รีวิว Honda PCX Hybrid 2018 ครั้งนี้คงเป็นครั้งแรกของการรีวิวรถ ที่เทสไรเดอร์รู้สึกเกร็งที่สุดในชีวิต ถึงแม้จะผ่านการขี่รถซุปเปอร์ไบค์ระดับ 258 แรงม้า มาแล้วก็ตาม ด้วยเพราะวันนี้เราจะนำเจ้ารถ PCX Hybrid ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนรุ่นแรกของโลกใหม่ล่าสุดคันนี้ ไปรับน้องสุดสวยคนหนึ่งซึ่งผมได้นัดกับน้องเขาไว้ว่า จะไปรับที่คอนโดและแวะกินกาแฟพูดคุยทำความรู้จักกันสักนิสส ก่อนที่จะไปส่งน้องเขาขึ้นรถไฟฟ้า ว่าแล้วก็จัดไปไม่พูดเยอะ…เจ็บคอ 555

ก่อนออกจากบ้านฟ้าฝนไม่เป็นใจเอาซะเลยดันเทลงมาซะงั้น… และแล้วผมก็วาปลุยฝ่าการจราจรอันแสนสาหัสมาถึงจุดหมายหน้าคอนโด กดมือถือโทรหาน้องเขาก็ลงมาหาอย่างรวดเร็ว ใส่หมวกกันน็อคซะหน่อยช่วงนี้กำลังรณรงค์ “สังคมหัวแข็งปี 3” จะได้ไม่ต้องทะเลาะกับพี่ตำรวจให้เสียอารมณ์

เห็นหน้าน้องสุดสวยครั้งแรกผมถึงกับอึ้งนิ่งไป 5 วิ จนน้องทักเรียกผม “พี่ๆเป็นไรค๊ะ” ผมตั้งสติได้จึงสวมหมวกให้น้องสุดสวย “อืมหืมม” น่ารักอะไรอย่างงี้คร๊าบบ ^^

พร้อมแล้วไปหาร้านนั่งกินกาแฟกันดีกว่าครับ…

เทสไรเดอร์ขี่รถ PCX Hybrid ไปแบบเกร็งๆ จะซิ่งก็กลัวน้องสุดสวยจะตกใจ จะเบรคแรงไปก็ไม่ควรนัก ขี่ไปแบบมือขวาเดินคันเร่งเนียนๆอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

และแล้วเราก็มาถึงร้านกาแฟในปั้ม ปตท. สุภาพบุรุษอย่างเราก็ต้องคอยถอดคอยใส่หมวกกันน็อคให้น้องสุดสวยตลอดอะครับ ว่าแล้วก็แวะเข้าไปกินกาแฟกันก่อนดีกว่า ระหว่างรอเอารถ PCX Hybrid ไปล้างให้หล่อๆ เพราะดูท่าทางฝนคงไม่ตกแล้ว

ก็ซักฟอกประวัติน้องกันพอหอมปากหอมคอ เอร๊ยย ไม่ได้ทำ!!! แค่จับมือสัญญากันว่าจะไปส่งน้องสุดสวยขึ้นรถไฟฟ้าอย่างปลอดภัยครับ และแล้วรถ PCX Hybrid ก็ล้างมาวิ้งๆหล่อเรียบร้อย ลองไปเดิมชมรอบรถกันสักหน่อยว่ารุ่นใหม่นี้มีดีอย่างไรบ้าง ดีเทลต่างจากรุ่น PCX 150 อย่างไร

รูปลักษณ์ภายนอก 

เริ่มต้นกันที่ไฟหน้า LED ดีไซด์รุ่นนี้สวยงามดีทีเดียว ดูเหมือนมีตาพร้อมคิ้วมาให้ตามเทรนสมัยนิยม และมีกรอบสีฟ้าเหมือนของรถยนต์ฮอนด้าตระกูล Hybrid

ตัดมาดูหน้าตากุญแจ Honda Smart Key (ฮอนด้า สมาร์ท คีย์) รีโมทที่มีปุ่มกดถึง 3 ฟังก์ชั่น ได้แก่

• ฟังก์ชั่นระบุตำแหน่งที่จะแสดงตำแหน่งรถด้วยไฟ Welcome Light และเสียงสัญญาณ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการค้นหารถ เวลาจอดตามห้างรึที่มีรถจอดอยู่เยอะๆ
• ฟังก์ชั่นสัญญาณกันขโมย ที่จะส่งสัญญาณเตือนทันที เมื่อรถมีการเคลื่อนที่หรือสั่นสะเทือน
• ฟังก์ชั่นเปิด-ปิดสัญญาณรีโมท ที่จะสั่งการหรือล็อกการเชื่อมต่อสัญญาณรีโมท กับสมาร์ทคอนโทรลเลอร์ โดยชุดฮอนด้าสมาร์ทคอนโทรลเลอร์ คือ ชุดควบคุมการทำงานระบบสตาร์ท ใช้งานง่ายสะดวกสบายเพียงบิดสวิตช์ พร้อมความหรูหราด้วย Blue Ring LED

สวิทช์ลูกบิดเอฟเวอรี่ติง (เทสไรเดอร์ตั้งเอง) เพราะใช้เปิด-ปิดระบบไฟ ระบบสตาร์ท รวมทั้งล็อคคอ ปลดล็อคการเปิดเบาะเปิดฝาถังน้ำมัน และมาพร้อมไฟวงแหวนที่เรียกว่า Blue Ring LED สีฟ้าเรืองแสงแบบรถยนต์ คือรวมทุกสิ่งในลูกบิดเดียว แต่ต้องทำความคุ้นเคยกันสักหน่อยช่วงแรกๆอาจจะมีงงๆกันบ้าง

หน้าจอแสดงผลทางฮอนด้าจัดเต็มแบบที่รถยนต์บางรุ่นยังต้องอาย New Full Digital Speedometer แสดงรายละเอียดของรถได้ดังนี้

• Riding Mode
• ช่องแสดงผลระบบ Hybrid (แถบด้านซ้ายของจอ)

ไฟแสดง Assist Level ช่องแสดงระดับการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าในขณะเร่งความเร็ว,

ไฟแสดง Charge Level ช่องแสดงระดับการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าในขณะชาร์จไฟเข้า

• มาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัล
• ไฟแจ้งเตือนการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
• นาฬิกาดิจิทัลบอกเวลา
• ไฟสัญญาณ Smart Key
• ไฟแสดงความพร้อมเครื่องยนต์
• ไฟ Stand By ระบบ Idling Stop
• ระบบบันทึกระยะทางการขับขี่
• มาตราวัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงดิจิตอล (แถบด้านขวาของจอ)
• คำนวณอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน

ดูภาพแบบกราฟฟิคแสดงวิธีการทำงานเพื่อความชัดเจนในรายละเอียดยิ่งขึ้น

สวิทช์แฮนด์ฝั่งขวามือ จะมีปุ่ม Run-Off , ไฟฉุกเฉิน , ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์

สวิทช์แฮนด์ฝั่งซ้ายมือ จะมีเพิ่มเติมสวิทช์ Mode ที่นิ้วชี้ เพื่อปรับเปลี่ยน Mode ต่างๆรายละเอียดมีดังนี้

Mode การทำงานจะเป็นลักษณะแบบกดวนเลื่อนโหมดไปเรื่อยๆตามภาพ

ช่องเก็บของด้านซ้ายมือมี Power Outlet ขนาด 12W MAX. (12V 1A) ไว้ชาร์จมือถือ

U-Box ขนาดความจุ 23 ลิตร โดยปรับขนาดลดลงจาก PCX 150 ไป 5.5 ลิตร เพื่อแบ่งพื้นที่ไว้เป็นที่เก็บแบตเตอรี่ Li-io ด้านท้ายนั้นเอง แต่ก็ยังสามารถเก็บหมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้อยู่  ส่วนใครที่กังวลเรื่องการรับประกันแบตเตอรี่ Li-on ทางฮอนด้าแจ้งอายุการใช้งานอยู่ที่ 6-8 ปี และรับประกันแบตเตอรี่รวมทั้งเครื่องยนต์ไฮบริดที่ 30,000 กิโลเมตร หรือ 3 ปี (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ราคาแบตเตอรี่ปัจจุบันประมาณ 20,000 บาท อนาคตราคาคงถูกลงเหมือนของรถยนต์

ระบบกันสะเทือน ระบบเบรค

ช่วงหน้าของตัวรถ PCX Hybrid เป็นระบบดิสก์เบรคจับกับคาลิปเปอร์คู่ Nissin เจ้าประจำ พร้อมกับระบบคอมบายเบรคกระจายแรงดัน แต่ไม่มีระบบ ABS มาให้ ล้อแม็กขนาด 14 นิ้ว สไตล์ใบพัดแบบญี่ปุ่นรัดด้วยยางแบบ Tubeless ขนาด 100/80 M/C 48P ยี่ห้อมิชลิน รุ่น City Grip (เหมือนรุ่น All New PCX) ด้านหลังเป็นระบบดรัมเบรคพร้อมโช้คอัพเดี่ยว

เครื่องยนต์ Honda PCX Hybrid ขนาด 150 ซีซี รหัส eSP หัวฉีด PGM-FI 4 จังหวะ ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ระบายความร้อนด้วยน้ำ

ส่วนล้อหลังเป็นระบบดรัมเบรคกับล้อแม็กขนาด 14 นิ้ว รัดด้วยยางแบบ Tubeless ขนาด 120/70 M/C 61P ยี่ห้อมิชลิน รุ่น City Grip (เหมือนรุ่น All New PCX)

มาดูด้ายท้ายรถมุมซ้ายและมุมขวากันบ้าง ดีไซด์ค่อนข้างลงตัวทีเดียว เบาะนั่งเย็บตะเข็บด้วยด้ายสีฟ้าอีกเช่นกัน ฮอนด้าก็ขยันเก็บรายละเอียดเหลือเกิ๊นน

ไฟท้ายแบบใหม่ LED Tail Light เป็นเลนส์แบบ Smoke Lens สีก็จะดำๆดุๆหน่อย

เห็นเทสไรเดอร์เติมน้ำมันเองอย่าเพิ่งแปลกใจว่าไปแย่งเด็กปั้มเติมรึป่าวนะ เพราะปั้ม ปตท. แห่งนี้เป็นแบบ Self Service (บริการตัวเอง) ราคาน้ำมันจะถูกกว่าปกติ 40 สตางค์ต่อลิตร  (แต่ละปั้มราคาไม่เท่ากัน) โดยแจ้งน้ำมันที่ต้องการเติมและจ่ายเงินให้กับพนักงานที่ตู้ก่อนเติม แล้วก็มาจัดการเติมเองได้เลย ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงของ PCX Hybrid นั้นมีขนาด 8 ลิตร

เทสไรเดอร์จัดน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จะได้ทดสอบหาอัตราสิ้นเปลืองกัน แต่คงไม่เน้นแบบประหยัดสุดๆนะครับ พอเป็นแนวทางพอเพราะไหนจะขี่ซ้อนสองคนอีก คงจะกินเยอะกว่าขี่คนเดียวอยู่แล้ว ซึ่งเจ้า PCX Hybrid สามารถเติมได้ทั้ง แก๊สโซฮอล์ 91 และ E20

เติมน้ำมันเรียบร้อยก็ให้น้องสุดสวยออกมาขึ้นรถ

เดี๊ยวๆ รู้นะคิดอัลไลลยู๋วว์ !! อย่าเพิ่งอิจเทสไรเดอร์ซิครัช เดี๊ยวพาน้องสุดสวยไปส่งที่รถไฟฟ้าแปร๊บบ ว่าแล้วสตาร์ทรถกันเลย เสียงเครื่องยนต์แว๊บแรกให้ความรู้สึกเงียบมากกว่ารุ่นเก่า เงียบจนรู้สึกได้ว่า…ตอนนี้เสียงหัวใจเทสไรเดอร์เต้นดังกว่าอีก !!

TEST  TEST

การตอบสนองของเครื่องยนต์

เริ่มต้นกันที่ Drive Mode (D) โหมดขับขี่ปกติ ซึ่งระบบมอเตอร์ไฟฟ้าจะช่วยในการออกตัวเพื่อการประหยัดน้ำมัน ช่วงการขับขี่ที่ความเร็วตั้งแต่ 0-60 กม./ชม. เครื่องยนต์ให้ความรู้สึกเงียบนุ่มนวลสมูทพอๆกับคนซ้อนท้ายเลยครับ เอ๊ะยังไง!! โดยทางฮอนด้าเคลมแรงบิด PCX Hybrid ดีกว่ารุ่นเก่าถึง 26% ช่วงออกตัวรู้สึกถึงความแตกต่างจาก PCX 150 ได้ทันที

ซึ่งถ้าเปรียบเทีบบกับ PCX 150 จะมีอาการรอบเครื่องฟรีทิ้งช่วงต้นๆอยู่เล็กน้อย เนื่องจากด้วยพื้นฐานเป็นระบบชุดชามคลัชท์ โดยการทำงานของ PCX Hybrid ระบบ PDU (Power Delivery Unit) จะสั่งการทำงานไปที่มอเตอร์ไฟฟ้า Motor Assitant ขนาด 1.9 แรงม้า ทำให้รถมีแรงบิดมากกว่ารุ่นเดิมอย่างรู้สึกได้ และเวลาที่เรายกคันเร่งระบบก็จะชาร์จไฟกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ Li-on

จากข้อมูลทดสอบของทาง A.P. Honda เปรียบเทียบความประหยัดและความเร็วของทั้งสองรุ่นดังนี้

                               ระยะทาง            ความเร็ว

PCX Hybrid     0-53 เมตร        62 กม./ชม.

PCX 150            0-50 เมตร        59 กม./ชม.

ลองใช้นิ้วชึ้ซ้ายกดเปลี่ยนโหมดเป็น Sport Mode (S) กันดูบ้างว่าจะแรงขนาดไหน เวลาที่ขับขี่แบบซ้อนสองคน ดูอาการน้องสุดสวยได้ครับ มีเงิบๆอยู่บ้างช่วงจังหวะเทสไรเดอร์กดคันเร่ง แรงบิดของรถถึงแม้ไม่ได้แรงมากมายแต่ก็ให้ความรู้สึกที่พุ่งขึ้นแบบสมูทๆ วิ่งต่อเนื่องไปเรื่อยๆจนถึงความเร็วที่ 110 กม./ชม. แรงบิดก็จะค่อยๆลดลง ซึ่งก็เพียงพอในระดับรถใช้งานแล้ว

รอยต่อช่วงระบบไฟฟ้ากับน้ำมันสมูทมาก ไม่มีอาการสะดุดให้รู้สึกถึงความแตกต่างให้เสียจังหวะแต่อย่างใด ความเร็วของรถช่วงที่ระบบไฟฟ้าทำงานความรู้สึกแทบไม่แตกต่างจากระบบน้ำมันเลย

ระะบบที่ฮอนด้าพัฒนาขึ้นมาอีกอย่างคือระบบ Idling Stop เมื่อรถ PCX Hybrid จอดหยุดนิ่งระบบจะดับเครื่องยนต์ในเวลาเพียงแค่ 0.5 วินาที ซึ่งทำงานได้เร็วกว่า PCX 150 ถึง 6 เท่า (3 วินาที) แต่จากการที่เทสไรเดอร์ทดสอบจริงๆ ผ่านการจอดติดไฟแดงประมาณเกือบ 20 ไฟแดง รู้สึกว่าระบบจะทำงานได้ที่เกือบๆ 1 วินาที อันนี้ใช้ความรู้สึกจับล้วนๆนะไม่ได้ถึงขั้นเอานาฬิกามาจับเวลา

สำหรับใครที่ไม่ต้องการระบบ Idling Stop ก็เลือกใช้โหมด Blank Mode เพื่อทำการปิดระบบได้

การคอนโทรล

ท่านั่งในการขับขี่เปรียบเทียบกับรุ่นเก่าแล้ว ให้ความรู้สึกที่กระชับมากขึ้นกว่าเดิม เบาะนั่งเหมือนจะบางแต่เทสไรเดอร์ได้ลองนั่งขี่ยาวๆช่วงขากลับประมาณชั่วโมงกว่า ก็ไม่รู้สึกแข็งหรือมีอาการปวดเมื่อยอย่างที่คิดไว้ รุ่นใหม่องศาแฮนด์เหมือนจะเอียงเข้าหาตัวผู้ขับขี่เล็กน้อย ทำให้การวางแขนในการคอลโทรลรถเป็นไปแบบสบายๆ (แต่ตอนนี้เทสไรเดอร์เริ่มเจ็บหลังแร๊ะ)

ระบบเบรค ระบบกันสะเทือน และช่วงล่าง

ระบบเบรคให้ความรู้สึกนุ่มนวลอีกเช่นกัน แทบไม่ต่างจาก PCX 150 แต่น่าเสียดายที่ไม่มีระบบเบรค ABS ติดรถมาให้ด้วย คิดว่าทางฮอนด้าน่าจะใส่ในรุ่นต่อไป ส่วนช่วงล่างด้านหลังค่อนข้างนิ่มไปสักเล็กน้อย เข้าใจว่าทางวิศวกรออกแบบคงเล็งเห็นถึงสภาพถนนอันขุรขระดั่งดวงพระจันทร์ของประเทศไทย เลยไม่ได้ออกแบบให้แข็งมานัก

ยางติดรถ

มิชลินรุ่น City Grip วันนี้เทสไรเดอร์เจอกับทุกสภาวะถนนทั้ง น้ำท่วม พื้นเปียก กึ่งเปียกกึ่งแห้ง ซึ่งรถคันนี้ได้ผ่านการใช้งานมาแล้ว 2,000 กว่ากิโลเมตร ยางซิตี้กริปค่อนข้างเกาะถนนได้ดีในทุกสภาวะ ไม่มีออกอาการแฉลบหรือสะบัดให้รถเสียอาการ รับน้ำหนักการซ้อนสองคนได้อย่างไม่มีปัญหา

อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน

โดยการขี่ทดสอบใช้จริงตลอดทั้งวัน ทั้งขี่คนเดียวและซ้อนสองคน อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 40 กว่ากิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งอยู่ในระดับที่ประหยัดมากทีเดียว

ข้อดี

• เครื่องยนต์ให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่นุ่มนวล สมูท แรงบิดช่วงรอบต้นดี ขี่สนุก
• เรือนไมล์ ไฟหน้า ไฟท้าย และรูปทรงสวยงาม ดูล้ำสมัย
• ยางติดรถดีกว่ารุ่น PCX 150 (ก่อน All New)

ข้อแนะนำ

• น่าจะมีระบบเบรค ABS ติดตั้งมาให้ด้วย เนื่องจากยังมีผู้บริโภคบางกลุ่มต้องการ แต่ก็เข้าใจว่าต้องแลกกับเงินที่ต้องเสียเพิ่มอีก ราคารถก็จะขยับขึ้นไปอีก
• ที่วางเท้าผู้ขับขี่พื้นที่น้อยไป ปีกแฟรริ่งด้านบนที่วางเท้าเกะกะไปหน่อยถ้าคนขี่ตัวใหญ่ขาใหญ่
• ปุ่มแตรยังคงอยู่ตำแหน่งสไตล์ฮอนด้าเหมือนเดิม

*อ่านรายละเอียดข้อมูล Honda PCX Hybrid เพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ด้านล่าง

MotoWish ขอขอบคุณ

บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด : สำหรับรถทดสอบ

149 ถ.รถรางเก่า ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 10130 โทร. (02) 757-6111

Nitek Helmet 2 Power : หมวกเท่ๆสำหรับสายซิ่ง

146/2  ซ.ศูนย์วิจัย 14  ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม  แขวงบางกะปิ  เขตห้วยขวาง  กรุงเทพฯ 10310 โทร. 081-823-0181 , 099-640-0592

> ผู้ทดสอบ : @Rider 69

อ่าน Reviews เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Honda PCX Hybrid เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Honda เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish