หากมีคำถามว่า “คุณชอบรถสปอร์ตบิ๊กไบค์รุ่นไหน” หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ Ducati Panigale อยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน เพราะด้วยรูปทรงที่ออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ เส้นสายความสวยงามแฝงความหรูหราสะดุดตาตั้งแต่แรกพบ เปรียบได้ดั่งฝั่งรถยนต์เฟอร์รารี่ก็ไม่ปาน ถ้าหากเป็นรถสีแดงจอดคู่กันพาลจะคิดเอาว่าใช้ทีมออกแบบทีมเดียวกันซะอีก

Ducati 959 Panigale รหัสเจเนอเรชั่นใหม่บทพิสูจน์ความต่างของ 899 Panigale

เครื่องยนต์ 
เครื่องยนต์ Superquadro 2 สูบ L-Twin 955 ซีซี ทางโรงงานเคลมแรงม้าอยู่ที่ 157 แรงม้า ที่ 10,500 รอบต่อนาที (มากกว่ารุ่น 899 อยู่ 6%) แรงบิด 107.4 นิวตันเมตร ที่ 9,000 รอบต่อนาที (มากกว่ารุ่น 899 อยู่ 8%) สำหรับข้อมูลแบบเจาะลึกนั้น แสดงให้เห็นถึงสัดส่วนกำลังอัดอันโหดร้ายไม่ใช่เล่น 12.5 : 1 (100 mm. Bore/60.8 mm. Stroke) ลูกสูบใหญ่ขึ้นและช่วงชักที่สั้นลง และขนาดวาล์วก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน 41.8 มิลลิเมตร สำหรับไอดี และ 34 มิลลิเมตร สำหรับไอเสีย ถือว่าขนาดของมันใหญ่โตมากๆ

โครงสร้างตัวรถ
959 Panigale ใช้นวัตกรรมที่เรียกว่า Monoscocca ในการสร้างเฟรม Monocoque โดยเป็นการทำโครงสร้างที่หล่อขึ้นมาด้วยอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ในชิ้นส่วนหลักด้านหัวนั้นเป็น Airbox ดักอากาศ และเป็นที่อยู่ของกรองอากาศไปในตัว รวมถึงชุดหัวฉีด ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่ทำให้ 959 Panigale มีน้ำหนักเบากว่ารถ Superbike ของ Ducati รุ่นก่อนหน้านี้

ระบบอิเล็คทรอนิกส์ 
แน่นอนว่าพ่อรูปหล่อคนนี้ พกอุปกรณ์ไฮเทคใส่กระเป๋ามามากมายด้วยเช่นกัน 959 Panigale มาพร้อมกับคันเร่งไฟฟ้าแบบ Full ride by Wire ซึ่งทำให้การควบคุมคันเร่งทำได้ง่าย และราบรื่นกว่าคันเร่งสายอยู่มาก และเข้ากับโหมดต่างๆที่สามารถเลือกในแต่ละสภาพเส้นทาง บนถนนที่หลากหลายของเมืองไทย โดยระบบนี้ยังเกี่ยวข้องกับ ระบบเบรค EBC และระบบ Traction Control ที่ทาง Ducati เรียกว่า DTC อีกเช่นกัน

ซึ่งโหมดการขับแบ่งออกเป็น 3 โหมดคือ Race , Sport , Wet โดยในแต่ละโหมดที่ผู้ขับขี่เลือก ยังสามารถเซทค่าต่างๆได้อย่างอิสระเพื่อตอบสนองความต้องการได้ดียิ่งขึ้น

ระบบช่วงล่าง
โช้คอัพด้านหน้ารับหน้าที่โดย Showa ขนาด 43 มิล. ซึ่งสามารถปรับเซ็ทได้แบบเต็มระบบ ส่วนโช้คอัพด้านหลังเป็นของยี่ห้อ Sachs ซุกอยู่ด้านซ้ายของตัวรถบริเวณขาผู้ขับขี่ สวิงอาร์มในรุ่น 959 นั้นขยับจุดหมุนต่ำลงจากรุ่น 899 อยู่ 4 มิลลิเมตร และยืดระยะห่างฐานล้อเพิ่มอีก 5 มิลลิเมตร

ระบบเบรค
อุปกรณ์ที่ใส่มาให้กับรถยี่ห้อ Brembo ไม่ว่าจะเป็นปั้มเบรคบน คาลิเปอร์ล่าง M4 ประกบจาน Semi Floating ให้ความมั่นใจกับเจ้าของรถได้เป็นอย่างดี สังเกตว่าสายถักติดรถนั้นไม่ได้ใช้แบบยางทั่วๆไป คือใส่แบบสแตนเลสมาให้โดยไม่ต้องไปเสียเงินซื้อของ After Market เพิ่ม นอกเสียจากคุณอยากจะใส่ปลอกหุ้มสีเจ็บๆแบบวัยรุ่น

ท่อไอเสีย

เนื่องจากรถที่ทาง Ducati Thailand เตรียมให้ทีมงาน MotoWish ทดสอบนั้นเป็นรุ่น 959 Panigale Track EVO Version ซึ่งมาพร้อมชุดท่อแต่งยี่ห้อ Akrapovič Slip-on Titanium/Carbon

ไม่ต้องแปลกใจหากท่อเดิมติดรถไม่ถูกใจใครบางคน เนื่องจากรถ พ.ศ.นี้ จำเป็นต้องผ่านมาตรฐานค่ามลพิษ Euro4 ซึ่งกวดขันเข้มงวดเฉพาะรถใหม่ แล้วรถเมล์รถสิบล้อเก่าๆหล่ะ !!!!

ตำแหน่งแฮนด์และสวิทช์ปรับต่างๆ แผงคอบนเจาะรูเพื่อลดน้ำหนักสไตล์เรสซิ่ง สังเกตแฮนด์ยึดที่ใต้แผงคอ ลักษณะขายึดยังมีการออกแบบใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ

เบาะคนขี่ไม่หนาและไม่บางจนเกินไป แต่เบาะคนซ้อนนี่ซิ !!! คือถ้าใครมีแฟนซ้อนแล้วออกทริปก็คงสงสารปนทรมานกันเลยทีเดียว

TEST TEST ลั่นซิจะรออัลไลล !!!

การคอนโทรล 
สัมผัสแรกหลังการขึ้นคร่อมรถคือ มิติตัวรถ เพรียวบางเล็กกว่ารถสปอร์ตคลาสพันทั่วๆไป จนรู้สึกเหมือนกำลังคร่อมรถญึ่ปุ่นพิกัด 600 ซีซี และท่านั่งอันเป็นเอกลักษณ์ของ Superbike ที่ทาง Ducati สร้างขึ้นจะไม่ค่อยแตกต่างกันมากนักในแต่ละรุ่น มุมของแผงคอบังคับให้องศาท่านั่งควบคุมรถได้ง่ายในเวลาเลี้ยว แต่แน่นอนว่าท่านั่งที่ควบคุมรถได้ง่ายนั้น ย่อมทำให้เกิดความเมื่อยล้าจากแผ่นหลังเช่นกัน ดังนั้นคนที่มีความสูงมากจะต้องก้มตัวมากกว่าปกติ องศาของแฮนด์ให้อารมณ์แบบเรสซิ่งดีทีเดียว

การที่ใช้ระบบคันเร่งแบบ Full ride by Wire ทำให้ควบคุมการขับขี่รู้สึกแตกต่างจาก Superbike รุ่น 848 , 1098 , 1198 อย่างเห็นได้ชัด และช่วงท้ายของถังน้ำมันแคบกว่าทำให้ช่วงหัวเข่าไม่ต้องกางเยอะเวลาเลี้ยวรถ ทำให้รู้สึกหนีบถังน้ำมันได้อย่างมั่นใจ

การตอบสนองของเครื่องยนต์

ถึงแม้ Ducati จงใจออกแบบรถรุ่น 959 Panigale ให้เป็นมิตรกับผู้ขับขี่ในการเลี้ยวเข้าโค้ง แต่ด้วยเครื่องยนต์สไตล์ L-Twin ที่มีอาการกระตุกเล็กน้อยในรอบต่ำๆ หากคนขี่เคยชินกับเครื่องยนต์แบบสูบเรียง อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับคันเร่งของรถสักพัก วิธีการขี่คือแบบต้องกล้าๆเดินคันเร่งเลย ถ้าคลอๆคันเร่งอาจจะกระตุกๆไม่ออกจากโค้งสักที และเวลากดคันเร่งรอบเครื่องยนต์ถึงช่วงเรดไลน์จะมีอาการดึงมากกว่าเครื่องยนต์แบบสูบเรียง คือแบบพอลากรอบเกือบสุดต้องเปลี่ยนเกียร์ทันที เพื่อให้ความเร็วเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ส่วนสลิปเปอร์คลัชต์ช่วยในการเปลี่ยนเกียร์ได้ดี

การตอบสนองช่วงล่าง และระบบเบรค

ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังทำงานได้ดีมาก ให้ความหนักแน่นแต่นุ่มนวล ทีมงานลองปรับเซ็ทโช้คหน้าหลังให้แข็งขึ้นไปอีกหลายสเตป เพื่อขี่ทดสอบแบบกดคันเร่งเต็มที่ก็ให้ผลตอบสนองเป็นที่น่าพอใจ ส่วนระบบเบรค Brembo ทั้งระบบก็สยบม้าระดับ 157 ตัว ให้อยู่ในมือได้อย่างง่ายดายแบบมั่นใจ ระบบเบรค ABS ให้ฟิลลิ่งได้ดีมากเนื่องจาก 959 ใช้กล่องคอนโทรลของ Bosch

กันสะบัดติดรถก็คือของติดรถนะ ตอบสนองได้ในระดับนึง หากคุณไม่ได้เป็นประเภทมือหนักขี่สไตล์กระแทกคันเร่งพลันจะเหินออกจากโค้งก็สุดแท้แต่จะเปลี่ยนหรือไม่

ยางติดรถ Pirelli Diablo Rosso Corsa ถือว่าเป็นยางที่ใช้ขับขี่ได้ทั้งบนถนน และสนามอย่างมั่นใจตามมาตรฐานของแบรนด์นี้

เปรียบเทียบกับ 899 Panigale

959 ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจาก 899 ได้เติมสิ่งที่ 899 ควรจะมีคือความแรงในรอบกลางและสูง ซึ่งดูคาติก็ทำได้ดีแล้วแต่ยังเหมือนมีไม่มากพอ โดยในช่วงออกจากโค้งเราคาดหวังว่าจะเจอแรงทอร์คขนาดที่ทำให้เราต้องเกร็งแขนรอ ซึ่งบุคคิลความแรงของตัวรถนั้นอาจจะเพียงพอแล้วสำหรับมือใหม่ที่ขยับมาจาก Entry Class แต่ถ้าหากคุณเป็นมือเก๋าเกมส์แล้วละก็ควรไปจบที่รุ่น 1299 จะเหมาะกว่า แต่ก็ต้องเพิ่มเงินอีกหนักหน่วง

ข้อดี

• ความหล่อหรูนี่แบบว่า…บริโภคขาด
• เครื่อง Superquadro ประหยัดการบำรุงรักษาในส่วนของการใช้โซ่ราวลิ้นแทนสายพาน และระบบคลัชต์แบบเปียก
• ช่วงล่างและระบบเบรคดีมาก
• เหมาะสำหรับคนตัวเล็กเป็นอย่างยิ่ง

ข้อแนะนำ

• แรงม้ามีน้อยเมื่อเทียบกับราคา
• อะไหล่และค่าบำรุงรักษาราคาสูง
• ไม่เหมาะกับคนซ้อนท้าย เบาะเล็กและท้ายสูงมาก

สเป็ค Ducati 959 Panigale

เครื่องยนต์

ตัวถัง และช่วงล่าง

ขนาด และมิติรถ

MotoWish ขอขอบคุณ

Ducati Vibhavadi

อ่านข่าว Ducati เพิ่มเติมได้ที่นี่

อ่านข่าว Reviews เพิ่มเติมได้ที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish