Home  »  Reviews   »   รีวิว รถไฟฟ้าแบรนด์คนไทย EM รุ่น Milano 4,000 วัตต์ วิ่งไกล 100 กม. กันน้ำ IP6+

รีวิว รถไฟฟ้าแบรนด์คนไทย EM รุ่น Milano 4,000 วัตต์ วิ่งไกล 100 กม. กันน้ำ IP6+

สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจกับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากค่ายจีน ลองเปิดใจและสนับสนุนผู้ผลิตแบรนด์คนไทยด้วยกัน “EM Motor” นั้นมีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศไทยมากถึง 600 กว่าแห่ง พร้อมทั้งศูนย์บริการกว่า 180 สาขา และยังมี Call Center พร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง และตั้งเป้าวางแผนเพิ่มสถานีชาร์จให้ได้มากถึง 200 แห่ง รวมทั้งสามารถชาร์จได้กับรถทุกแบรนด์ได้อีกด้วย แถมรับประกันคุณภาพสูงสุดถึง 5 ปี*

สำหรับรถ EM Motor รุ่น Milano (มิลาโน่) ที่จะมารีวิวในครั้งนี้มีจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือ สีดำ (Black Knight) และ สีขาว (White Paladin) ส่วนราคาขายและโปรโมชั่นจะเปิดตัวในงาน Motor Expo 2025 สิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ และสำหรับพี่ๆไรเดอร์ที่สนใจรุ่นนี้ สามารถนำไปจดทะเบียนป้ายเหลืองได้ด้วย!!

รูปทรงภายนอก

ดีไซน์รถภายนอกโดยรวมออกไปสไลต์ยุโรปผสมผสานเส้นสายออกแนวเหลี่ยมคมโฉบเฉี่ยวดูร่วมสมัย ระบบไฟส่องสว่างแบบ LED ทั้งคัน และมีไฟ Daylight ที่บังลมด้านหน้าทั้งซ้ายและขวา ให้ความสว่างตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย

หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิตอลขนาด 14.5 ซม. แสดงผลครบทุกฟังก์ชั่นในการใช้งาน

โหมดการขับขี่เลือกได้ 3 รูปแบบ

  • Mode 1 โหมดประหยัด : ทำความเร็วสูงสุดได้ 50+ กม./ชม. (แรงบิดน้อยสุด)
  • Mode 2 โหมดมาตรฐาน : ทำความเร็วสูงสุดได้ 60+ กม./ชม. (แรงบิดปานกลาง)
  • Mode 3 โหมดสปอร์ต : ทำความเร็วสูงสุดได้ 80+ กม./ชม. (แรงบิดมากสุด)

 

(ความเร็วสูงสุดในแต่ละโหมดการขับขี่ ขึ้นอยู่กับแบตเตอรี่คงเหลือ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของรถจะเข้าสู่เซฟโหมด เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ทำให้ได้ระยะทางในการขับขี่มากที่สุด หากแบบเตอรี่เหลือน้อย)

สวิทช์ฝั่งซ้าย : สวิทช์ไฟสูงต่ำ, ไฟเลี้ยวแตร, ครูสคอนโทรล (ล็อคความเร็วคงที่)

 

สวิทช์ฝั่งขวา สวิทช์ฉุกเฉิน, P (Park จอด / ปลดล็อคการจอด) , MODE เลือกโหมดการขับขี่ , ปุ่มเซอร์วิส

ส่วนที่แขวนของช่วงระหว่างขา เป็นแบบดันกดค้าง สามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 1.5 กิโลกรัม

ช่องเก็บของด้านหน้า ขนาดพอประมาณ สามารถกันน้ำได้ด้วย!!

เปิดใต้เบาะรถดูกันว่ามีอะไรบ้าง ตรงส่วนนี้จะเป็นคัตเอาท์ตัดระบบไฟ เพื่อสับสวิทช์ก่อนถอดแบบเตอรี่นำออกไปชาร์จ

สายไฟเมนหลักแบรนด์ EM Motor รุ่น Milano เลือกใช้ขนาดใหญ่หุ้มฉนวนอย่างดี

ปลั๊กและข้อต่อทุกตัวจะมีซิลิโคลนกันน้ำเพื่อความปลอดภัย

  • เซ็นเซอร์ขาตั้ง มีระบบป้องกันน้ำเพื่อความปลอดภัย
  • เบาะนั่งออกแบบล้กษณะ 2 ตอน นั่งกระชับหนานุ่มสบาย ทั้งคนขี่และคนซ้อน
  • ความสูงจากพื้นที่เบาะนั่ง 75 ซม. ผู้ขับขี่ความสูง 160 ซม. ถือว่าผ่านสบายๆ
  • ส่วนความสูงจากพื้นถึงตัวรถมีระยะ Ground Clearance สูง 17 ซม.

ระบบช่วงล่างโช้คอัพหน้าเทเลสโคปิค ขนาดใหญ่ 30 มิลลิเมตร เทียบเท่ารถน้ำมันทั่วไปขนาด 125-150 cc. และด้านหลังเป็นแบบโช้คอัพคู่

EM Motor รุ่น Milano ใช้ระบบดิสก์เบรคหน้าหลัง พร้อมติดตั้งระบบ CBS (Combi Brake System) กระจายแรงเบรคระหว่างล้อหน้าล้อหลัง โดยอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัยมากขึ้น

พักเท้าคนซ้อน ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายเป็นอย่างยิ่ง มีปุ่มกดกระเด้งดีดออกเมื่อใช้งาน ทำให้ไม่ต้องใช้มือไปจับ และยังออกแบบจุดยึดตำแหน่งเดียวกับเฟรมรถเพิ่มความแข็งแรงในการใช้งานระยะยาวอีกด้วย

มอเตอร์แบบ Hub Motor ไฟฟ้ากำลังสูง 4,000 วัตต์ กันน้ำผ่านมาตราฐาน (IP6+) และลุยน้ำท่วมได้ไม่ต่ำกว่า 30 ซม. ตามมาตราฐานที่กำหนดไว้ของ สมอ. ประเทศไทย ส่วนการชาร์จไฟนั้นใช้ระบบ AC

แบตเตอรี่แบบ ลิเธียมไอออน มาตรฐานมอก.และ UNR136 ที่วางอยู่ใต้เบาะนั่งมีจำนวน 1 ก้อน ขนาดความจุ 72V / 44Ah น้ำหนักแบตเตอรี่ 10 กก.

ยางติดรถยี่ห้อ ND Rubber รุ่น Beckham ขนาดยางหน้า 90/90-12 M/C Load/Speed 54J ขนาดยางหลัง 110/70-12  Load/Speed 47L ขนาดล้อ 12 นิ้ว ยางรุ่นนี้ถูกออกแบบและพัฒนามาสำหรับ ผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์หนักทุกวัน ทนทานด้วยโครงสร้างของเนื้อยางที่แข็งแรง แต่ยังคงการยึดเกาะถนนได้อย่างดี

เริ่มทดสอบการขับขี่จริง

ก่อนขี่ก็บิดสวิทช์กุญแจไปที่ ON ใช้นิ้วโป้งขวากดปุ่ม “P” เพื่อให้หน้าจอเปลี่ยนจาก “Park จอด” ขึ้นคำว่า “Ready พร้อมขับขี่” จากนั้นเลือกโหมดการขับขี่ที่ต้องการ เรามาเริ่มกันที่ Mode 1 โหมดประหยัด : (แรงบิดน้อยสุด) เพื่อทำความคุ้นเคยกับคันเร่งของรถไฟฟ้าก่อน

 

ลองกดคันเร่งเต็มที่ความเร็วสูงสุดก็ได้ตามที่เคลมไว้ประมาณ 50 กว่า กม./ชม. และใน Mode 2 ความเร็วก็ทำได้ 60 กว่า กม./ชม.ในทางระนาบ

 

พอลองเปลี่ยนมาใช้ Mode 3 (แรงบิดมากสุด) จังหวะตอนเปิดคันเร่งระหว่างขับขี่แรงบิดดึงเอาเรื่องทีเดียว ช่วงแรกๆจะมีเหวอเล็กน้อย ตอนขี่ขึ้นเขาช่วงทางชันรถไปได้แบบสมูทๆขึ้นเขาสบายหายห่วง และทางระนาบก็สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 80+ กม./ชม. ตามที่เคลมไว้เช่นกัน แต่ช่วงปลายๆความเร็วอาจจะขึ้นช้ากว่าช่วงต้นๆหน่อยแค่นั้นเอง

การคอนโทรล

ฟิลลิ่งการขับขี่ เทสไรเดอร์ความสูง 170 ซม. โพซิชั่นท่านั่งและการวางเท้าโดยรวมไม่ติดปัญหาอะไร เบาะนั่งออกมาแบบได้กระชับนั่งสบายดีทีเดียว ส่วนแบตเตอรี่ที่วางตำแหน่งอยู่ใต้เบาะนั่งผู้ขับขี่นั้น ทำให้ CG อยู่กลางตัวรถด้านบน ครั้งแรกในการขับขี่ต้องลองใช้ความคุ้นเคยนิดนึง จังหวะในการเลี้ยวรถเร็วๆรถค่อนข้างจะพลิกได้ไว บวกกับคันเร่งถ้าใช้ Mode 3 ฟิลลิ่งก็จะออกแนวซิ่งๆหน่อย

ระบบเบรค

EM Motor รุ่น Milano ใช้ระบบดิสก์เบรคหน้าหลัง มาพร้อมระบบ CBS คอมบายเบรค กระจายแรงเบรค ฟิลลิ่งการเบรคถือว่าทำได้ดีเกินคาดสำหรับรถที่มีแรงบิดขนาดนี้ จะเบรกหนักแบบหยุดรถกระทันหันเมื่อมีรถตัดหน้า หรือเบรคเบาๆ ก็ให้ฟิลลิ่งนุ่มนวลและคอนโทรลจังหวะการขับขี่ได้ดีทีเดียว

ระบบกันสะเทือนและช่วงล่าง

สำหรับช่วงล่างนั้นให้ฟิลลิ่งออกไปทางแน่นๆไม่ได้นิ่มย้วย ช่วงยุบจะไม่เยอะเท่าไรทำให้ฟิลลิ่งการขับขี่เหมือนรถแต่งซิ่งนิดๆ จังหวะสาดเทเข้าโค้งไปเร็วๆรถให้การทรงตัวได้ค่อนข้างนิ่ง แต่เวลาช่วงตกหลุมใหญ่ๆบางจังหวะอาจจะมีสะท้านบ้างเป็นธรรมชาติของรถที่เซ็ตติ้งไปทางแข็งเล็กน้อย

บทสรุป

รถไฟฟ้า “EM Motor” รุ่น Milano (มิลาโน่) แบรนด์คนไทย โดยรวมวัสดุชิ้นส่วนและการประกอบรวมทั้งของติดรถที่ให้มาถือว่า “ตั้งใจทำ” ให้คนไทยได้ใช้ของดีกันเลย เหลือแค่ราคาที่จะเปิดขายว่าเท่าไร?? ส่วนเรื่องตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการถือได้ว่าครอบคลุมขายแบบ “ไม่ทิ้งกัน” แน่นอน!!

ข้อดี

  • มอเตอร์ขนาด 4,000 วัตต์ ให้อัตราเร่ง และตอบสนองการใช้งานได้ครอบคลุมทั้งวัยรุ่น และคุณแม่บ้าน
  • ระบบเบรคดีมาก ไม่ต้องใส่ของแต่งเพิ่มให้เสียเงิน
  • ดีไซน์รถสวยดูร่วมสมัย
  • รับประกันคุณภาพสูงสุด 5 ปี*

 

ข้อแนะนำ

  • แบตเตอรี่มีน้ำหนักพอสมควร หากผู้ใช้เป็นผู้หญิงแล้วต้องยกเข้าออก

 

  • ราคาวางจำหน่าย ณ เดือนพฤศจิกายน 2025
  • ราคาพิเศษช่วงเปิดตัวปกติ 79,600 บาท 
  • ส่วนลดมาตรการรัฐ EV 3.0 เหลือเพียง 59,900 บาท เท่านั้น
  • ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นตัวแทนจำหน่าย
  • ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
  • ค้นหาตัวแทนจำหน่าย สนใจสั่งซื้อ / สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม EM Motor

อ่านข่าว Reviews เพิ่มที่นี่


 

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish



ห้ามคัดลอกบทความหรือเนื้อหาในเว็บ Motowish