ขณะที่ Yamaha R9 อาจมีกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ใช้และผู้ที่ให้ความสนใจทั่วโลก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะถูกใจสาวกค่ายแยมทุกคน เพราะยังไงพี่ใหญ่สุดของสายสปอร์ตส้อมเสียงตัวจริง ก็ควรต้องเป็น Yamaha R1 ที่ดันไม่ได้ไปต่อในหลายๆประเทศโดยเฉพาะในโซนยุโรปมาตั้งแต่ปี 2024

และด้วยเหตุผลของการไม่ได้ไปต่อของรถคือการที่ทางค่ายไม่ยอมพัฒนาให้เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 999cc ข้องเหวี่ยง CP4 ของมันสามารถไปต่อกับมาตรฐานมลพิษระดับ Euro5+ ได้ จึงทำให้หลายคนยิ่งมองว่าเช่นนั้นทางค่ายคงไม่ยอมทำให้มันผ่านมาตรฐานมลพิษที่เข้มงวดในอนาคตได้อีก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านเงินทุนสำหรับการพัฒนา หรือข้อจำกัดของเครื่องยนต์ที่ไปต่อได้ยาก อย่างใดอย่างหนึ่งก็ตาม

แต่จากการให้ข้อมูลโดย Olivier Prévost ประธานบริหารสูงสุดของ Yamaha European กลับระบุว่า ด้วยความเป็นจริงที่เผยให้เห็นว่าผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจในการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าใดๆในตอนนี้แถมยังมีทีท่าว่าจะเป็นเช่นนั้นอีกนาน

ทำให้ท้ายที่สุดแล้วทาง Yamaha จึงหันไปให้ความสำคัญกับการพัฒนาขุมกำลังเครื่องยนต์สันดาปภายในต่อไปดังเดิม และหนึ่งในนั้นก็อาจจะรวมถึงการพัฒนาขุมกำลังเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงสำหรับรถซุปเปอร์ไบค์ที่ใครหลายคนคิดถึงด้วย

“เรื่องราวของ CP4 ยังไม่จบ ตอนที่เราตัดสินใจจะทำมัน (R1 ที่ให้มีแค่รุ่นลงสนามเท่านั้น ในตลาดที่เข้มงวดด้านมลพิษ) เงื่อนไขทางตลาดมันต่างไป(จากตอนนี้)มาก” Prévost กล่าว เพราะในช่วงเวลาราวๆปี 2023-2024 รัฐบาลยุโรปกำลังได้ใจในการบีบบังคับให้ผู้ผลิตต้องเข้มงวดกับการลดอัตราการปล่อยมลพิษ และบีบให้พวกเขาต้องเร่งพัฒนายานพาหนะขุมกำลังไฟฟ้า 100% ให้สอดรับกับเทรนด์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น

ซึ่งพอตัดภาพมาที่ในปัจจุบัน หลายคนเริ่มพบว่าการใช้งานยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าล้วนยังมีข้อจำกัดหลายประการ โดยเฉพาะในฝั่งรถมอเตอร์ไซค์ ที่ไม่สามารถใส่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ได้มากนัก ไม่ว่าจะด้วยข้อจำกัดด้านขนาดและน้ำหนักตัวที่ไม่ควรมากเกินไปจนทำให้ขี่ได้ยาก

เมื่อประกอบกับการที่ยอดขายของรถในตระกูล R7 และ R9 กลับไปได้ดีมากขึ้น ก็กลายเป็นว่าการมีพี่ใหญ่อย่าง R1 มาเป็นตัวชูโรงความเป็นที่สุดของสายอีกครั้งในตลาดโลก ย่อมเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไปโดยปริยาย

“ด้วยอัตราการเติบโตของรถสปอร์ตไบค์คลาสกลางทำให้การทำรถซุปเปอร์ไบค์ไซส์ใหญ่เริ่มมีหนทางสว่างมากขึ้น” Prévost กล่าว “ตอนนี้เรากำลังพิจจารณากันใหม่ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำ ดังนั้นเราจึงต้องมาคิดกันอีกครั้งว่าจะทำร่างวิ่งถนนได้จริง (ของ R1 ที่ผ่านมาตรฐานมลพิษจนขายทั่วโลกได้จริงๆ) อย่างไรได้บ้าง สำหรับตอนนี้เรายังต้องใช้เวลา ถ้าเราจะกลับมาจริงๆ เราต้องมั่นใจว่าเราจะทำมันได้ดี”

“เพราะถ้าจะให้กลับมาขายด้วยการเป็นแค่ R1 ร่างปัจจุบันที่ถูกปรับปรุงให้ผ่านมาตรฐาน Euro5+ มันก็ยังไม่พอ เราต้องทำอะไรที่ใหม่กว่านั้น สำหรับผมมันต้องมีการอัพเกรดด้านพละกำลัง การควบคุม และทุกสิ่งอย่างที่ถ่ายทอดมาจากสนามแข่งขันด้วย”

Source Cr.: MCN

อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Yamaha เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish