความสวยงาม รวมถึงยังมีการใช่ควิกชิฟท์เตอร์มาให้อีก เพื่อเสริมภาพลักษณ์ความซิ่งเข้าไป

โดยแม้ทาง Honda จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆของรถออกมา แต่เราคงเดาไม่ยากว่ามันจะใช้พื้นฐานโครงสร้างต่างๆจาก Honda CB1000 Hornet ทั้งชุดเฟรมแบบโครงท่อเหล็ก Twin-Spar, ระบบกันสะเทือนโช้คหน้าหัวกลับ-โช้คหลังต้นเดียวทำงานร่วมกระเดื่องทดแรงและสวิงอาร์มอลูมิเนียมแขนคู่, ระบบเบรกด้านหน้าดิสก์คู่ ขนาด 310 มิลลิเมตร ทำงานร่วมเรเดียลเมาท์คาลิปเปอร์ 4 พอท ด้านหลังดิสก์เดี่ยวขนาด 240 มิลลิเมตร ทำงานร่วมโฟลทติ้งเมาท์ 1 พอท ยกชุดจาก Nissin, และชุดล้ออัลลอยด์รัดด้วยยางขนาด 120/70-17 และ 180/55-17 ตามลำดับหน้า-หลัง

เครื่องยนต์ ก็ยังคงเป็นบล็อก 4 สูบเรียง DOHC 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 999cc ซึ่งถูกพัฒนามาจาก CBR1000RR รุ่นปี 2019 (โฉมก่อนเป็น RR-R) ซึ่งคาดว่าจะไม่ได้มีการปรับจูนใดๆเพิ่มเติมระหว่าง CB1000F กับ CB1000 Hornet จึงคาดว่ามันจะยังคงมาพร้อมพละกำลังสูงสุดที่ 157.9 แรงม้า PS ที่ 11,000 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 107 นิวตันเมตร ที่ 9,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์ 6 สปีด อัตราทดเท่าเดิม

ด้านราคาสำหรับการวางจำหน่ายจริง เมื่อมองจากออพชันต่างๆที่ติดรถมา มีความเป็นไปได้ที่ราคาตัวรถอาจถูกตั้งเอาไว้สูงกว่า Honda CB1000 Hornet เล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้น Honda CB1000 Hornet SP ที่มีการทำตลาดในบ้านเรา และไม่แน่ว่ามันอาจจะมีราคาที่ไม่หนีไปจากเหล่ารถมอเตอร์ไซค์ในกลุ่ม โมเดิร์นคลาสสิคไบค์ พิกัด 900cc มากนัก หรืออาจจะถูกกว่าเสียด้วยซ้ำ แม้ว่ามันจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ในพิกัด 1,000cc ก็ตาม

Source Cr.: MCN

อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Honda เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish