ท่ามกลางสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้ผู้ใช้รถแบบเช่าซื้อหลายคน เริ่มประสบปัญหาด้านการเงิน หนักขึ้นเรื่อยๆ โดยจากข้อมูลล่าสุดระบุว่า ในตอนนี้มีผู้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ผิดนัดชำระนานเกิดกำหนดจนกลายเป็นหนี้เสีย ไปแล้วเกินมากกว่า 1 ล้านคัน

จากข้อมูลโดยเพจ “กันณ์ เรซซิ่ง” เกี่ยวกับยอดหนี้สะสมของผู้ใช้ยานพาหนะในปัจจุบัน เผยว่าตอนนี้ มีผู้ผิดนัดชำระค่างวดตามข้อตกลงสินเชื่อการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ จนกลายเป็น “หนี้เสีย” ไปแล้วกว่า 1,034,000 คัน

โดยความหมายของคำว่า “หนี้เสีย” ที่ว่านี้ หมายถึง หนี้แบบ NPL หรือ Non-Performing Loan ซึ่งเกิดจากการที่ผู้ขอสินเชื่อ ผิดนัดการชำระค่างวดตามข้อตกลงในการขอสินเชื่อนานเกิน 90 วัน และทำให้ทางสถาบันการเงินมองว่า มีความเสี่ยงสูง อาจไม่ได้รับเงินคืน จนต้องดำเนินการยึดรถเป็นการต่อไป เพื่อนำไปขายทอดตลาดผ่านการประมูล และนำเงินที่ได้มาหักลบกลบหนี้ที่ยังค้างอยู่ของผู้ขอสินเชื่อ

ซึ่งแม้โชคดี รถที่ถูกยึดไป จะถูกขายทอดตลาดโดยถูกประมูลไปด้วยราคาที่สูงกว่ายอดหนี้ที่คงค้างอยู่ (ซึ่งก็มีโอกาสน้อยมากๆ) แต่ตัวผู้ขอสินเชื่อที่ผิดนัดชำระจนกลายเป็นหนี้ NPL ก็จะถูกบันทึกประวัติเครดิตด้านการเงิน หรือเครดิตบูโรที่ไม่ดีนัก และทำให้การจะกู้ขอสินเชื่อใหม่ของบุคคลนั้นๆจะทำได้ยากขึ้นอยู่ดี

หากเกิดกรณีลักษณะนี้กับผู้คนอื่นๆในปริมาณมากๆ ทางสถาบันการเงินก็จะต้องมีการพิจารณาปัจจัยต่างๆว่าเหตุใดเหล่าผู้ขอสินเชื่อจึงมีการผิดนัดชำระหนี้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจต่างๆในภาพรวม ว่ามันส่งผลให้ผู้ขอสินเชื่อทั้งหลาย ต้องประสบปัญหาด้านการเงินจนไม่สามารถชำระค่างวดตามที่ตกลงได้จริงหรือไม่ ?

โดยหากเป็นเช่นนั้นจริง ทางสถาบันการเงิน ก็มีสิทธิ์ที่จะเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ไม่ใช่แค่กับผู้ยื่นขอสินเชื่อหน้าเดิมที่เครดิตเสีย เท่านั้น

แต่ยังอาจจะรวมถึงผู้ขอสินเชื่อที่มีประวัติดีปานกลาง (ผิดนัดชำระบ้าง แต่ไม่นานเกิน 90 วัน จนถึงกับกลายเป็นหนี้เสีย ซึ่งในกลุ่มนี้จะเรียกว่ากลุ่มลูกหนี้ปกติ หรือ SM)เอง ก็จะต้องถูกประเมินปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น และทำให้ขอกู้สินเชื่อได้ยากกว่าเดิม หรืออาจจะต้องมีการเพิ่มเงินดาวน์ ผ่อนนานขึ้น เพื่อลดค่างวดชำระในแต่ละรอบให้ต่ำลง จนสถาบันการเงินมองว่าผู้ขอสินเชื่อจะไม่ผิดนัดชำระง่ายๆอีกต่อไป

ซึ่งกรณีในลักษณะนี้ก็พึ่งจะเกิดไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เอง ที่เรามักได้ยินกันอยู่เสมอๆว่าหลายคนยื่นขอสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อ หรือผ่อนรถได้ยากขึ้นมาก และส่งผลเกี่ยวเนื่องให้ทางฝั่งผู้ผลิตเองก็ขายรถได้ยากขึ้นเช่นกัน จนทำให้เม็ดเงินในอุตสาหกรรมร่วงหนักตามๆกันไปอีก

อย่างไรก็ดี ข้อมูลจาก บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ระบุว่า ในช่วงไตรมาสแรก และไตรมาสที่สอง ของปี 2568 ทางสถาบันการเงินกลับมีแนวโน้มที่จะปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์มากขึ้นเรื่อยๆราว 10% ในปี 2025 โดยเกี่ยวเนื่องกับการที่มีลูกหนี้คุณภาพดีในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 95.8%

ดังนั้นแม้สถานการณ์หนี้เสียของตลาดรถจักรยานยนต์จะแตะหลักล้านคัน แต่มีความเป็นไปได้ที่ตอนนี้อัตราการเพิ่มของผู้ก่อหนี้เสีย จะน้อยลง และทำให้สถาบันการเงินกล้าที่จะปล่อยสินเชื่อให้กับลูกหนี้คุณภาพดี หรือคุณภาพปานกลางได้มากขึ้น

ส่วนผู้ที่ก่อหนี้เสียไว้ ก็กำลังจะได้รับนโยบายการช่วยเหลือจากภาครัฐต่างๆมาช่วยแบ่งเบา เช่น นโยบาย “คุณสู้ เราช่วย” และทำให้การแก้ปัญหาหนี้เสียทำได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องจบที่การยึดรถให้ขาดผลประโยชน์ต่อทั้งตัวลูกหนี้และสถาบันการเงินเสมอไปนั่นเอง

Source Cr.: กันณ์ เรซซิ่ง, LINE TODAY, GSB, Motor Expo

อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish