Home  »  Garage Tips   »   เลือก “ยาง” บิ๊กไบค์แบบไหนดี “เน้นใช้งานได้นาน” หรือ “เน้นการยึดเกาะ” ?

เลือก “ยาง” บิ๊กไบค์แบบไหนดี “เน้นใช้งานได้นาน” หรือ “เน้นการยึดเกาะ” ?

Choose tire for bigbike

คำถามที่อยู่ในใจของเหล่าไบค์เกอร์หลายคน หลังจากที่เพิ่งได้บิ๊กไบค์มาใหม่ หรือขี่บิ๊กไบค์มาได้สักระยะแล้ว พอถึงเวลาต้องเปลี่ยนยาง ก็จะต้องมานั่งคิดว่าจะเลือกใช้ยางแบบไหนดี จะเน้นการใข้งานได้นาน หรือ เน้นไปที่การยึดเกาะที่ดีกว่า วันนี้ทีมงาน MotoWish จะพามาหาคำตอบกันดีกว่าว่าจะเลือกแบบไหนดี

เมื่อพูดถึง “ยาง” แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ไบค์เกอร์ทุกคนจะต้องเปลี่ยนบ่อยที่สุดชิ้นหนึ่งในรถบิ๊กไบค์ของตัวเอง แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงการเลือกใช้งานจะต้องเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด มีให้เลือก 2 แบบ ระหว่าง “ยางที่เน้นการใช้งานยาวนานคุ้มค่า” และ “ยางที่มีความยึดเกาะสูง”

__Choose tire for bigbike-1

เริ่มต้นที่ การเลือกใช้งาน “ยางที่เน้นการใช้งานยาวนานคุ้มค่า” ความทนทานของยางคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกของเหล่าไบค์เกอร์ที่มีบิ๊กไบค์ แน่นอนว่าเมื่อเลือกยางที่เน้นการใช้งานได้นาน ก็ต้องแลกมากับคอมพาวยางที่มีความแข็ง อีกทั้งการยึดเกาะถนนที่ไม่ดีเท่าคอมพาวยางที่อ่อนกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการยึดเกาะจะไม่ดี เพียงแค่ประสิทธิภาพการยึดเกาะไม่ดีเท่ากับยางคอมพาวที่อ่อนกว่าแค่นั้นเอง

มาถึงการเลือกใข้ “ยางที่มีความยึดเกาะสูง” ก็จะต้องใช้ยางที่มีเนื้อยางที่มีความนิ่ม และเนื้อยางก็ต้องมีจำนวนมากกว่าปกติ หากนึกไม่ออก ยกตัวอย่างง่ายๆ นั่นก็คือ “ยางสลิค” นั่นเอง ถ้าไบค์เกอร์คนไหนชอบแบบยึดเกาะผิวสัมผัสสุดๆ คงหนีไม่พ้นยางชนิดนี้ เมื่อยึดเกาะดี ก็ต้องแลกมากับหน้ายางที่หมดไว เป็นเรื่องธรรมดา อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจเลยก็คือ ยางสลิค ไม่เหมาะกับน้ำหรือถนนเปียก หากเจอน้ำรับรองได้เลยว่าลื่นและเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุแน่นอน

 

ยางที่มีความยึดเกาะสูงไม่ได้มีเพียงแค่ยางสลิคอย่างเดียว ยังมียางสำหรับวิ่งบนนถนนทั่วไปที่สามารถเพิ่มความยึดเกาะได้มากเช่นเดียวกัน นั่นก็คือ ยางที่มีคอมพาวนุ่ม (Soft) นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้ยางที่มีคอมพาวนุ่ม ก็จะต้องแลกมากับยางที่หมดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติได้อย่างเสียอย่าง

__Choose tire for bigbike-3

เลือกยางแบบไหนดี?

 

สำหรับการเลือกยางนั้นเป็นเรื่องที่ไบค์เกอร์แต่ละคนต้องตั้งธงเอาไว้ในใจว่าต้องการแบบไหน หากอยากใช้ยางที่มีอายุการใช้งานยาวนานก็ต้องเลือกยางที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่บนถนนโดยเฉพาะ ซึ่งยางเหล่านี้ก็ยังมีความยึดเกาะที่ดีมากอยู่แล้ว แต่คอมพาวยางมีความแข็งกว่า อีกทั้งยังสามารถเอาไปใช้วิ่งในสนามแข่งได้ด้วย หากต้องการฟิลลิ่งแบบสนามยึดเกาะโหดๆ คงหนีไม่พ้น “ยางสลิค” ที่มีคอมพาวยางที่อ่อน

 

อย่างไรก็ตามการใช้ยางสลิคบนถนนปกตินั้นยังมีความเสี่ยงอยู่ เพราะถนนแต่ละที่นั้นไม่เหมือนกัน ทั้งคุณภาพถนน หน้าสัมผัสของถนน เศษฝุ่นบนถนน หรือถนนที่เปียก เหล่านี้คือปัจจัยที่เหล่าไบค์เกอร์ต้องเอามาพิจารณาด้วย ฉะนั้นต้องนั่งคิดดูว่าหากจากใช้ยางสลิคจะเหมาะกับถนนที่เราจะไปหรือไม่ บอกได้เลยว่าไม่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเอามาวิ่งบนถนน เอาไปใช้วิ่งในสนามแข่งขันดีกว่า

__Bridgestone BATTLAX Racing RS11

แนะนำยางบิ๊กไบค์

 

ยกตัวอย่างยางที่เหมาะสำหรับ “รถบิ๊กไบค์สายสปอร์ต” ที่ต้องการยางที่เข้ากับถนนของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี เช่น ยาง Bridgestone BATTLAX RACING STREET RS11 ซึ่งเป็นหนึ่งในยางตัวท๊อปของสายถนน ออกแบบมาตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการยึดเกาะขณะเข้าโค้ง และในช่วงระดับความเร็วสูง นอกจากนี้ยังสามารถเอาไปวิ่งในสนามแข่งขันได้ฟิลลิ่งเกือบเท่ายางสลิค

__MS・BELT

โดยยางตัวนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี HTSPC ลวดเหล็กที่มีฉนวนยางด้านในที่ช่วยควบคุมอุณภูมิและการระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดภาวะยางระเบิด ไม่เกิดการสะสมความชื้นซึ่งเป็นสาเหตุของการเสื่อมอายุของยาง อีกทั้งยังสามารถช่วยรักษารูปทรงและโครงสร้างยางไว้อีกด้วย เรียกได้ว่าทนทานอย่างแน่นอน

 

ที่ยางหน้ายังใช้เทคโนโลยี MS・BELT เทคโนโลยีขดลวดน้ำหนักเบาที่ใช้หุ้มโดยรอบของยาง มีน้ำหนักเบา มีความสมดุล ขี่ที่ความเร็วสูงได้แบบไม่ต้องกังวล และในเวลาที่ถนนเปียกก็ยังยึดเกาะได้ดี นอกจากนี้เนื้อยางยังได้เพิ่มปริมาณส่วนผสมของ “ซิลิกา” ในเนื้อยางให้มากยิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่บนถนนเปียกได้อย่างปลอดภัย

__3LCCAP_BASE

ส่วนยางหลังใช้เทคโนโลยี V-MS・BELT เป็นการดีไซน์ระยะห่างของเส้นลวด MS ・ BELT ที่พันรอบๆ เส้นรอบวงของยาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนอย่างลงตัว สามารถเสริมสร้างประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น และเนื้อยางยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี CAP&BASE ที่ผสานเนื้อยางสองชนิด โดยผิวสัมผัสบริเวณขอบยางใช้ยางเนื้อนิ่มกว่าเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการยิดเกาะเวลาเข้าโค้ง แต่บริเวณฐานใช้ยางที่แข็งขึ้นเพื่อเพิ่มความความแข็งแรง รับแรงกระแทกได้ดีขี้นและทำให้เข้าโค้งได้มั่นคงมากขึ้น

 

นอกจากนี้การออกแบบยางยังใช้เทคโนโลยี 3LC (3 Layer Compound) จะแบ่งเนื้อยางเป็น 3 โซน มีด้วยกัน 2 คอมพาว โดยในบริเวณขอบซ้ายและขวาจะใช้เนื้อยางที่นิ่มกว่า เพื่อเพิ่มการยึดเกาะเวลาเข้าโค้ง ส่วนเนื้อยางส่วนกลางนั้นจะใช้เนื้อยางที่แข็ง เพื่อเพิ่มความทนทานเวลาขี่ทางตรง

bridgestone-rs11-11

ในเรื่องของความทนทานของยาง Bridgestone BATTLAX RS11 ยังใช้เทคโนโลยี RC POLYMER โพลิเมอร์เป็นส่วนประกอบที่ช่วยลดการสึกหรอของยาง ส่วนซิลิกาเป็นตัวช่วยเพิ่มการยึดเกาะบนถนนเปียก ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญทั้งคู่ แต่สองส่วนประกอบนี้โดยธรรมชาติแล้วจะไม่สามารถผสมกันได้ และการแยกตัวของสองส่วนประกอบนี้ส่งผลต่อโครงสร้างของเนื้อยางและความรู้สึกเวลาขับขี่

 

และ ULTIMAT EYE เทคโนโลยีเอกสิทธิ์ของ Bridgestone ที่ใช้วัดผลและแสดงข้อมูลอย่างละเอียดของลักษณะการทำงานของยาง และผิวสัมผัสในทุกรูปแบบการขับขี่ในทุกสภาพถนน โดยสามารถรองรับการทำความเร็วได้ถึง 400 กม. ต่อชั่วโมงหรือการเข้าโค้งถึง 60 องศา ได้แบบสบายๆ

___Bridgestone BATTLAX RACING R11-1

ยังมียางอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ สามารถเอามาใช้บนถนนได้เช่นเดียวกันนั่นก็คือ ยาง Bridgestone BATTLAX RACING R11 เป็น “ยางสลิคที่นำเอามากัดดอก” โดยสเปคจะเป็นแบบเดียวกับยางสลิคเพียงแค่มีดอกยางเท่านั้น คอมพาวยางมีให้เลือกทั้งหมด 2 คอมพาว คือ Medium และ Soft

___Bridgestone BATTLAX HYPERSPORT S22 -1

ยังไม่หมดสำหรับยางบิ๊กไบค์สายถนน ยังมี Bridgestone BATTLAX HYPERSPORT S22 เป็นยางที่เรียกได้ว่าอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีทั้งหมดของ Bridgestone เข้าไปแบบไม่มีกั๊ก นอกจากเทคโนโลยีที่กล่าวไปแล้วข้างต้นแล้ว ยางรุ่นนี้นั้นได้ใส่ เทคโนโลยี 5LC (5 Layer Compound) ที่ยางหลัง

 

โดยจะมีเนื้อยางมากถึง 5 โซน และแบ่งออกเป็น 3 คอมพาว ซึ่งส่วนขอบสุดของยางนั้นใช้ยางที่นิ่มที่สุด เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการยึดเกาะเวลาเข้าโค้งแคบๆ แล้วขยับเข้ามาอีกก็ยังเป็นยางที่แข็งขึ้นมาอีกนิดหน่อย เหมือนกับ 3LC และตรงกลางก็เป็นเนื้อยางที่แข็ง ช่วยเรื่องความทนทานในการใช้งาน

 

สามารถอ่านรีวิวยาง Bridgestone BATTLAX HYPERSPORT S22 ได้ที่นี่

__Bridgestone RACING BATTLAX V02

สำหรับยางที่เน้นการยึดเกาะสูงสุดคงหนีไม่พ้นยางสลิคอย่างที่เคยกล่าวไปแล้วข้างต้น Bridgestone RACING BATTLAX V02 คือที่สุดของยางสลิคสายสนาม เป็นยางรุ่นเรือธง พัฒนามาเพื่อการแข่งโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมียางสลิคแบบมัลติคอมพาว หรือมีหลายคอมพาวในยางเดียวกัน และแน่นอนว่ามันออกแบบมาเพื่อสนามแข่งชัน ฉะนั้นยางหมดไวกว่ายางถนนอย่างแน่นอน

 

จากที่ได้ทำการทดสอบมา BATTLAX V02 สามารถวิ่งงานแทรคเดย์เต็มวันได้ถึง 4 วัน

ไบค์เกอร์ท่านไหนสนใจที่จะซื้อยาง Bridgestone มาใช้ สามารถติดต่อดีลเลอร์ใกล้บ้านโดย ค้นหาที่นี่ และสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับยางได้ ที่นี่

คลิปรีวิวยาง Bridgestone BATTLAX HYPERSPORT S22

Source Cr.: Bridgestone Moto Thailand

อ่านข่าว Garage Tips เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Bridgestone เพิ่มที่นี่


 

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish



ห้ามคัดลอกบทความหรือเนื้อหาในเว็บ Motowish