เมื่อเร็วๆ นี้ คาวาซากิได้มีการแสดงรถต้นแบบจักรยานยนต์ไฮบริดที่มาในรูปลักษณ์สปอร์ตภายในการแข่งขัน ซูซูกะ 8 ชั่วโมง ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดได้มีสิทธิบัตรเกี่ยวกับเกียร์กึ่งอัตโนมัติออกมาได้ให้เห็นรูปแบบการทำงานเบื้องต้น

สิทธิบัตรตัวนี้ได้แสดงให้เห็นถึงวิธีการบรรลุผลลัพธ์รวมถึงการวางเลย์เอาต์ของเครื่องยนต์สันดาปสูบคู่ และมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน ซึ่งเรียกว่าการทำงานแบบไฮบริด โดยแนวคิดเกี่ยวกับไฮบริดในรถจักรยานยนต์ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะว่าแบรนด์ Piaggio ได้เคยผลิตออกมาขายแล้วในปี 2009 แต่ต่อมาก็เลิกผลิตไป นอกจากนี้ค่ายใหญ่อย่างยามาฮ่าก็ได้เคยเผยแนวคิดออกมาหลายครั้ง

โดยหลังจากที่มีการโชว์ตัวรถต้นแบบทางคาวาซากิยังไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลทางเทคนิคใดๆ คาดว่าจะมีการเปิดตัวรถตัวจริงในงาน EICMA ปลายปีนี้

ภายในภาพสิทธิบัตรมีรายละเอียดเกี่ยวกับชุดตัวส่งกำลัง ที่รวมเครื่องยนต์สันดาปกับมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน ซึ่งกินพื้นที่เพิ่มมาจากเดิมเพียงนิดเดียว แต่ก็แลกมากับพละกำลังที่มากขึ้นของมอเตอร์ไฟฟ้า ถึงแม้ว่าภายในภาพจะไม่ได้แสดงขนาดของแบตเตอรี่ หากดูจากรถต้นแบบแล้วจะเห็นว่าขนาดรถไม่ได้ขึ้นมากสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นเรื่องขนาดแบตฯ หายห่วง นอกจากนี้ยังมีระบบระบายความร้อนเฉพาะสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งจะระบายความร้อนด้วยของเหลว วางอยู่เหนือชุดเกียร์

และไฮไลท์สำคัญของระบบเกียร์นั่นก็คือ เกียร์กึ่งอัตโนมัติ 6 สปีด ที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการควบคุมไม่ต้องกำคลัตช์ ซึ่งไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไร เพียงแค่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมเซอร์โว ตัวเปลี่ยนเกียร์มีมอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งอยู่ข้างล่างเกียร์

จะเห็นได้ว่ากุญแจสำคัญคือระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ควบคุม ที่ทำให้สามารถผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการสลับไปมาระหว่างน้ำมันกับไฟฟ้า พร้อมทั้งมีโหมดสำหรับไบค์เกอร์ที่อยากจะขับขี่ด้วยเกียร์ หรืออยากขับขี่แบบเกียร์อัตโนมัติได้ นั่นอาจจะเป็นเพราะต้องการดึงกลุ่มลูกค้าเก่าเอาไว้อยู่

และนี่ก็เป็นความคืบหน้าเพิ่มเติมเล็กๆ น้อยเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ไฮบริดของคาวาซากิ มาคอยติดตามกันว่าในช่วงปลายปีจะมีข่าวอะไรมาให้เหล่าไบค์เกอร์สาวกยักษ์เขียวได้ตื่นเต้นกันอีก

Source Cr.: Cycleworld

อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Kawasaki เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish