Home  »  Reviews   »   รีวิว Honda New Forza 750 vs New X-ADV 750 เลือกคันไหนดี?? คุ้มค่าหรือไม่กับการรอคอยมากว่า 3 ปี

รีวิว Honda New Forza 750 vs New X-ADV 750 เลือกคันไหนดี?? คุ้มค่าหรือไม่กับการรอคอยมากว่า 3 ปี

นาทีนี้เป็นช่วงขาขึ้นของบรรดาบิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับ 350 ซีซี ขึ้นไป เรียกได้ว่าเป็นกระแสต่อเนื่องตั้งแต่หลายปีก่อนข้ามมาจนถึงปีนี้ แถมยังมีค่ายจีนบุกมาร่วมวงแบ่งเค้กกันไปอีก แต่ก็ยังมีลูกค้าระดับบนที่มีเงินแช่อยู่ในบัญชีจนดอกเบี้ยล้นออกมานอกประตูธนาคาร ชวนพองเพื่อนเหล่าบรรดาผู้ชื่นชอบการแต่งรถที่ถึงจุดอิ่มตัวกับเครื่องบล็อกเล็ก อยากจะออกไปแตะขอบฟ้าเป็นที่สุดของสายสกู๊ตเตอร์ ก็ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตารอว่าเมื่อไรไทยฮอนด้าจะเปิดตัว New Forza 750 ซีซี เสียที!!

 

และเมื่อรถ New Forza 750 2025 ล็อตแรกเดินทางมาถึงท่าเรือประเทศไทยช่วงต้นปีก่อนงานมอเตอร์โชว์ 2025 เมื่อเดือนมีนาคม บจ.ไทยฮอนด้า ก็ได้จัดการเปิดตัวในงานพร้อมประกาศราคาขายที่ 419,000 บาท และรับจองพร้อมกำหนดส่งมอบรถให้กับลูกค้าล็อตแรกภายในเดือนพฤษภาคม

 

ส่วนรุ่น  New Honda X-ADV 750 เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 10 มีนาคม มาพร้อมคอนเซป “LIVE THE UNEXPECTED LIFE” ประกาศราคา รุ่น Standard ราคาแนะนำ 433,000 บาท , และ Special Edition สีเหลืองดำ ราคาแนะนำที่ 438,000 บาท

ไทยฮอนด้า จัดกิจกรรมพร้อมเชิญสื่อมวลชนชั้นนำทั้ง อินฟลูเอนเซอร์ ยูทูปเบอร์ เข้าร่วมทดสอบในทริปเทสรถ กรุงเทพฯ – เขาใหญ่ – บุรีรัมย์ – ลงแทรคสนามช้างฯ เซอร์กิต 3 วัน 2 คืน เรียกได้ว่าจัดเต็มสมชื่อ “750 Series Big Scooter Best in Class”

 

เริ่มต้นเช้าวันศุกร์ที่ 9 พ.ค. เจอกันที่ ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ถ.รามคำแหง สำหรับรถ Honda New Forza 750 และ New X-ADV 750 ในครั้งนี้เป็นรถใหม่เดโมทั้งหมดที่ได้รันอินแล้วเพื่อใช้ในการทดสอบ

สำหรับการทดสอบรถในครั้งนี้ เทสไรเดอร์ โมโตวิช เป็นกลุ่มแรกที่ได้เริ่มต้นขี่จาก กรุงเทพฯ – เขาใหญ่

รูปทรงภายนอก

ดีไซน์เน้นเส้นเหลี่ยมคมดูสปอร์ตทันสมัย ด้านข้างตัวรถทั้งหมดดูไม่แตกต่างจากตัวโมเดลก่อนหน้านี้ที่ เทสไรเดอร์ได้ไปทดสอบที่ประเทศอิตาลีเมื่อปี 2023 จุดที่เปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดคือ ด้านหน้าของตัวรถที่ดูโฉบเฉี่ยวขึ้นกว่าเดิม

จุดที่เปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดคือ ไฟหน้าและแฟรริ่งด้านหน้าของตัวรถที่ดูโฉบเฉี่ยวขึ้นกว่าเดิม โดยไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์และมีไฟ DRL (Daytime Running Lights) พร้อมไฟเลี้ยวในตัว ซึ่งมีการออกแบบเลนส์มัลติรีเฟลกเตอร์ในกรอบสีดำเพื่อเน้นให้ไฟ DRL เด่นชัดยิ่งขึ้น

                        New Forza 750   vs   New X-ADV 750   vs   New Forza 350    

มิติตัวรถ

(กxยxส)      790 x 2,200 x 1,485    940 x 2,200 x 1,475    754 x 2,147 x 1,507

ความสูงถึงเบาะ           790                                790                             780

ระยะฐานล้อ                1,580                             1,580                          1,510

น้ำหนัก                        235                               236                              187

 

ระยะห่างจากพื้น  :   135 มิลลิเมตร

ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง  : 13.2 ลิตร

โพซิชั่นท่านั่ง

เทสไรเดอร์ความสูง 170 ซม. เวลารถจอดนิ่งก็เอาขาลงพื้นได้ประมาณครึ่งฝ่าเท้า อันนี้ไม่ได้เอียงก้นช่วยนะ ตามสไตล์รถบิ๊กสกู๊ตเตอร์เบาะนั่งต้องกว้างรับแก้มตูดจะได้สบายเวลาขี่ออกทริปยาวๆ ตำแหน่งแฮนด์บาร์แคบกว่า New X-ADV 750 ข้างละประมาณหนึ่งฝ่ามือ

 

ก่อนออกเดินทางไปเขาใหญ่ ทางไทยฮอนด้าให้ทำความคุ้นเคยกับตัวรถกันก่อนโดยการขับในสนามฝึกขับขี่ปลอดภัย

เครื่องยนต์

 

แบบ 2 ลูกสูบเรียงขนาด 745 ซีซี จุดระเบิด 270 องศา พละกำลัง 58.7 แรงม้าที่ 6,750 รอบต่อนาที (โมเดลเก่า 57.7 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 69 นิวตันเมตรที่ 4,750 รอบต่อนาที ส่วนเรดไลน์เริ่มต้นที่ 7,000 รอบต่อนาที พร้อมระบบคันเร่งไฟฟ้า Throttle By Wire (TBW) และแน่นอนผ่านมาตรฐาน EURO 5+

ระบบเกียร์แบบ DCT (Dual Clutch Transmission) 6 สปีด สามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบแมนนวล และแบบอัตโนมัติ สำหรับในโมเดลปี 2025 นี้ นับรวมตั้งแต่เริ่มต้นฮอนด้าได้พัฒนาระบบ DCT มาอย่างยาวนานมากกว่า 17 ปีแล้ว 

ระบบอิเล็กทรอนิกส์ 

 

ฟีเจอร์และเทคโนโลยีที่ใส่มากับ New Honda Forza 750 มากมายไม่ว่าจะเป็น จอแสดงผลสี TFT ขนาด 5 นิ้ว เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ , ระบบ Honda Selectable Torque Control (HSTC) เพื่อการยึดเกาะที่ดีขึ้น สามารถปรับได้ 3 ระดับ

 

โหมดการขับขี่มีให้เลือกถึง 4 โหมด (Riding Mode)

  • โหมด Standard เครื่องยนต์ออกแบบมาให้สร้างความสมดุลในเรื่องการส่งกำลังของเครื่องยนต์ และระบบเบรกให้อัตโนมัติ เหมาะกับการขับขี่ทั่วไป
  • โหมด Sport เครื่องยนต์ออกแบบให้ตอบสนองไว พร้อมระบบเบรกที่ตอบสนองการทำงานได้ดีขึ้น
  • โหมด Rain เหมาะกับการขับขี่ในสภาพถนนเปียก หรือฝนตก โดยเครื่องยนต์ปรับกำลังระบบ HSTC และระบบเบรก (ABS) ให้เหมาะสมกับสภาพถนนที่เปียกลื่น
  • โหมด User ที่ผู้ขับขี่สามารถปรับกำหนดเองได้ทั้ง ระบบเบรก ระบบส่งกำลัง และ HSTC อยากจะปรับตั้งค่าอะไร ก็แล้วแต่ผู้ขับขี่อยากจะปรับแต่งเอง

สวิทช์ฝั่งซ้าย : Mode , Fn , ไฟเลี้ยว , แตร , ไฟฉุกเฉิน , ปุ่มปรับ 4 ทิศทาง , สวิตซ์เปลี่ยนเกียร์ (+) (-)

 

สวิทช์ฝั่งขวา Start / Stop , เกียร์ N , เกียร์ D , เลือกระบบเกียร์แบบ Auto / Manual

 

  • ที่เห็นเป็นแท่งๆก้านสีดำ อยู่ด้านหน้าปั้มเบรกฝั่งขวา คือ เบรกมือนั้นเอง
  • ชุดสวิทช์ หน้าตาและรูปแบบเหมือนกับรุ่น X-ADV 750
  • ก้านเบรคสามารถปรับระดับได้
  • สวิทช์สตาร์ทอยู่ตรงกลางคอนโซล และมีปุ่มกดด้านล่าง
  • ปุ่มกดด้านล่างซ้าย คือ FUEL เปิดฝาเติมน้ำมัน
  • ปุ่มกดด้านล่างขวา คือ SEAT เปิดเบาะนั่ง
  • (แค่พกรีโมทติดตัวไว้ใกล้รถ ก็สามารถกดเปิดได้เลย)

ระบบกันสะเทือนและช่วงล่าง

 

โช้คอัพหน้าหัวกลับจาก SHOWA รหัส SFF-BP ที่มีใส่อยู่ในรถบิ๊กไบค์หลายๆรุ่น ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 41 มิลลิเมตร มีระยะยุบที่ 120 มิลลิเมตร โช้คฝั่งขวาซับแรงการยุบตัว โช้คฝั่งซ้ายลดแรงการคืนตัวของโช้ค โครงสร้างลูกสูบขนาดใหญ่เพื่อความมั่นคงทุกสภาวะการขับขี่

 

ระบบเบรกหน้าเป็นดิสก์เบรกคู่ขนาด 310 มิลลิเมตร เรเดียลเมาท์ คาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบ Nissin พร้อมระบบ ABS แบบ 2 Channel ทั้งหน้าและหลัง

 

ล้ออลูมิเนียม High Quality สไตล์สปอร์ตแบบ 9 ก้าน ล้อหน้าขนาด 17 นิ้ว ส่วนล้อหลังขนาด 15 นิ้ว

โช้คอัพหลังเป็น Monoshock ขนาดแกน 14 มิลลิเมตร แบบ Pro-Link ระยะยุบตัว 120 มิลลิเมตร สามารถปรับพรีโหลดได้ 10 ระดับ มาพร้อมสวิงอาร์มอลูมิเนียม HPDC (High Pressure Die Cast) หล่อขึ้นรูปด้วยแรงดันสูงแบบชิ้นเดียว ทำให้มีน้ำหนักเบา และโครงสร้างหน้าตัดรูปตัว U เพิ่มความแข็งแรงสามารถรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้การเกาะถนนเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ

เบรกหลังจานดิสก์เดี่ยวขนาด 240 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์แบบ 1 ลูกสูบ

 

ยางติดรถยี่ห้อ Bridgestone รุ่น Battlax Sport Touring T31 ยางหน้าขนาด 120/70R/17 M/C 58H ยางหลังขนาด 160/60R/15 M/C 67H แบบ Tubeless Radial

TEST  TEST !!

 

เตรียมตัวออกเดินทางไปยังเขาใหญ่ เทสไรเดอร์ปรับใช้โหมด Standard เป็นค่าเริ่มต้นก่อน แต่ยังไม่ได้ปรับชิลด์หน้าไฟฟ้าขึ้นนะ

ออกจากศูนย์ฝึกขับขี่ฮอนด้าไม่ทันไร ฝนตกซะงั้น!! เลยได้ลองเปลี่ยนไปใช้โหมด Rain ทันที จังหวะนี้เจอโค้งที่มีการทาสีป้องกันพื้นถนนลื่น (ซึ่งก็ลื่นกว่าไม่ทาสีอีก เวลาผ่านการใช้งานไปนานๆแล้ว)

 

เลยได้ลองเทสระบบ HSTC ของรุ่น New Forza 750 ล้อหลังตัดแก้อาการสไลด์ได้สมูทดีกว่ารุ่น Forza 350 สามารถเดินคันเร่งออกจากโค้งไปได้ค่อนข้างเนียน ไม่มีอาการกระตุกแบบรุนแรงให้เสียจังหวะการควบคุม

การคอนโทรล

 

โพซิชั่นท่านั่งอย่างที่เห็นในรูป เทสไรเดอร์สูง 170 ซม. น้ำหนัก 62 กิโลกรัม เบาะนั่งหนานุ่มกว้างโอบกระชับบล็อคก้น ท่านั่งขี่แบบหลังตรง ช่วงขายืดวางเท้าได้แบบสบายๆ รู้สึกได้ว่าถ้าคนขี่มีความสูงมากกว่านี้ และน้ำหนักตัวมากกว่ารถก็ยังรองรับได้พอสมควร

 

คันเร่งไฟฟ้ารุ่นนี้ให้ความรู้สีกกำลังพอดีๆคือ แบบไม่หนักมือและก็ไม่เบาหวิว ให้ฟิลลิ่งเหมือนคันเร่งแบบสายต้องออกแรงบิดนิดนึง จุดนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน

ชิลด์บังลมหน้าแบบไฟฟ้า สามารถปรับความสูงได้ 120 มิลลิเมตร โดยใช้สวิทช์แบบ 4 ทิศทางในการปรับ ชิลด์หน้าจะเลื่อนลงมาตำแหน่งต่ำสุดโดยอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์ และจะเลื่อนขึ้นอัตโนมัติไปยังตำแหน่งเดิมที่ตั้งไว้เมื่อบิดสวิทช์สตาร์ทรถอีกครั้ง

และแล้วก็มาถึงจุดแวะพักแรกก่อนจะเดินทางไปร้านอาหาร เพื่อเติมน้ำมันและสลับเปลี่ยนรถเป็น New X-ADV 750

สัมผัสแรกที่เทสไรเดอร์ได้ขึ้นคร่อม New X-ADV 750 รู้สึกได้ว่าแฮนด์กว้างมาก กว้างจนรู้สึกว่ามันจะกว้างเกินไปไหมถ้าซื้อไว้ใช้ขี่ในเมือง

อีกจุดหนึ่งที่รู้สึกได้ทันที คือ ตำแหน่งวางเท้าช่วงหน้ารถนั้นแคบกว่าของ New Forza 750 เวลาขี่แล้วรู้สึกเท้ามันล้นออกจากตัวรถ อันนี้แค่รู้สึกได้แต่ไม่มีปัญหาอะไรกับการคอนโทรลรถนะ

เนื่องจากเทสไรเดอร์มีโอกาสได้ลองขี่เจ้า New X-ADV 750 แค่ช่วงระยะทางสั้นๆเลยขอสรุปแบบย่อให้เข้าใจง่ายๆในข้อแตกต่างกับ New Forza 750

 

  • ถ้าขี่ถนนทางดำทางเรียบ New Forza 750 เข้าโค้งได้คมกว่า ความเร็วสูงเลี้ยวได้เร็วและนิ่งกว่า New X-ADV 750
  • ถ้าขี่ทางฝุ่นถนนลุยๆแน่นอนว่าช่วงล่าง New X-ADV 750 ทำได้ดีกว่า New Forza 750 และการพลิกรถโยกไปมาซ้ายขวาก็ทำได้ดีกว่าเช่นกัน
  • ท่านั่งของ New Forza 750 กับ New X-ADV 750 ไม่แตกต่างกันมาก มีแค่ช่วงแฮนด์ของ X-ADV ที่กว้างกว่า

การตอบสนองของเครื่องยนต์

 

ให้ความรู้สึกถึงแรงบิดตั้งแต่รอบเครื่องต่ำๆดึงแบบเอาเรื่องไปจนถึงราวๆประมาณ 5,000 รอบ/นาที จากนั้นแรงบิดจะรู้สึกช้าลงเล็กน้อย แต่ถ้าใช้ระบบเกียร์แบบแมนนวลบางจังหวะแรงบิดก็ดึงแบบสับเปลี่ยนเกียร์ไม่ทันเหมือนกันนะ

 

บางคนอาจจะมองว่าเครื่องบล็อคขนาด 750 ซีซี คิดว่ารอบเครื่องยนต์จะฟาดเร็วแบบรถซูเปอร์ไบค์ก็ไม่ได้นะ เพราะรถถูกออกแบบมาเป็นบิ๊กสกู๊ตเตอร์ ฉะนั้นต้องมีเรื่องของความเหมาะสมในการใช้งาน และความประหยัดน้ำมันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

 

ซึ่งจากการทดสอบทั้งหมดของสื่อในทริปนี้ สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 30-33 กม./ลิตร แล้วแต่บางคนว่าใช้ระบบเกียร์แบบออโต้หรือแบบแมนนวล

ช่วงถนนทางตรงยาวๆ เทสไรเดอร์มีโอกาสได้ลองกดท็อปสปีดทั้งแบบเกียร์ออโต้และแมนนวล New Forza 750 สามารถทำความเร็วได้ประมาณ 180+ กม./ชม. (กล่องล็อคความเร็ว) บนถนนพื้นระนาบ ส่วนถนนที่มีความลาดชันลงเขาทำได้ถึงเกือบ 200 กม./ชม. ที่รอบเครื่องประมาณ 6,800 รอบ/นาที (เรดไลน์ที่ 7,000 รอบ/นาที)

 

หลังจากลองกดท็อปสปีดรู้สึกได้ว่ารอบเครื่องยังไม่สุด และแรงบิดของเครื่องยนต์ยังมีอีกเหลือๆ ถ้าปลดกล่องแล้วรับประกันได้ว่าความเร็วปลายน่าจะไปถึง 220 กม./ชม. แน่นอน

ระบบอิเล็กทรอนิกส์ 

 

ดูจากภาพจะเห็นได้ว่าการทดสอบในครั้งนี้มีครบทุกสภาวะจริงๆ เทสไรเดอร์ก็เลยได้ลองใช้โหมดการขับขี่ครบทุกโหมดทั้ง Standard , SportRain , User โดยรวมถือว่าทางฮอนด้าทำออกมาได้ดีมีความยืดหยุ่นในการใช้งานครอบคลุม เพียงแต่ผู้ขับขี่ต้องศึกษาการใช้งานอย่างละเอียด เพื่อให้ใช้ระบบทุกอย่างได้อย่างคุ้มค่าและปลอดภัย

New Forza 750 มีระบบ Cruise Control ควบคุมล็อคความเร็วอัตโนมัติ ทำให้การออกทริปทางไกลสบายสุดๆ ดูจากท่าขี่เทสไรเดอร์ก็น่าจะรู้นะ

 

  • โดยการล็อคความเร็วอัตโนมัติจะสามารถใช้งานได้เมื่อ ความเร็วของรถถึง 50 – 160 กม./ชม.
  • ใช้ได้ตั้งแต่เกียร์ 3 – เกียร์ 6
  • การยกเลิกระบบอัตโนมัติ เมื่อผู้ขับขี่มีการใช้เบรก

ระบบกันสะเทือนและช่วงล่าง

 

ตัดภาพมาที่การลงแทรค สนามช้างฯ เซอร์กิต โช้คอัพหน้า-หลัง เซ็ตอัพมาค่อนข้างดีมาก สุดทางตรงไฮสปีดที่โค้ง 3 เทสไรเดอร์กดท็อปสปีดมาเกือบ 180 กม./ชม. เบรกแล้วโยนรถเข้าโค้งไปแบบไม่ต้องจัดท่าทางอะไรมากมาย รถเข้าโค้งไปแบบนิ่งๆไม่มีอาการสับหรือท้ายรถนิ่มย้วยออกนอกไลน์ ให้อารมณ์การขับขี่ฟิลลิ่งเหมือนรถบิ๊กไบค์ได้ดีทีเดียว

การกระจายน้ำหนักของรถทำได้ดีเรียกได้ว่าปล่อยมือขี่เข้าโค้งแบบเร็วๆได้สบายๆ

ส่วนโค้งแคบโลว์สปีดพลิกรถซ้าย-ขวา ต่อเนื่องรถจิกเข้าโค้งได้ดี แต่มีข้อสังเกตที่โช้คหลังเวลาขี่บนพื้นถนนไม่เรียบหรือตกหลุม ด้านท้ายรถจะมีอาการสะท้านเล็กน้อย อาจจะต้องลองปรับตั้งค่าโช้คดูอีกที

ระบบเบรก

 

การเบรกที่ความเร็วต่ำถึงปานกลางทำระยะหยุดได้ดีพอประมาณ ความรู้สึกในการกดเบรกไม่ได้นิ่มหรือแข็งจนเกินไป แต่ที่ความเร็วสูงมากๆอาจจะเผื่อระยะในการเบรกนิดหน่อย เพราะลักษณะของเครื่องยนต์เวลายกคันเร่งรถจะไหลไปต่อ ไม่ได้ดึงแบบรถที่มีเอนจิ้นเบรกมากนัก

ยางติดรถ

 

ยางติดรถยี่ห้อ Bridgestone รุ่น Battlax Sport Touring T31 เป็นยางที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อการใช้งานที่ครอบคลุมทั้งบนถนนแห้ง ถนนเปียกเน้นการรีดน้ำที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งอายุการใช้งานที่ยาวนาน ส่วนการขับขี่ในสนามนั้นสามารถเอียงรถเข้าโค้งได้แบบขาตั้งครูดกับพื้นเลยทีเดียว การเปิดคันเร่งแรงๆออกจากโค้งไม่มีอาการสไลด์ให้การยึดเกาะผิวแทรคได้ดี

บทสรุป

New Forza 750 / X-ADV 750 โมเดลล่าสุดปี 2025 บอกเลยว่ารถขี่ดีทั้งคู่ แต่อยู่ที่การเลือกไปใช้งานและความชอบของผู้ซื้อเป็นหลัก เอาตรงๆให้เทสไรเดอร์เลือกนี้ก็เลือกไม่ถูกเหมือนกันนะ ชอบทั้งสองรุ่นเลย!!

 

ข้อดี

  • New Forza 750 รูปทรงดูเท่สปอร์ตสวยแบบรักแรกพบ
  • ระบบอิเล็กทรอนิกส์มีให้เยอะครบทุกความต้องการ
  • แรงบิดของเครื่องยนต์ดีมาก ขี่สนุก ขี่มันส์

 

ข้อแนะนำ

  • New Forza 750 โช้คหลังต้องปรับตั้งค่าใหม่
  • ใต้ต้นขามีความร้อนพอประมาณ
  • ที่เก็บของใต้เบาะเล็กไปหน่อย

 

  • ราคาวางจำหน่าย ณ เดือนมีนาคม 2025
  • New Forza 750 ราคา 419,000 บาท 
  • สีดำด้าน MAT BALLISTIC BLACK METALLIC (BLK) , สีเทาด้าน IRIDIUM GRAY METALLIC (G-B) , สีน้ำตาลด้าน MAT WARM ASH METALLIC (BRB) (BROWN-BLK)

 

  • New X-ADV 750 ราคา 433,000 บาท
  • สีขาวดำ W-B , สีเหลือง-ดำ Y-B , สีเทา-ดำ G-B , สีดำ BLK

 

  • ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นตัวแทนจำหน่าย
  • ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
  • ค้นหาตัวแทนจำหน่าย สนใจสั่งซื้อ / สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  Honda BigWing

     

MotoWish ขอขอบคุณ

 

บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด

149 ถ.รถรางเก่า ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 10130 โทร. (02) 757-6111

 

ผู้ทดสอบ : @Rider 69

อ่านข่าว Reviews เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Honda เพิ่มที่นี่


 

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish



ห้ามคัดลอกบทความหรือเนื้อหาในเว็บ Motowish